แจบอมอยากกลับเกาหลี?

บทสัมภาษณ์คนที่มีความสนิทสนมกับครอบครัวของแจบอมในแหล่งเกาหลี ISPLUS ทำให้แฟนๆได้รับทราบความเป็นไปของแจบอมเมื่ออยู่ที่บ้านเกิดของได้มากทีเดียว นอกจากนี้ยังได้รับรู้ ความรู้สึกของแจบอมต่อเรื่องการกลับมาเกาหลีของเขาอีกด้วยต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์ของคิมที่ได้มีโอกาสไปทานอาหารเย็นร่วม กับครอบครัวของแจบอมเมื่อไม่นานมานี้'ผมเป็นพ่อของเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกับแจบอมครับ

จากที่ได้เฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลานวันที่ผ่านมา ตอนนี้ผมมีความมั่นใจมากพอที่จะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างแล้ว

               ผมทำธุรกิจร่วมกับพ่อของแจบอมที่ซีแอตเทิล และเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่มา 30 ปี ผมรู้จักแจบอมมาตั้งแต่เขายังเล็กๆจนกระทั่งเขาเติบโต ลูกของผมเองก็ไปโรงเรียนพร้อมกับแจบอมตั้งแต่สมัยอนุบาล พวกเขาสนิทกันมากๆครับ ดังนั้นผมคิดว่าตัวเองค่อนข้างรู้จักครอบครัวของแจบอมดีพอสมควร

          บ้านของแจบอมในซีแอตเทิลนั้นอยู่ใกล้ชายหาดที่ชื่อว่า Edmonds ซึ่งเป็นชุมชนของคนชั้นกลาง บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้วแต่แจบอมอยู่ที่นีมาประมาณ 20 กว่าปีนับตั้งแต่เขาเกิดครับ

          ที่โรงจอดรถของบ้านแจบอมนั้นไม่ใช่รถยี่ห้อ BMW หรือ Lexus ที่จอดอยู่แต่เป็นรถที่มีอายุ 5-10 ปีมาแล้ว เมื่อเร็วๆนี้ครอบครัวของเขาเพิ่งจะไปเช่าซื้อรถยี่ห้อ Hyundai รุ่น Elantra มา แต่เนื่องจากสถานการณ์ของแจบอมตอนนี้ พวกเขาจึงต้องเอาไปคืน ที่บ้านของเขามีทีวีขนาด 32 นิ้วของ Sony แต่ทีวีเครื่องนั้นก็ใช้มาแล้ว 10 ปี คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่มีในบ้านของเขาเก่ามากและเกือบจะพังอยู่แล้ว คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดในบ้านก็คือโน๊ตบุ๊คที่แฟนๆซื้อให้แจบอมเป็นของขวัญ

          เหตุผลที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟังก็เพราะผมอยากจะแสดงให้เห็นว่าการใช้ชีวิตของครอบครัวแจบอมนั้นไม่ใช่การเสแสร้งหรือไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างโอ้อวดอะไรเลย แต่กลับเรียบง่ายและแสนธรรมดาเหมือนครอบครัวทั่วไป

             หลังจากที่แจบอมกลับมาจากเกาหลีได้ประมาณสองวัน พ่อของเขาก็บอกว่า เขาควรจะไปเรียนดนตรีและจากนั้นพ่อของแจบอมก็ออกไปข้างนอก และก็กลับมาด้วยเหงื่อที่เปียกชุ่มเพราะความหนักของเปียโนไฟฟ้ายี่ห้อ Yamaha ที่มีอายุถึง 15 ปี ซึ่งซื้อมาในราคาเพียง 300 เหรียญ พ่อของแจบอมไปซื้อเปียโนตัวนั้นและนำกลับมาบ้านเพื่อมอบให้แจบอมแจบอมไม่ได้ติเตียนเปียโนตัวนั้นแต่อย่างใด เขากลับนั่งลงและฝึกเล่นเปียโนตัวนั้นไป มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าผมซื้อเปียโนยี่ห้อ Roland ราคา 5,000 เหรียญให้ลูกชายได้อย่างไร นั่นทำให้ผมรู้สึกแย่และละอายมาก

          คืนวันศุกร์ผมกับพ่อของแจบอมออกมานั่งดื่มเบียร์และคุยกันจนถึงตีสาม และจู่ๆน้ำตาของคุณพ่อแจบอมก็ไหลออกมา จากนั้นเขาก็เริ่มเล่าให้ฟังว่ารู้สึกสงสารแจบอมลูกชายของเขามากแค่ไหน

          5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครรู้ว่าแจบอมต้องทรมานกับความท้อแท้และการฝึกฝนอย่างหนักมากแค่ไหน หลายต่อหลายครั้งที่เขาอยากจะกลับบ้านที่ซีแอทเทิลใจจะขาด แต่เขาก็ต้องข่มใจเอาไว้และฝึกฝนต่อไป พอมาถึงจุดที่เขาโด่งดังมากๆ เขากลับต้องหนีกลับมาซีแอทเทิลในเวลาแค่ 4 วัน เรื่องนี้ทำให้ผมปวดใจมาก

หลายชั่วโมงที่เขานั่งเครื่องจากเกาหลีมาบ้านเกิดนั้น เขาจะทรมาน

แค่ไหนและในหัวนั้นมีเรื่องอะไรอยู่บ้างกันนะ?

          เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมจำตอนที่เขากลับมาซีแอตเทิลอย่างกระทันหันได้ดี เพราะน้องชายที่ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ของแจบอมไม่เชื่อฟังเขาเลย ผมจำได้ดีว่าแจบอมพูดอะไรกับน้องชายบ้าง'ฉันก็อยากออกไปข้างนอก ไปเจอเพื่อน หรือไปทำอะไรสนุกๆเหมือนกับนาย แต่นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงอดทนผ่านสิ่งต่างๆมาได้ขนาดนี้? ก็เพื่อนายและพ่อแม่ของเราไง แต่ทำไมนายถึงทำอะไรไม่คิดเลย!'

           ตอนผมขับรถ ผมเคยถามลูกสาวที่อายุเท่ากับแจบอมว่า 'ยูริ Korea is gay หมายความว่าอย่างไร ลูกสาวผมตอบว่า ก็หมายถึงเกาหลีนี่ดูงี่เง่าและก็น่ารำคาญ เราจะพูดตอนที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายหรือตอนที่หงุดหงิดค่ะ'ตอนที่ลูกสาวผมอยู่ในช่วงอายุเพียงสิบกว่าๆและทะเลาะกับเธอนั้น เธอจะพูดคำว่า 'เกลียด' บ่อยมากเช่นว่า'หนูเกลียดพ่อ!' แต่เพราะลูกพูดแบบนี้ผมถึงกับต้องไล่เธอออกจากบ้านเลยหรือไม่?

           ช่วงเวลานั้นผมเชื่อว่าแจบอมไม่รู้จักวัฒนธรรมเกาหลีเลยแม้แต่น้อย และอีกทั้งตอนนั้นเขากำลังอยู่ในช่วงที่ต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก แต่การแปลความหมายสิ่งที่แจบอมพูดใน Myspace นั้นใช้คำที่ผิดมากๆ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเด็กวัยรุ่นในอเมริกาพูดกันแบบนั้น และผมก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาเขียนในวัยรุ่นตอนต้นๆนั้นมันเป็นการทรยศประเทศเกาหลีตรงไหนเลย คนที่เกลียดประเทศเกาหลีขนาดนั้นจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้ครอบครัวของเขามีชีวิตที่ดีขึ้นไปด้วยกันได้อย่างไร?

          อเมริกันเชื้อชาติเกาหลีอย่างพวกเราไม่ได้มองว่าอเมริกาเป็นแหล่งทำเงินเพียงอย่างเดียว แต่เราคิดว่าอเมริกาคือจุดเริ่มต้นของโอกาสที่มากกว่า ขณะเดียวกันหัวใจของเราก็ยังอยู่ที่เกาหลีและเราก็อยากให้ประเทศเกาหลีประสบสำเร็จตอนช่วงฟุตบอลโลกปี 2002 นั้น แทนที่ผมจะดูบอลอยู่ที่บ้านกับเพื่อนแต่ผมเลือกที่จะไปดูที่บาร์เพื่อจะให้คนอื่นๆสนใจประเทศเกาหลี พอทีมชาติเกาหลียิงลูกเข้าโกลด์ได้เราก็จะร้องตะโกนอย่างสนุกสนานจนทำให้คนอเมริกันบางคนหันมาสนใจบ้างแม้แต่ตอนการแข่งขันของ WBC ซึ่งเป็น Major League เราก็กระตุ้นให้ชาวอเมริกันมาดูเกมส์ของประเทศเกาหลี ใครที่ใช้มือถือยี่ห้อ Nokia เราก็จะลองชวนเขามาใช้ LG หรือSamsung แทน

          สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ไม่ได้แสดงออกถึงความภูมิใจในประเทศเกาหลีของพวกเราหรอกหรือ? เรารู้สึกภูมิใจต่อประเทศของเรามาก เพียงแค่ข้อความที่เด็กวัยรุ่นเขียนเอาไว้เมื่อ 4 ปีก่อนผมไม่คิดว่ามันไม่ถูกต้องที่จะกล่าวหาและชี้นิ้วไปที่แจบอม เพราะว่าเขาไม่ได้หมายความแบบนั้นเลย และมันไม่ถูกต้องที่ไล่เขาออกจากประเทศ นี่ไม่ได้เรียกว่าการภูมิใจในประเทศของเราทุกท่านครับ ผมขอทำให้ทุกคนลองถอยหลังอีกสักก้าวและคิดทบทวนเรื่องราวเมื่ออาทิตย์ก่อนๆ ผมขอกระตุ้นให้ทุกท่านเปิดใจให้กว้างและโอบกอดเด็กเกาหลี-อเมริกันของเราคนนี้เอาไว้ด้วย เขาคือเด็กคนที่ใช้ความอดทนอย่างหนักเพื่อจะมีชีวิตอยู่และโปรดให้โอกาสเขาอีกครั้ง

             ผมไม่ได้ขอให้ทุกท่านปูพรมแดงไว้รอรับเขา แต่ขอให้ทุกท่านช่วยให้แจบอมไม่ต้องรู้สึกละอายและรู้สึกผิดอีกต่อไป และช่วยเขาให้คิดอย่างผ่อนคลายขึ้น นอกจากนี้ก็ขอให้มีหัวใจที่อบอุ่นให้เขาด้วยครับ

            ในระหว่างหลายวันที่ชาวเน็ตทั้งหลายต่างพากันพูดถึงเรื่องของเขา ผมอยากจะขอบคุณ Boom ที่คอยยืนเคียงข้างเขาอย่างกล้าหาญมาตลอด Boom ยังคงโทรมาหาแจบอมทุกวันเพื่อเช็คว่าแจบอมสบายดีหรือไม่

            ตอนนี้พ่อแม่ของแจบอมกำลังอยู่ในช่วงวิตกกังวลเป็นอย่างมาก และพวกเขาจะไม่รับโทรศัพท์ซึ่งเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จักเลย เมื่อแจบอมไปที่สตูดิโอที่เขาเคยเต้นเบรคแดนซ์ แต่พอมีเด็กที่นั่นจำเขาได้และพยายามจะถ่ายรูป แจบอมก็รีบออกจากที่นั่นและกลับบ้านทันที

           แจบอมไม่สามารถไปโบสถ์ที่เขาเคยไปมาตลอดได้เพราะเขายังรู้สึกละอายและรู้สึกผิดหวังกับตัวเอง สรุปแล้วคือเขาไปไหนไม่ได้นอกจากอยู่แต่กับบ้าน เห็นเขาเป็นแบบนี้แลบ้วผมรู้สึกสงสารเขามากและรู้สึกเหมือนหัวใจจะสลาย

                เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาครอบครัวของผมกับแจบอมไปกินข้าวที่ร้านอาหารจีนของเพื่อนคนหนึ่งเพื่อจะให้ทุกคนอารมณ์ดีขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้กระโดดโลดเต้นด้วยความสนุกสนาน แต่การได้ออกมาทานข้าวข้างนอกบ้านเป็นครั้งแรกหลังจากกลับมา ก็ทำให้เขาดีขึ้นเล็กน้อยและรู้สึกผ่อนคลายขึ้นบ้าง

ผมถามเขาว่า 'แจบอม อยากกลับเกาหลีไหม?'

เขาตอบว่า 'อยากครับ...แต่ผมก็ไม่แน่ใจ'

#2pm #แจบอม
P_fon
นักแสดงนำ
สมาชิก VIP
17 ก.ย. 52 เวลา 11:21 6,398 31 116
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...