แม่ฟิล์มช็อคหามส่งรพ. ปวดใจ"เจ๊เบียบ"ด่าลูก ดาราดังแถลงอีกรอบ "มารดาแอนนี่"ก็ทรุด
กระแสข่าวความอื้อฉาวของศิลปินนักร้องนักแสดงชื่อดัง"ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ"แอนนี่ บรู๊ค"นักแสดงสาวลูกครึ่ง จนท้องและมีลูกชายวัย 3 เดือนด้วยกัน ยังตกเป็นประเด็นที่ถูกหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง จนทำให้คุณแม่ทั้งของ "ฟิล์ม-แอนนี่" เครียดถึงกับทรุดล้มป่วยไปตามๆ กัน

"เจ๊เบียบ"โผล่ชมเฮียฮ้อยุติธรรม
โดยเมื่อเวลา08.10น.วันที่ 22 กันยายน นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ได้กล่าวผ่านรายการ "เรื่องเล่าเช้านี้"ทางช่อง 3 ถึงกรณีของฟิล์ม-รัฐภูมิว่า ต้องชมเฮียฮ้อ (นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส ที่ให้ความยุติธรรม และเข้าใจปัญหาเป็นแบบอย่างของผู้ชายที่รับผิดชอบ

อัดคนพูดผู้หญิงไม่ให้ใส่ถุงยาง
"แต่อีกคนหนึ่งไม่รู้เขาเป็นใคร เหมือนว่าเป็นคนปั้นฟิล์ม ออกมาบอกว่าผู้หญิงทำหมันแล้วไม่ต้องใส่ถุงยางอนามัย พี่แดงว่า ผู้ชายที่พูดถึงคนอื่นอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ถึงรักกันยังไงก็ไม่ควรพูดถึงบุคคลที่สาม ในฐานะที่ตัวเองเป็นผู้ใหญ่กว่าและในฐานะลูกผู้ชาย" นางระเบียบรัตน์ กล่าว และว่า คนที่พูดมีสิทธิ์พูดข้างนอกแต่ไม่มีสิทธิ์พูดต่อสาธารณะ

ชี้เป็นอุทธาหรณ์สอนใจสตรี
นางระเบียบรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่ เรื่องนี้มีประโยชน์และเป็นอุทธาณหรณ์สอนใจกับผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัว มีเพศเสรีจะทำมาซึ่งปัญหากระทบสังคม แต่ขอชื่นชมแอนนี่มีจิตวิญญาณความเป็นแม่ ไม่คิดทำลายลูก แม้ผู้ชายไม่รับผิดชอบ ก็จะก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูกเอง ฟิล์มต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ไม่ออกสื่อ

ด่าดาราชื่อดังจี้ขอโทษสังคม
"ที่ฟิล์มบอกให้ผู้หญิงตรวจดีเอ็นเอเหมือนตบหน้าและดูถูกผู้หญิงว่าสำส่อน มันเจ็บปวดมาก ฟิล์มต้องขอโทษทุกคน ทั้งแม่แอนนี่ แอนนี่ และลูกชาย รวมทั้งสังคม พร้อมยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นพลาดไปแล้ว ส่วนแอนนี่ก็ไม่จำเป็นต้องพาลูกไปตรวจดีเอ็นเอเพียงแค่บอกให้เขาจนไปจนตาย ว่าพ่อของเขาชื่อฟิล์ม"นางระเบียบรัตน์กล่าว

"แม่ฟิล์ม"ช็อก!หามส่งรพ.
ต่อมาเวลา 13.15 น. นางโคมนต์ ทองมั่น อายุ 51 ปี มารดาของนักร้องชื่อดัง ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบีเอ็นเอช ย่านสาทร ซึ่งทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของอาร์เอสฯ ระบุว่า มารดาของฟิล์มป่วยเนื่องจากมีอาการช็อคจากความเครียดสะสม ไม่ได้นอนมาหลายวัน อีกทั้งยังเจ็บปวด เสียใจกับคำพูดของนางระเบียบรัตน์ที่กล่าวตำหนิลูกชายของเธออย่างรุนแรงผ่าน รายการเรื่องเล่าเช้านี้

เจ้าตัวเครียดไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ
ทั้งนี้ผู้ที่พานางโคมนต์มาส่งโรงพยาบาลก็คือ ฟิล์ม และพี่ชาย"แอร์ ภูริทัต" โดยรักร้องคนดังอยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดสีขาว กางเกงขา 3 ส่วน ขอบตาบวมช้ำ และมีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ก็ได้ยกมือไหว้สื่อมวลชน จากนั้นก็รีบเดินตามรถเข็นที่มี "นางโคมมนต์" นั่งอยู่โดยมีผ้าคาดปิดปาก เพื่อไปพบแพทย์ที่ชั้น 6 และเอาแต่เก็บตัวเงียบไม่ยอมออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ

หลบข่าวฉาวไปทำบุญสงบจิตใจ
ก่อนหน้านี้ฟิล์ม และคุณแม่ ได้หลบกระแสข่าวร้อนๆไปทำบุญสงบจิตใจที่จ.เพชรบูรณ์ และได้เข้าพักที่บ้านเพื่อนของคุณพ่อ"นายเสริมศักดิ์ โตคงศักดิ์"ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จนกระทั่งนางโคมนต์ ซึ่งมีอาการเครียดสะสมได้ยินคำพูดของนางระเบียบรัตน์ผ่านรายการเรื่องเล่า เช้านี้จึงทำให้เธอมีอาการช็อกจนต้องรีบตัวส่งโรงพยาบาลดังกล่าว

หึ่ง!แอนนี่ยอมตรวจดีเอ็นเอ
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับการชี้แจงจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทอาร์เอสว่า ขณะนี้นักร้องหนุ่มไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เนื่องจากอยากจัดการธุระเรื่องอาการป่วยของคุณแม่ให้เรียบร้อยก่อน แต่ไม่แน่วันในวันที่ 23 กันยายนนี้อาจพร้อมเปิดใจแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง หลังมีกระแสข่าวออกมาว่า "แอนนี่" ยินยอมที่จะตรวจดีเอ็นเอแล้ว

เฮียฮ้อทวิตฟิล์มเตรียมแถลงข่าว
ด้าน"เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" บิ๊กบอสอาร์เอส ได้ไปโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ หลัง "เจ๊เบียบ" ให้สัมภาษณ์จวก "ฟิล์ม" ซะเละเทะผ่านทีวีว่า "ใครที่ไม่มีข้อมูลรายละเอียดไม่ควรออกมาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร ยังทำให้เรื่องบานปลายและไม่แฟร์กับฟิล์ม-แอนนี่"
และเมื่อเวลา 18.30 น. เฮียฮ้อ ทวิตอีกครั้งว่า ฟิล์มนักร้องในสังกัด ได้บอกกับเฮียว่าอยากจะออกมาพูดเปิดใจแถลงกับสื่อมวลชนเลยสั่งให้ทีมประชา สัมพันธ์คอยอำนวยความสะดวกจัดการให้วันที่ 23 กันยายนนี้ อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวจากคนใกล้ชิดแอนนี่ว่า เธอยังยืนยันที่จะไม่ตรวจดีเอ็นเอ

"ระเบียบรัตน์"โต้ไม่ได้มีอคติ
ส่วนนางระเบียบรัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมยืนยันว่า ตนไม่มีอคติอะไรกับฟิล์ม และที่มีข่าวว่าแม่ของฟิล์มดูตนให้สัมภาษณ์รายการของทีวีช่องหนึ่งและเสียใจ จนต้องเข้าโรงพยาบาลนั้น ตนก็เข้าใจว่า คนเป็นแม่ก็ต้องเสียใจ แต่ขอให้แม่ของฟิล์มต้องเข้มแข็ง และเป็นกำลังใจให้ลูก เมื่อลูกพลาดก็ต้องปลอบ ให้กำลังใจให้เข้มแข็ง เป็นที่พึ่งของลูกได้
"พี่ไม่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์แม่ฟิล์มเข้าโรงพยาบาลและพี่ไม่น่าถูกลากเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้"นางระเบียบรัตน์ กล่าว

แม่แอนนี่ทรุดอีกคนอาเจียนหนัก
ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายคนใกล้ตัวของ"แอนนี่ บรู๊ค" โดยนางจันทร์คำ มีเลข หรือ "น้อย" คุณแม่ของ "แอนนี่" วัย 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 หมู่ที่ 4 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง พบว่ามีอาการป่วย สีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทราบว่าญาติจะพาไปตรวจร่างกายส่งโรงพยาบาลหลังอาเจียนหนักและความดัน ขึ้นสูงเนื่องจากคิดมากเป็นห่วงลูกสาวที่กำลังตกเป็นข่าว
โดยคุณแม่ของแอนนี่ กล่าวด้วยใบหน้าอิดโรย เพียงสั้นๆว่า บุตรสาวตนยังไม่ได้เดินทางกลับมาแต่อย่างใดและยังไม่รู้ว่าจะเดินทางกลับมา บ้านที่ลำปางเมื่อไร

ลุงต้องมาดูแลอาการใกล้ชิด
นายทวีศักดิ์ คำแดง อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านสา ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งเป็นลุงของนักแสดงสาว แอนนี่ เผยว่า ในช่วงนี้ตนต้องมั่นมาดูนางจันทร์คำ เนื่องจากเริ่มไม่สบาย เพราะเกิดคิดมากต่อเรื่องของลูกสาวที่เกิดขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงเริ่มแสดงอาการ ไม่ว่าจะปวดศีรษะ และอาเจียนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้นางจันทร์คำ ต้องกินยาที่แพทย์ให้มา ซึ่งเมื่อวันที่ 21 กันยายนอาการเริ่มเป็นมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา ทำให้ต้องนอนพักรักษาตัวทั้งวัน

นอภ.แจ้ห่มรุดเยี่ยมให้กำลังใจ
ด้านนายสุพจน์ หอมชื่น นายอำเภอแจ้ห่ม พร้อมด้วยนายเชิดโช ตั้งตัว นายก อบต.บ้านสา และคณะได้นำสิ่งของเข้าเยี่ยมนางจันทร์คำ พร้อมกล่าวให้กำลังใจว่า อย่าคิดมากเพราะกรณีของฟิล์ม-แอนนี่นั้น เป็นคนสาธารณะ เมื่อเกิดเรื่องก็ย่อมได้รับความสนใจเป็นธรรมดา แต่ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคน 2 คน ที่จะต้องร่วมกันแก้ปัญหา
นายอำเภอแจ้ห่ม ยังได้ฝากนางจันทร์คำ ให้บอกกับแอนนี่ว่า ในขณะนี้ไม่อยากให้คิดเรื่องอื่น แต่อยากให้คิดถึงลูกที่เกิดมาให้มากๆ ส่วนนางจันทร์คำ หากมีอะไรที่ต้องการให้ช่วยเหลือทางนายอำเภอ ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเนื่องจากเป็นราษฎรที่อยู่ในการดูแล

"พจน์"โต้ไม่ได้เกาะแสฟิล์มดัง
ส่วน "พจน์ อานนท์"หรือ นายอานนท์ มิ่งขวัญตา ผู้ชักนำฟิล์ม-รัฐภูมิเข้าสู่วงการมายาจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า เรื่องที่ตนพูดไปเป็นความจริงที่ฟิล์มเล่าให้ฟัง ตนไม่ได้ต้องการเกาะกระแสใครดังเพราะตนดังมาก่อนฟิล์มและแอนนี่เสียอีก เรื่องนี้ผิดด้วยกันทั้งคู่เพราะตบมือข้างเดียวไม่ดัง ดังนั้นทางที่ดีคือตรวจดีเอ็นเอถ้าใช่ฟิล์มก็พร้อมรับผิดชอบ