read:http://www.liekr.com/post_154482.html

  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  มีข่าวเกี่ยวกับการขโมยของแต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ เต็มไปด้วยการสอนที่ผิดๆ คุณแม่เสื้อดำ แซ่กัว อายุ 46 ปีเลี้ยงลูกเพียงพังได้พาลูกสาววัย 9 ปี ออกมาเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง  เมื่อเดินไปถึงร้านแห่งหนึ่ง แม่ลูกคู่นี้ก็บังเอิญเห็นมือถือเครื่องหนึ่ง ยี่ห้อ Samsung S7 Edge ของลูกค้าคนอื่น ที่ลืมทิ้งไว้บนชั้นวางของ ทำให้คุณแม่รายนี้เกิดโลภมีกิเลสตัณหาอย่างไงอย่างงั้น จึงมองซ้ายมองขวา ไม่มีเจ้าของมือถืออยู่รอบข้าง  จากนั้นก็ส่งสายตาให้ลูกสาวขโมยมือถือเครื่องนั้นใส่กระเป๋า ลูกสาวคิดในใจว่า "มือถือของแม่เครื่องเก่าแล้วสงสัยอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่"  จึงได้หยิบมือถือเครื่องนั้นใส่กระเป๋าของแม่ทันที

 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดกล้องวงจรดูภาพที่เห็นทำเอาตำรวจถึงกับถอนหายใจฟอดใหญ่ เพราะการสั่งสอนแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดี และเป็นแบบอย่างที่ไม่ควรเลียนแบบอย่างมาก สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาสองแม่ลูกคู่นี้จนเจอและได้ดำเนินคดีให้ได้รับโทษตามกฏหมายต่อไป   หลังตรวจสอบประวัติของคุณแม่รายนี้ทำให้ทราบว่า คุณแม่รายนี้เลี้ยงลูกเพียงลำพังไม่มีรายได้ที่มั่นคง ยังต้องอาศัยเงินสนับสนุนของรัฐบาล ไม่มีอาชีพการงานที่มั่นคง อีกทั้งมือถือเครื่องเก่าก็รวนๆใช้เกือบไม่ได้แล้ว ไม่มีเงินซื้อมือถือเครื่องใหม่ จึงฉวยโอกาสนี้ขโมย

    เมื่อทั้งคู่ถูกจับ คุณแม่ให้การสารภาพว่า "ได้ส่งสายตาให้ลูกสาวหยิบเอามือถือมาใส่กระเป๋าจริง เพราะตนเองไม่กล้าหยิบ จึงยืมมือลูกสาว" ส่วนลูกสาวก็สารภาพกับตำรวจว่า "เห็นสายตาของแม่อยากได้มือถือใหม่ เพราะมือถือเก่าไม่ค่อยจะดีแล้ว จึงได้หยิบมือถือใส่กระเป๋าแม่ทันที"

    ตำรวจไม่ปรับเด็กเพราะอายุไม่เกิน 14 ปี แต่ให้องค์เด็กและเยาวชนเป็นคนทำโทษและจดบันทึกไว้ ให้บำเพ็ญประโยนช์แก่สังคม ส่วนคุณแม่ก็มีความผิดฐานอาชญากรรมทรัพย์สินผู้อื่น

ตำรวจยังบอกอีกว่าความจริงแล้วคุณแม่ควรจะโอกาสนี้สอนและปลูกฝังค่านิยมที่ดีแก่ลูก แต่กลับมาสอนและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแบบนี้ ทำให้เด็กเยาวชนมีความคิดที่ไม่ถูกต้องส่งผลต่ออนาคตของเด็กได้!!

ชมคลิป

最壞身教!母親眼神暗示 9歲女童賣場偷手機│中視新聞 20170814

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR