ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดี“น็อต กราบรถ”แกรมมี่ประกาศเลิกจ้างทุกรายการพ้นสังกัด

 

นายอัครณัฐ หรือ น๊อต อริยฤทธิ์วิกุล ไปลากตัวนายกิตติศักดิ์ หรือ บอย สิงโต อายุ 25 ปีมาดูรถมินิคูเปอร์ของตนพร้อมกับตบสั่งสอนและยังให้นายบอย “กราบรถกู” อีกด้วยเหตุเกิดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2559 จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่ว

ผบ.ตร. เห็นคลิปพิธีกรหนุ่มลากคอชกคู่กรณีและสั่งกราบรถ ถึงกลับแล้วรับไม่ได้ ชี้ไม่มีสิทธิทำขนาดนั้น สั่งเร่งรัดดำเนินคดีให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แกรมมี่เลิกจ้างทุกรายการไล่พ้นสังกัดรับไม่ได้ ขอคืนรางวัลคนไทยตัวอย่าง

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2559 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนระหว่างรถยนต์เก๋งมินิคูเปอร์สีเหลืองกับรถจักรยานยนต์ โดยปรากฎคลิปกระชากทำร้ายร่างกายและบังคับให้กราบรถ ระหว่างนายอัครณัฐ หรือ น็อต อริยฤทธิ์วิกุล หรือที่รู้จักกันในวงการบันเทิงคือ“น็อต เวคคลับ” พิธีกรรถโรงเรียน ทางช่องจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ 25 กับนายกิตติศักดิ์ หรือ บอย สิงโต อายุ 25 ปี อาชีพฝ่ายคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชันต่อมาพบว่านายกิตติศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บว่า กรณีนี้ตนได้กำชับ ตำรวจสน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมตามพยานหลักฐานที่ปรากฎ

พล.ต.ต.ทรงพลเปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ ( 6 พ.ย.)หลังมีคลิปเผยแพร่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ได้สั่งการตรงมาที่ตนให้เร่งรัดการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมเพราะเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ

“ผบ.ตร.เห็นคลิปแล้ว รับไม่ได้ เห็นว่าเป็นคดีจราจรปกติ อุบัติเหตุบนท้องถนนเล็กน้อยแต่กลับปรากฏการทำร้ายร่างกายกันตามที่เห็น ก็รับไม่ได้ ดูเป็นการใช้อารมณ์และไม่มีสิทธิทำขนาดนั้น จึงสั่งกำชับให้ดำเนินการโดยเร็ว ตามกฎหมาย ซึ่งผมเองเห็นแล้วก็รับไม่ได้เหมือนกัน”พล.ต.ต.ทรงพลกล่าว

รองโฆษกตร.ยืนยันว่าการดำเนินคดี หรือแจ้งข้อหาอะไรก็ต้องดำเนินการตามพยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับกระแสสังคม จากที่เห็นคลิปที่มีแพร่กันก็เห็นว่ามีการกระชากกันพาข้ามถนน มีการทำร้ายกัน 3 ครั้ง เท่าที่เห็นไม่มีการตอบโต้ ต่อสู้ เห็นการทำร้ายฝ่ายเดียว

ต้องเรียกหลายฝ่ายมาสอบ

พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวว่า ในการดำเนินคดี พิจารณาแจ้งข้อหาไม่สามารถตัดสินได้จากคลิปเดียว มุมเดียว เรื่องนี้มีประจักษ์พยานจำนวนมาก พนักงานสอบสวนต้องเรียกมาด้วยเพื่อดูว่าก่อนและหลังจากในคลิปเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดอื่นๆเพื่อประกอบหลักฐาน

ทั้งนี้เรื่องนี้ตนมองว่ามันเป็นอุบัติเหตุจราจร ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติบนท้องถนน เกิดอะไรให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้คุมอรมณ์ อย่าใช้อารมณ์อย่างกรณีนี้ เรื่องแบบนี้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่าพิพากษาเอง

พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา เรื่องนี้แบ่งการดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน

1.คือการเฉี่ยวชน ซึ่งสอบปากคำนายกิตติศักดิ์ รับว่าเฉี่ยวรถของนายน๊อตจริงแล้วหนีไป นี่คือสิ่งที่เขารับว่าหนีไป และพฤติการณ์ก็ชัดคือชนที่แยกบางรักและตามกันมาอีกจุด ส่วนรถแท็กซี่อีกคันนั้นตนไม่ทราบว่ามีการพูดถึงหรือไม่ จากจุดนี้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามพ.ร.บ.จราจรทางบก ในความผิดที่เฉี่ยวชนแล้วไม่แจ้งเจ้าหน้าที่แก่นายกิตติศักดิ์ โดยยึดรถทั้ง 2 คันที่เป็นคู่กรณีกันตรวจสภาพเพื่อประกอบหลักฐานที่กก.3 บก.จร. คาดว่าวันนี้ ( 7 พ.ย.) จะทราบผล

ส่วนที่ 2.กรณีมีเหตุทำร้ายร่างกายกัน ที่ชัดเจนคือนายกิตติศักดิ์ได้รับบาดเจ็บ มีคลิปนายน๊อตทำร้ายนายกิตติศักดิ์ ขณะนี้พนักงานสอบสวนส่งตัวนายกิตติศักดิ์ ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเลิดสิน หากพบว่าบาดเจ็บสาหัสก็ แจ้งข้อหาอาญา มาตรา 297 ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และต้องดูด้วยว่าพฤติการณ์มีการข่มขืนใจหรือหน่วงเหนี่ยวอย่างไรหรือไม่ ถ้าเข้าก็แจ้งข้อหาเพิ่มด้วย

พล.ต.ต.ทรงพลกล่าวว่า ในการทำร้ายร่างกายต้องดูพยานหลักฐานที่ปรากฎต้องดูว่าหากดั้งจมูกหัก ต้องรักษานานเพียงใด เข้าข่ายเจ็บสาหัสหรือไม่ แต่หากไม่ถึงขั้นสาหัสเป็นเพียงการทำร้ายร่างกายก็เป็นข้อหาลหุโทษโทษปรับ 1,000 บาท

ทั้งนี้แม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเป็นคนมีชื่อเสียง หรือมีทนายมาด้วยก็ไม่มีผลต่อการดำเนินคดี ทุกอย่างยึดกฎหมาย พบพฤติกรรมเข้าข้อกฎหมายใดก็แจ้ง ไม่เข้าหลักฐานไม่มีก็ไม่แจ้งข้อหานั้น

 

แกรมมี่เลิกจ้าง-ขับพ้นสังกัดไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน

ขณะเดียวกันในเฟซบุ๊กของบริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนระบุว่า “จากเหตุการณ์การเผยแพร่คลิปพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของ น็อต อัครณัฐ ผ่านทางโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้นบริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ในฐานะต้นสังกัดรู้สึกเสียใจกับการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างยิ่งและเห็นถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากฐานะการเป็นพิธีกรและนักแสดงซึ่งควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนบริษัทฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีที่เกิดขี้น โดยได้พิจารณาถึงบทลงโทษเพื่อจะได้ไม่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนและสังคม ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ไม่สนับสนุนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมโดยมีข้อสรุปว่า บริษัทฯ ได้ยกเลิกสัญญาการเป็นพิธีกรและนักแสดง ในสังกัดของบริษัทฯ และขอยุติการทำงานทุกประเภทของ น็อต อัครณัฐ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด”

7 พฤศจิกายน 2559

ขอคืนรางวัล “คนไทยตัวอย่าง”

ขณะเดียวกันสำนักข่าวไทยเปิดเผยบทสัมภาษณ์ว่า ดร.อำนาจ หมัดสดาย ประธานสมัชชานักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย(สว.นท.) เตรียมออกแถลงการณ์และทำหนังสือไปยังต้นสังกัด นาย อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล หรือน็อต ดารานักแสดง เพื่อแจ้งยกเลิกและขอคืนรางวัล คนไทยตัวอย่าง จากโครงการกิจกรรมรณรงค์การทำความดี ต้นแบบคนดี ใต้ร่มพระบารมีของแผ่นดิน คนทำดีต้นแบบสังคมแห่งปี ครั้งที่ 3 ประจำปี 2559 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการทำดีในสังคม จัดขึ้นโดย ชมรมสมาพันธ์สื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย และ สมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งบ่ายวันนี้ ( 7 พ.ย.) จะมีการสรุปผลประชุมอีกครั้ง เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อการเป็นแบบอย่างของสังคม

ขอบคุณที่มา: http://www.thaitribune.org/contents/detail/377?content_id=23837&rand=1478522418

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...