เด็กสาวที่ถูกขนานนามว่าเก่งที่สุดในโลก

วันนี้เรามาทำความรู้จัก เด็กสาวคนหนึ่งดีกว่าค่ะ
พอดีวันนี้เรากับน้องซื้อ CD ให้แม่เพราะแม่อยากได้
ก็เลยนำเรื่องราวมาเขียนแชร์
เราประทับใจจากการดูคลิปและได้รู้เรื่องราวชีวิตของเธอ
เธอคนนี้ สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต
และทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
โดยไม่ล้มเลิกและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
เธอคนนี้มีชื่อว่า

"Charmaine Clarice Relucio Pempengco" หรือ "Charice"
เป็นศิลปินสาวอีกคนหนึ่งที่แจ้งเกิดได้จาก youtube
เธอเกิดเมื่อวันที่ 10 เดือนพฤษภาคม ปี 1992 ที่ Cabuyao, LagunaLaguna
ประเทศฟิลิปปินส์ (Philippines) เธอถูกขนานนามโดยโอปรา วินฟรีย์
พิธีกรชื่อดัง กล่าวว่าเํธอเป็น
"เด็กสาวที่มีความสามารถที่สุดในโลก"
สมญานามนี้ได้เพราะเสียงอันทรงพลังเกินวัยของเธอ
เธอเป็นศิลปินชาวเอเชียเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์
ที่ขึ้นบิลบอร์ดชาร์ต top100
แม่ของเธอเลี้ยงเธอมาโดยลำพัง
และสอนให้เธอร้องเพลงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ
ครอบครัวเธอไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก
เธอจึงต้องเข้าร่วมประกวดร้องเพลงสมัครเล่น ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว
เธอเข้าร่วมประกวดร่วม 100 รายการตั้งแต่ระดับเมือง
ไปจนถึงระดับจังหวัด และตามรายการทีวีต่างๆ

ในปี 2005 Charice เข้าร่วมประกวด Little star big show ซึ่งรายการนี้
คล้ายๆรายการ American idol  แต่เป็นของฟิลิปปินส์
แต่เธอตกรอบตั้งแต่การแสดงครั้งแรกของเธอ
ตอนหลังเธอได้รับการติดต่อจากกรรมการ
ให้เข้าไปประกวดใหม่ จนกระทั่งตอนนั้นเธอได้ลำดับที่ 3
โดยแพ้คะแนนโวต

เมื่อรายการนี้จบเธอไม่ได้ปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ อีกเลย
และก็ไม่ได้รับการสนใจเท่าไร
จนกระทั่งในปี 2007 มีแฟนคลับของเธอนำวีดีโอของเธอมาโพสต์ใน youtube
โดยใช้ชื่อว่า falsevoice
วีดีโอนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์คือผู้ชมล้นทะลักกว่า 1 ล้านเพจวิว
ซึ่งตอนนั้นเป็นที่ฮือฮามาก
บางคนก็ไม่เชื่อว่าเป็นเสียงเธอร้องจริงๆ
เนื่องจากเสียงของเธอ ทรงพลังมาก
คลิปวีดีโอได้เผยแพร่ปากต่อปาก
ใครได้ดู ก็บอกต่อๆ ไปเรื่อยๆ ทำให้เธอมีชื่อเสียงมากขึ้น

ความสำเร็จของเํธอ เป็นลำดับขั้น ตั้งแต่เล็กๆ
จนไปถึงสิ่งที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
และแต่ละครั้งก็เหนี่ยวนำความสำเร็จที่มากขึ้น

เดือนมิถุนายน 2007 ค่ายเพลงสัญชาติสวีเดน
ได้ทาบทามเธออัดเดโมเทปทั้งสิ้น 7 เพลง
เป็นเพลงที่เธอร้อง cover 6 เพลง
และเพลงใหม่ที่แต่งขึ้น 1 เพลงชื่อ "Amazing"

เดือนตุลาคม 2007 หลังจากที่เธอเข้ารอบสุดท้ายในรายการ little big star
รายการ Star King ของเกาหลี ได้เชิญเธอไปออกรายการ
ร้องคู่กับ Kyuhyun จากวงซูเปอร์จูเนียร์ เธอร้องเพลง
"And I Am Telling You I'm Not Going"
ในรายการได้กล่าวว่าเธอนั้นเยี่ยมยอดทั้งเสียงทั้งการแสดง
แบบที่หาใครมาเปรียบยาก



เดือนธันวาคม 2007 Ellen DeGeneres
เจ้าของรายการ Ellen DeGeneres show
ได้ยืดเวลาของรายการเพื่อเชิญเธอมาแสดงในรายการ
โดยครั้งนี้เธอได้ร้อง 2 เพลงคือ
"I Will Always Love You"
และ "And I Am Telling You I'm Not Going"

 

และจากการออกรายการของ Ellen ในครั้งนี้
ต่อมาเธอจึงได้ออกรายการ
Star King ของเกาหลีอีกครั้งหนึ่ง
ในฐานะ "การแสดงของชาวต่างชาติที่ถูกเรียกร้องมามากที่สุด"
โดยครั้งนี้เธอได้ร้องเพลง "I will survive"
และได้ร้องเพลง "I will always love you" คู่กับ Lena park

เดือนมกราคมปี 2008
เธอได้แสดงต่อหน้าประธานาธิปดีฟิลิปปินส์กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย่
ที่พระราชวัง Malacañang
จากนั้นได้ไปออกรายการ The Paul O'Grady Show
ที่ประเทศอังกฤษ

เดือนพฤษภาคมปี 2008
เธอได้ออกอัลบัมเดี่ยวของตนเองเป็นครั้งแรกในชื่อว่า Charice
ครั้งนี้ออกโดยค่ายเพลงในประเทศฟิลิปปินส์
ชื่อ Star record มี 6 เพลงและ 6 backing track

และแล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตเธอ
เมื่อเธอได้ออกรายการโอปรา วินฟรีย์
โดยครั้งนี้ หัวข้อว่า "เด็กฉลาดระดับโลก"
โอปรา ได้ติดต่อ David foster
ซึ่งเป็นโปวดิวเซอร์มือทองในตำนาน
เพราะเขาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับนักร้องระดับเทพ
อย่าง Andrea Bocelli, Céline Dion, Mariah Carey, Whitney Houston,Cher,
Madonna, Michael Jackson, Janet Jackson, Christina Aguilera,ฯลฯ
โดยโอปราได้ขอร้องว่าจะช่วยอะไรเด็กคนนี้ได้บ้างไหม

หลังจากนั้น Charice ก็ได้รับโอกาสทองมาเรื่อยๆ
โดย David foster ได้ให้เธอไปร่วม
ในคอนเสริื์์ตที่เขาจัดขึ้นชื่อว่า Hitman: David Foster and Friends
คอนเสิร์ตครั้งนี้ Charice ร้องเพลงจาก Bodyguard
และ เพลงประจำของเธอนั่นคือ
And I'm telling you I'm not going
โชคดีของเธอมาอีกครั้ง
เมื่อนักร้องที่มาร่วมร้องเพลงในคอนเสิร์ตครั้งนั้นคือ
Andrea Bocelli เขาประทับใจในตัวเ็ด็กน้อยมหัศจรรย์คนนี้มาก
ถึงกับเชิญให้ไปร้องเพลงที่บ้านเกิดของเขา ประเทศอิตาลี
ซึ่งทำให้เธอได้ร้องเพลงคู่กับ Idol ของเธออย่าง Andrea Bocelli
ซึ่งเป็นนักร้องระดับตำนาน


ในเดือนกันยายน 2008 เธอได้ปรากฏตัวในรายการโอปราอีกครั้ง
ในครั้งนี้หัวข้อคือ "ฝันที่เป็นจริง" (Dreams Come True)
ก่อนหน้านี้ มีคนอยู่คนหนึ่งที่เป็น Idol ของ Charice เธอใฝ่ฝันมาตลอด
ว่าเธอจะได้ร้องเพลงกับคนๆนี้นั่นก็คือ Celine Dion
สุึดท้ายในรายการโอปราได้เซอร์ไพร์สเธอตอนท้ายรายการ
มี Celine dion เชิญเธอไปร่วมร้องเพลงคู่กันที่ Medison square
ซึ่งครั้งนี้ทำให้ Charice ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยทีเดียว
เพราะฝันของเธอได้เป็นจริงแล้ว
(โชว์นี้สุดยอดมาก)

หลังจากนั้นชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
โอกาสต่างๆหลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ
รวมทั้งการออกรายการโอปราครั้งที่ 3
เธอย้ายไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2009 จนปัจจุบัน
เพื่อทำอัลบัมสากลอย่างจริงจัง โดยมี producer คือ David Foster
ได้ร้องเพลงชาติฟิลิปปินส์
ต่อหน้า ประธานาธิปดี Benigno Aquino III และคนนับล้าน
อัมบัมสากลของเธอชื่อ "charice"
ได้ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดที่อันดับ 8 ในสับดาห์แรกที่ออก
ถือเป็น"ศิลปินเอเชียคนแรก"ที่ขึ้นไปถึงจุดนี้ได้
แล้วเธอก็ได้ออกรายการต่างๆ
ปรากฏตัวทั้งในภาพยนตร์และซีรีย์บางเรื่อง


นับว่าเป็นอีกคนที่ตามความฝันจนสำเร็จ
สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ"เธอไม่ได้เรียนการขับร้องที่ไหนเลย
นอกจากแม่ของเธอเป็นคนสอนเท่านั้น"
David Fosterได้กล่าวว่า Charice
มีคุณสมบัติที่ดีของศิลปินอย่างหนึ่ง
คือเธอสามารถ "เลียนแบบ" เสียงของศิลปินคนอื่นได้
โดยเสียงเธอนั้นจะใกล้เคียงกับ Whitney และCeline
นอกจากนี้อิทธิพลที่มีต่อเธอก็ยังมี Mariah Carrey และ Regine Velasquez
New york post ได้กล่าวว่าเธอมีอัจฉริยภาพ(prodigy)ทางดนตรี
เพราะสามารถร้องเพลงยากๆได้ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ

บางคนอาจจะอ้างว่า "ก็คนแบบเธอนั้นมีพรสวรรค์ไม่เหมือนใคร
จะให้คนธรรมดาอย่างเราๆไปทำแบบเธอคงไม่ได้"
ลองคิดดูนะคะว่าเธอต้องผ่านการฝึกฝนเท่าไร กว่าจะเป็นแบบนี้
และถ้าเธอ "ล้มเลิก" ตั้งแต่แรกๆ ที่เธอไม่ผ่านการคัดเลือก
เธอหมดกำลังใจไปก่อน ชีวิตเธอตอนนี้ คงไม่เป็นแบบนี้
ที่เธอได้รับสิ่งดีๆในชีวิตมากมาย
เพราะเธอได้ยอมแลกสิ่งที่มีคุณค่าเท่ากัน
ทำให้วันนี้เธอได้รับผลจากการกระทำนั้น

หวังว่าเรื่องของ Charice
จะเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีความฝันอะไรสักอย่าง
ถ้าเราจดจ่อกับเป้าหมาย หนทางจะออกมาเรื่อยๆ
เหมือนกับว่าจักรวาลได้ช่วยเหลือเราอยู่
เพราะฉะนั้น แม้จะลำบาก ก็อย่าท้อถอย
สักวันหนึ่ง เรื่องของเธอที่คุณอ่านในวันนี้
อาจจะเป็นแรงบันดาลใจใหุ้คุณลงมือทำอะไรสักอย่าง
เพื่อความฝันของตัวเอง สู้ๆค่ะ 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม
www.charicepempengco.com
http://en.wikipedia.org/wiki/Charice_Pempengco 

18 ส.ค. 53 เวลา 17:09 8,182 32 318
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...