ต้นกำเนิดหมาป่า!!

 



เอาประวัติเปื้อนเลือดของ วลาดนักเสียบมาเขียนนวนิยายเกี่ยวกับตัวตนอันชั่วร้ายกระหายชีวิตเหยื่อนาม เคาท์แดร็คคิวลา ให้คนรุ่นหลังได้อ่านกันในภายหลัง (มีบทความบางชิ้นกล่าวค้านเรื่องนี้ครับ ว่าสโตเกอร์ไม่ได้รู้จักมักคุ้นใดๆกับตำนานนี้เลย ทุกอย่างเป็นแค่การโยงเรื่องของคนรุ่นหลังเท่านั้น ไว้มีเวลาว่างผมจะแกะมาให้อ่านกันนะครับ)


Erzebet Bathory สตรีผู้อาบและดื่มเลือดหญิงสาว


บุคคลในประวัติศาสตร์อีกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตำนานแวมไพร์อย่างลึกซึ้งได้แก่ RayOn เอ๊ย Erzebet Bathory ครับ ข้อมูลหลายแหล่งกล่าวตรงกันว่าเธอเป็นเคาท์เตสผู้เลอโฉมคนหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้รับรู้เรื่องราวของเธอต้องตกตะลึงมานักต่อนักแล้ว เปล่าหรอกครับ... ไม่ได้ตะลึงเพราะความงามนะ แต่ตะลึงในความโหดร้ายของเธอหลังจากที่ได้รับการรายงานเรื่องความโหดร้ายของเธอ ในตอนสอบสวนคดี Bathory เมื่อปี 1611 ในฮังการีตะหากล่ะครับ


Erzebet Bathory ได้สังหารหญิงสาวไปมากกว่า 300 นาง จากนั้นจึงนำเอาร่างอันปราศจากลมหายใจของเหยื่อไปใส่ไว้ในโลงที่มีเหล็กแหลม เพื่อทำการคัดเอาเลือดสดๆของเหยื่อออกมา ผู้ติดตามของ Bathory พากันสารภาพว่าที่เคาท์เตสแสนสวยทำลงไปเช่นนั้นเพราะต้องการดื่มเลือดสดๆของเหยื่อ วันดีคืนดีก็มีการนำมาอาบบ้าง ด้วยเชื่อว่าเลือดสดๆของหญิงสาวจะช่วยรักษาความเยาว์วัยและยืดอายุขัยของเธอออกไปได้ (โหดแฮะ... เจอเข้าแบบนี้นางแม่มดวาชิกาแห่งเพชรพระอุมากลายเป็นสุภาพสตรีไปเลยเนี่ย)


กิจกรรมโหดของ Bathory ต้องสิ้นสุดลง เพราะทางการทนฟังเสียงร้องเรียนจากประชาชนกรณีหญิงสาวหายตัวไปอย่างลึกลับไม่ไหว กองทหารเล็กๆกองหนึ่งได้รับคำสั่งลับให้สืบสวนเรื่องนี้โดยด่วน (ผู้นำกองทหารดังกล่าวนี้เป็นญาติของ Bathory เองครับ) สายสืบรายงานว่าหญิงสาวที่หายไปนั้น ร่องรอยสุดท้ายของพวกเธอมักขาดหายไปบริเวณคฤหาสน์ของเคาท์เตส Erzebet Bathory ภายหลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้ว ผู้นำกองทหารจึงตัดสินใจบุกเข้าตรวจค้นคฤหาสน์ของเคาท์เตส Bathory โดยไม่ต้องอาศัยหมายศาล


พวกเขาต้องตกตะลึงภายหลังจากพังประตูปราสาทเข้าไปแบบไม่บอกกล่าว และพบว่า Bathory และสาวกกำลังประกอบกิจกรรมชนิดไหนกันอยู่ การจับกุมแบบยกแก๊งเกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีการสอบสวนเนื่องจากพยานวัตถุมีให้เห็นอยู่ทนโท่ ตัว Erzebet Bathory เองพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปล่อยตัวเธอไปแต่ไม่มีใครยอมเล่นด้วยครับ เธอรอดโทษทัณฑ์ประหารชีวิตไปได้เพราะความที่มีเชื้อเป็นเจ้าใหญ่นายโต ถึงกระนั้นการโดนจองจำในห้องขังที่ไม่มีทั้งประตูและหน้าต่างไปตลอดชีวิต ก็ไม่ถือว่าสาสมกับบาปที่ตัวเธอได้ก่อขึ้น Bathory ใช้เวลาที่เหลือจากวันไต่สวนจวบจนสิ้นอายุขัยในห้องขังดังกล่าวนั้นเองครับ


เข้าใจว่า บราม สโตเกอร์ นำเรื่องของปราสาท Csejthe ของ Erzebet Bathory อันเป็นปราสาทที่เต็มไปด้วยห้องใต้ดินและกลไกอันซับซ้อนมาเป็นโมเดลของปราสาทมืด เอ๊ย... ปราสาทของท่านเคาท์แดร็คคิวลาในนิยายของเขาในภายหลัง ส่วนใครที่สงสัยว่าปราสาทที่เต็มไปด้วยกลไกอันตรายนั้นเป็นอย่างไร ลองหา Castlevania มาเล่นดูซักภาคสิครับ เดี๋ยวก็บางอ้อเองแหละ ^.^Detecting Vampires


ผมได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วนะครับว่า ความเชื่อของชาวยุโรปโบราณก็คือคนเราสามารถกลายเป็นแวมไพร์ได้ในทุกขณะจิต หากเกิดการตายที่ผิดปกติวิสัยขึ้น เป็นต้นว่าการฆ่าตัวตาย (ซึ่งถือเป็นบาปร้ายแรงสำหรับชาวคริสต์) การตายเพราะคำสาปมนตร์ดำ, ตายขณะที่กำลังคลอด หรือแม้แต่การตายเนื่องจากถูกฆาตรกรรม ความตายเหล่านี้จะทำให้วิญญาณของผู้ตายผูกติดอยู่กับร่าง และกลายเป็น Undead หรือแวมไพร์ไปในที่สุด โทษานุโทษที่แวมไพร์มีกับมนุษย์ก็สุดแต่จะว่ากันไปตามความเชื่อของชนชาติครับ แต่ที่แน่ๆคือคนตายน่าจะอยู่ส่วนคนตาย อย่าว่าแต่ชาวยุโรปโบราณเลย แม้แต่ในบ้านเราก็ไม่มีคนเป็นที่ไหนอยากจะวิสาสะกับคนตายหรอกครับ หรือว่าคุณอยาก?


เมื่อมีกรณีของการตายที่ล่อแหลมต่อการเป็นแวมไพร์เกิดขึ้นในชุมชน ชาวยุโรปเค้าก็มีวิธีแก้เคล็ดครับ เป็นต้นว่าตัดคอของศพออกเสียจากนั้นจึงแยกฝังไว้คนละโลงกัน ในบางครั้งพวกเขาจะใส่ของขลังลงไปในโลงด้วย เช่น ขนมปังที่ผ่านการทำพิธีจากโบสถ์, มะนาว, ที่ฮิตสุดๆก็ต้องเป็นนี่เลยครับ กาลิค-กลีบกระเทียม นัยว่าแวมไพร์กลัวของเหล่านี้ การใส่ของขลังดังกล่าวลงไปจะช่วยมิให้วิญญาณของแวมไพร์กลับมาเข้าร่างได้ภายหลังที่เงามืดของรัตติกาลแผ่ปกคลุม ที่กล่าวไปแล้วคือการป้องกันมิให้ศพกลายเป็นแวมไพร์ไปเสียนะครับ ส่วนศพที่แน่ใจว่าเป็นแวมไพร์ไปแล้วล่ะ จะทำอย่างไร?


ไม่ยากเลยครับ(แต่ต้องกล้ากันหน่อย) วิธีจัดการเราเห็นกันถมถืดในภาพยนตร์ คือหลังจากที่แน่ใจว่าศพไหนกลายเป็นแวมไพร์ไปแล้ว ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินคนโบราณจะพากันขุดศพนั้นขึ้นมาครับ (ไม่รู้เป็นไงสิน่า ดูหนังทีไรมันขุดเสร็จช่วงพระอาทิตย์ตกพอดี ร้อยทั้งร้อยเรื่องไหนก็เรื่องนั้น) จากนั้นให้เอาลิ่มแหลมที่ทำจากไม้มาตอกอกให้ทะลุหัวใจ หรือไม่ก็ตัดคอเสีย บางตำราบอกว่าเท่านั้นยังไม่ได้ผลครับ ต้องลากขึ้นมาณาปนกิจกันตรงนั้นแหละ ทีนี้ถ้าโชคดีเจอแวมไพร์ที่มีฤทธิ์แก่กล้าเข้าเราจะไม่สามารถทำอันตรายมันได้ด้วยลิ่มหรือการจับย่างเลยครับ ต้องอาศัย Option เพิ่มเติมในการปราบ อุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับการนี้ได้แก่กางเขนหรือกริชที่ทำจากโลหะเงินครับ ลองเจอไอ้นี่เข้าเหอะน่ารับรองว่าแวมไพร์ตนนั้นเป็นต้องสลายกลายเป็นขี้เถ้าในพริบตาเลยครับ


แต่ส่วนใหญ่แล้วแวมไพร์มักถูกกำจัดลงง่ายๆด้วยวิธีการเผาหรือตัดคออย่างที่ว่าไปแล้ว หลังจากที่เผาแวมไพร์จนกลายเป็นขี้เถ้าคณะปราบแวมไพร์จะแยกกองขี้เถ้าออกเป็นสี่ส่วนเพื่อโปรยไปตามลมทั้งสี่ทิศ นัยว่าเป็นการแก้เคล็ดมิให้เกิดโรคระบาดขึ้น แต่ในกรณีที่ทั้งตอกลิ่ม ตัดคอ เอากริชเงินจิ้ม ทั้งเผาไฟแต่มันยังไม่ยอมไหม้นี่ ตำราเค้าไม่ได้ระบุไว้นะครับว่าต้องทำยังไงกันต่อ ^^!

#หมาป่า
birdthe2
ช่างเทคนิค
13 ต.ค. 53 เวลา 19:47 2,439 2 4
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...