เปิดตำนาน Nissan Skyline GT-R

เปิดตำนาน Nissan Skyline GT-R




รถสปอร์ตสองประตูในตระกูล Skyline Gt-r ของ Nissan มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานกว่า 50 ปีแล้วโดยนับจากรุ่นแรกคือรุ่นPrince Skyline (1957) จนมาถึงรุ่นล่าสุดในยุคนี้คือ Nissan Gt-r R 35 (2008) โดย ที่ทุกๆรุ่นของ Gt-r เป็นรถยนต์แบบสปอตร์สองประตูเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลังโดย มีพละกำลังมากกว่ารุ่นปกติ การได้ขับ Gt-r ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นเก่าหรือรุ่นล่าสุดนั้นก็หมายถึงการได้ควบคุมเครื่องจักร พลังสูงไปบนเส้นทางแห่งการเดินทางร่วมกันระหว่างมนุษย์และจักรกล ตำนานแห่งความเร็วของรถยนต์ Nissan Skyline ที่สืบทอดสายพันธุ์รถสปอร์ตแรงม้าสูงยังคงสร้างประวัติศาสตร์บนเส้นทางของ โลกแห่งยนต์กรรมจากอดีตไปสู่อนาคตซึ่งนับได้ว่าเป็นเส้นทางของรถยนต์ที่มี บุคลิกหลากหลายมากที่สุด

Prince Skyline 1957
บริษัท รถยนต์ขนาด เล็กของญี่ปุ่นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองชื่อ Prince Motor Company (ช่ือดั้งเดิมของบริษัทนี้คือ Tachikawa Aircraft Company) ก่อนหน้าที่จะเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท Datson และแปลเปลี่ยนชื่อมาเป็น Nissan ในภายหลังเป็นผู้ให้กำเนิดต้นตระกูลของรถ Skyline ในปี คศ 1966 ซึ่งมันยังคงเป็นรถสี่ประตูระดับบนสุดคันแรกของ Prince Motor Company ในยุค1957 นั้นรถยนต์ทั่วๆไปยังคงมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังไม่มากนักและวิ่งด้วย ความเร็วสูงสุดได้แค่ 120กิโลเมตรเป็นส่วนใหญ่ แต่รถ Prince Skyline สามารทำความเร็วได้ถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ต้นตระกูลของ Skyline คันนี้มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กแค่ 1482 c.c. สี่สูบและมีแรงม้าเพียงน้อยนิดแค่ 60 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใช้เวลาไปถึง 15.0 วินาที



Prince Skyline Sport Coupe 1962
ดี เอนเอของ Skyline รุ่นแรกปี 1957 ถูกส่งต่อมายังรุ่นที่สองโดยใช้มันสมองของ Car Designer ระดับโลกอย่าง Michelotti ซึ่งทำให้รถรุ่นที่สองนี้มีกลิ่นไอรวมถึงรูปทรงแบบคูเป้ของรถยนต์จากอิตาลี ผสมผสานอยู่ Prince Skyline Sport Coupe ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ่นเล็กน้อยและผลิตในจำนวนจำกัดแค่ 200 คันเท่านั้น ความสวยงามของรูปทรงแบบรถสองประตูคูเป้และสมถนะที่ดีขึ้นทำให้มันได้รับความ นิยมมากในญี่ปุ่น เครื่องยนต์มีความจุเพิ่มขึ้นจากรุ่นแรก 1482 c.c.มาเป็น 1862 c.c. สี่สูบ 94 แรงม้าโดยยังคงอัตราเร่งเดิมที่ 0-100 กิโลเมตรใน15 วินาที




Prince Skyline 2000 Gt S54 1964
เจ เนอรเรชั่นที่สามของ Skyline กลับมาใช้รูปแบบของรถยนต์สี่ประตูเหมือนกับรุ่นแรกอีกครั้ง นอกจากจะเป็นรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไปแล้วมันยังถูกนำไปใช้แข่งขันในสนามแข่ง รถยนต์ทางเรียบประเภท Gt ของทีมแข่งในญี่ปุ่นอีกด้วย ความแรงของเครื่องยนต์ทำให้มันสามารถกำชัยชนะเหนือรถยนต์จากยุโรปบางค่ายได้ จากเครื่องยนต์ที่มีความจุและจำนวนกระบอกสูบเพิ่มขึ้น Skyline 2000 Gt S54 ทุกคันติดตั้งเครื่องยนต์หกสูบแถวเรียงขนาด1988 c.c. 162 แรงม้า เร่งจากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 9.0 วินาที


Nissan Skyline 2000 Gt-r C10 1969
สาย เลือดของรถแข่งเริ่มส่งต่อมายัง Skyline 2000 Gt-r C10 ในรุ่นที่สี่ และจากการเข้าควบรวมกิจการระหว่าง Nissan กับ Prince Motor Company ในปี 1966 ทำให้มันกลายไปเป็นรถแข่งชั้นดีที่สามารถใช้แข่งขันได้ทั้งในสนามแข่งรถรวม ถึงการแข่งขันแบบแรลลี่ทั่วโลก ถ้วยรางวัยชนะเลิศกว่า 50 ใบเป็นเครื่องมือการันตรีประสิทธิ์ภาพของตัวรถได้เป็นอย่างดี วัยรุ่นของญี่ปุ่นที่ชื่นชอบในความเร็วต่างพากันซื้อรถรุ่นนี้และมักจะนำออก มาขับแข่งขันบนท้องถนนในยามค่ำคืนจนเกิดเป็นที่มาของคำว่า Mid Night Racing ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดศูนย์รวมของพวกบ้าความเร็วที่มักจะรวมตัวกันในคืนวัน หยุดสุดสัปดาห์และพากันตระเวณไปทั่วบนท้องถนนของกรุงโตเกียว 2000 Gt-r C10 วางเครื่องยนต์ตัวแรงหกสูบ 1998 c.c. สร้างแรงม้าได้ 160 แรง และมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 8.2 วินาทีในเครื่องยนต์เดิมๆจากโรงงานที่ยังไม่ได้ผ่านการปรับแต่งเพื่อเพิ่ม

Nissan Skyline 2000 Gt-r 1973
อนุกรม ของรถ Skyline ถูกส่งต่อมายังรุ่น 2000 Gt-r ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ห้าของตระกูลโดยการเริ่มต้นนำไฟท้ายแบบทรงกลมสองดวงมาใช้ (หรือมักนิยมเรียกขานกันในหมู่นักเลงรถว่า ไฟโดนัท) ต่อมาไฟท้ายแบบนี้ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของ Skyline ทุกรุ่นในยุค 1973 จวบจนมาถึงปัจจุบันนี้ และจากสภาวะการณ์น้ำมันในตลาดโลกที่มีราคาสูงขึ้นมากกว่าความเป็นจริงในขณะ นั้นทำให้ 2000 Gt-r 1973 ต้องประสบกับปัญาหาที่ไม่สามารถทำตลาดในเป้าหมายที่วางไว้ได้ หลายๆบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างต้องพบกับความตกต่ำของเศรษฐกิจโลกจนเกิดสภาวะ ที่ซบเซาไปทั่ว Skyline 2000 Gt-r 1973 มีเครื่องยนต์แถวเรียงหกสูบขนาดความจุ 1998 c.c. Dohc พร้อมติดตั้งคาร์บูเรเตอร์สามตัว อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 8.3 วินาที


Nissan Skyline 2000 Gt 1977
สาย พันธุ์แห่งความแรงรุ่นที่หกของรถ Skyline ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1977 ปีที่สภาวะการของราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงทำให้ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกดีขึ้น วิศวกรของ Nissan จึงได้นำเอาระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบมาใส่ไว้ในเครื่องยนต์ของ Skyline 2000 Gt 1977 เพื่อเพิ่มเติมพละกำลัง แต่การขับขี่และควบคุมตัวรถกลับทำได้ด้อยลงกว่ารุ่น C10 และการออกแบบที่ดูแย่กว่ารุ่น 2000 Gt-r 1973 ถึงแม้ว่ามันจะมีการตกแต่งภายในที่ดูดีกว่า Skyline ทุกรุ่นที่ Nissan เคยผลิตออกมาก็ตาม Skyline 2000 Gt 1977 ในรุ่นที่หกนี้มีพละกำลังที่ได้มาจากเครื่องยนต์แถวเรียงหกสูบความจุ 1998 c.c. เทอร์โบ ซึ่งดูแล้วน่าจะมีกำลังที่แรงกว่าทุกรุ่นแต่กลับกลายเป็นว่ามันมีแรงม้า เพียงแค่ 130 ตัวเท่านั้น ทำให้ตัวรถที่มีน้ำหนักประมาณ 1100 กิโลกรัมอืดอาดและไม่คล่องตัวเท่ากับรุ่นพี่ที่เคยทำมาตรฐานด้านอัตราเร่ง แซงและความเร็วสูงสุดเอาไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมากที่สุดของเหล่าบรรดาสาวก Skyline




Nissan Skyline Rs Turbo 1983 (R 31)
เจ้า ปีศาจไฟโดนัทรุ่นที่เจ็ดเปิดมิติใหม่ของเครื่องยนต์ติด เทอร์โบพลังแรงสูงใน ยุคนั้นให้ผู้คนได้ตื่นตะลึงในความแรงของตัวรถ และสร้างแรงบรรดาลใจให้กับเหล่าผู้บริหารรวมถึงบรรดาวิศวกรเครื่องยนต์ของ Nissan ทำการเปิดแผนก Motor Sport เล็กๆขึ้นภายในบริษัทโดยใช้ชื่อว่า Nismo ซึ่งต่อมาจะกลายสภาพมาเป็นสำนักงานที่ทำเครื่องยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งเพื่อ เพิ่มแรงม้าให้กับผู้ใช้รถยนต์ Nissan ที่มีชื่อเสียงในอันดับต้นๆของวงการ Motor Sport ระดับโลก Skyline Rs Turbo 1983 หันกลับมาใช้เครื่องยนต์สี่สูบความจุ 1990 c.c. เทอร์โบโดยมีแรงม้ามากถึง 202 แรงม้า และมีอัตราเร่งที่ทำเอา Porsche 911 รถสปอร์ตจากแดนกางเขนเหล็กที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแรงของยุค 80 ต้องเกิดอาการหนาวๆร้อนๆจากอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรของ Skyline Rs Turbo ที่ทำเวลาได้เพียง 7.5 วินาทีเท่านั้น



Nissan Skyline Gt-r 1989 (R 32)
ตำแหน่ง ชนะเลิศทุกรายการในปี 1989 ของการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ Jtcc (Japanese Touring Car Championship)ของ Skyline R32 ได้มาจากเทคโนโลยีของเครื่องยนต์และตัวรถที่พัฒนาโดยสำนักแต่ง Nismo พ่อมดผู้เศกเป่าความแรงให้กับ Gt-r R32 นอกจากนั้นมันยังถูกนำไปแข่งในประเภททางตรงจับเวลาแบบควอเตอร์ไมล์อีกด้วย R32 ยังมีระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อเพื่อสร้างแรงยึดเกาะกับผิวถนนยามวิ่งด้วย ความเร็วสูง เครื่องยนต์เทอร์โบรุ่นใหม่รหัส RB 26 Dett รวมไปถึงกลีบใบพัดของเทอร์โบที่ทำจากวัสดุเซรามิคเพื่อให้คงทนต่อความร้อน ยามใช้งานในรอบเครื่องยนต์สูงๆบนสนามแข่งขัน รถรุ่น R32 1989 กลับมาใช้เครื่องยนต์แถวเรียงหกสูบ 2568 c.c. ทวินเทอร์โบ (เทอร์โบสองตัวที่ทำงานต่างกันโดยตัวแรกจะเริ่มทำงานในรอบเครื่องต่ำและตัว ที่สองจะทำงานในรอบเครื่องที่สูงขึ้น ทำให้มีอัตราเร่งแบบต่อเนื่องดีขึ้นมาก) ได้แรงม้าจากโรงงานโดยยังไม่ผ่านการโมดิฟายถึง 280 ตัวสูงสุดตามกฏหมายของญี่ปุ่นซึ่งมีอัตราเร่งที่ชวนให้ขนหัวลุก 0-100 กิโลเมตรเพียง 4.7 วินาทีเท่านั้น


Nissan Skyline Gt-r 1995 (R33)
สาย พันธุ์อสูรร้ายในโมเดลที่เก้าถูกผลิตขึ้นมาเมื่อปี 1995 R33เป็นรถที่ถูกปรับแต่งเพื่อเพิ่มเติมพละกำลังให้ถึงขีดสุดในรุ่น V-Spec ที่สามารถวิ่งได้เร็วถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมงรวมถึงรุ่นพิเศษ 400 R ซึ่งเป็นที่ต้องการของเหล่าสาวก Skyline เนื่องจากมันมีแรงม้าถึง 400 แรงม้าจากการปรับจุนเครื่องยนต์ของช่างผู้ชำนาญงานจาก Nissan รถ Skyline R33 เป็นที่นิยมมากในบรรดาวัยรุ่นที่ชอบรถสปอร์ตเครื่องแรงและพวกชอบแข่งรถทาง ตรงแบบจับเวลาคอวเตอร์ไมล์ เครื่องยนต์ของรุ่นนี้ยังคงเป็นเครื่องหกสูบแถวเรียงรหัส RB26 Dett 2568 c.c.ทวินเทอร์โบที่ถูกปรับปรุงกลไกภายในให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่า มีม้าคับคั่งขึ้นถึง 300 แรงม้าส่วนอัตราเร่งและความเร็วสุงสุดยังคงใกล้เคียงกับตัวเก่า (R32)


Nissan Skyline Gt-r 1999 (R34)
เจ นอร์เรชั่นที่สิบของตระกูล Gt-r เกิดขึ้นมาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิตอลในยุค 2000 R34 ทุกคันติดตั้งจอแสดงผลแบบ Lcd ที่สามารถแสดงข้อมูลของเครื่องยนต์และตัวรถในขณะขับใช้งานได้ถึง 7 แบบ ส่วนรุ่น V-Spec มีโครงรถผสมกันระหว่างคาร์บอนไฟเบอร์ อลูมินัมและเหล็กกล้า ฝากระโปรงหน้าทำจากอลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนักจึงนับได้ว่ารถรุ่นนี้มีความ ก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงมาก นักเลงรถ Skyline บางคนถึงกับยกให้มันเป็นรถ Skyline Gt-r ที่มีรูปทรงสวยงามอมตะและคงความคลาสสิกตลอดกาล R34 Gt-r วางเครื่องยนต์แถวเรียงหกสูบขนาด 2568 c.c.ทวินเทอร์โบ 330แรงม้า เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรภายในเวลาแค่่ 4.5 วินาทีเท่านั้น


Nissan Skyline Coupe 2005 (V35)
ความ สับสนและมึนงงของผู้บริหาร Nissan ส่งผลให้ Skyline ในรุ่นที่สิบเอ็ดนี้เป็นรถที่ทุกๆคนต่างเมินหน้าหนี V35 หันไปใช้ชัสซีร่วมกับ Nissan 350Z รวมไปถึงขุมพลังแบบ V6 ที่ไร้สิ้นซึ่งความแรงและขุนไม่ขึ้นอีกทั้งระบบขับเคลื่อนลี่ล้อของรุ่นเก่า ยังถูกถอดออกไปเพื่อลดต้นทุนทำให้รถ Skyline V35 Coupe รุ่นนี้มียอดขายที่ตกต่ำลงมาก เครื่องหมายแห่งตำนานอย่าง GT-R ก็ยังถูกเอาออกไปด้วย ทำให้มันยิ่งโดนรังเกียจจากบรรดาแฟนพันธุ์แท้ รวมไปถึงเหล่าวิศวกรของ Nismo ที่พากันมึนงงไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับเครื่องยนต์ V6 ที่ไม่ค่อยจะเข้ากับบุคลิคของตัวรถ การกระจายน้ำหนักที่มีค่าเฉลี่ยไม่ค่อยดีนักทำให้มันกลายเป็นโมเดลส่วนเกิน ของตระกูล Skyline
เครื่องยนต์ของ Skyline V35 เป็นเครื่องยนต์แบบวีหกสูบ 3498 c.c. 298แรงม้า

 
Nissan Gt-r R35 2008
หลัง จากเสียงก่นด่าของเหล่าบรรดาผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ทั่วโลกจากนักทดสอบและ วิจารณ์รถยนต์รวมถึงบรรดาสาวกผู้ภักดีของ Gt-r ที่มีต่อ Skyline V35 ทำให้ไปกระตุ้นต่อมสมองของผู้บริหาร Nissan ว่าสิ่งที่กระทำลงไปในตัวรถ V35 นั้นเหมือนกับการไปทำลายตำนานแห่งความแรงที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของ Gt-r เสียจนแทบสูญสิ้นไปจากความทรงจำและประวัติศาสตร์ของบริษัทรวมไปถึงยอดการขาย รถยนต์แบบสปอตร์สองประตูรุ่นสูงสุดของค่ายที่มีตัวเลขหดหายลงไปจนน่าตกใจและ ส่งแรงสั่นสะเทือนจนไปถึง Carlos Ghosn ซึ่งรับหน้าที่เป็นซีอีโอของค่ายเห็นถึงความตกต่ำของรุ่น V35 นายใหญ่ของ Nissan จึงสั่งการไปยังพลพรรควิศวกรชั้นหัวกระทิของสำนัก Nismo ทำการออกแบบและสร้าง Gt-r รุ่นใหม่ล่าสุดให้ออกมาดีกว่าทุกๆรุ่นที่ Nissan เคยสร้างไว้ Gt-r R35 กลับมาเกิดใหม่ด้วยรูปทรงที่ยังคงเอกลักษณ์ของ Skyline Gt-r ไว้แทบทั้งหมด ไฟท้ายแบบโดนัทก็ยังถูกนำกลับมาใช้เหมือนเดิมหลังจากเสียภาพลักษณ์ไปในรุ่น V35 รวมถึงระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อที่ขึ้นชื่อเรื่องการเกาะถนน เครื่องยนต์หกสูบแถวเรียงทวินเทอร์โบรหัส RB26Dett ที่มีการพัฒนาจนถึงขีดสุดแล้วในรุ่น R34 ถูกเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์วี 6 ทวินเทอร์โบความจุ 3799 c.c. 24 วาว์ล 473แรงม้าที่ 6400 รอบต่อนาที และมีอัตราเร่งชวนขนหัวลุก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 3.6 วินาที แรงเสีียจนซุปเปอร์คาร์ในยุคนี้อย่าง Porsche 911 Gt-2, Ferrari599 Gtb ,หรือแม้กระทั่ง Lamborghini Lp640 ยังต้องหวั่นเกรงในอัตราเร่งและแรงม้าอันท่วมท้นของ Gt-r R35


เครื่องยนต์ตัวใหม่ของ Gt-r R35 2008 ใช้รหัสว่า VR38 Dett โดยไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับเครื่องยนต์วี 6 ของ 350Z ในเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ผู้ขับสามารถดึงกำลังจากรอบต่ำได้อย่างว่องไวและต่อ เนื่องไปจนถึง รอบสูงสุดโดยมีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบสองตัวที่ทำงานต่างรอบกัน รวมไปถึงชุดเกียร์แบบใหม่ล่าสุด Transaxle 6 สปีดระบบคลัซคู่ที่มีอัตราการเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วถึง 0.2 วินาทีในการเปลี่ยนเกียร์ขึ้น-ลง Gt-r R35 คือผลลัพธ์ของเทคโนโลยีและวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงสุดของ Nissan ที่ออกแบบมาเพื่อให้กลายเป็นคู่ต่อสู้ของบรรดาซุปเปอร์คาร์ฝีเท้าจัดจาก ยุโรป มันทั้งควบคุมได้ง่ายในย่านความเร็วสูงและมีกำลังของเครื่องยนต์ที่ เหลือเฟือเพียงพอที่จะใช้ขับแข่งในสนามแข่งรถโดยแทบไม่ต้องปรับปรุงเพิ่ม เติมอะไรอีกแล้ว การกลับมาของ Gt-r R35 2008 แสดงให้เห็นว่าสายพันธุ์ตำนานแห่งความเร็วและแรงของ Nissan Skyline Gt-r จะยังคงอยู่
                                                                                                     .

#เปิดตำนาน #Nissan #Skyline #GT #R
FasEz
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIP
23 ม.ค. 54 เวลา 16:50 20,106 58 200
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...