ตำนาน ‘เสาไฟหมุนหน้าร้านตัดผม’ หมายถึงอะไร!? ใครเป็นคนเริ่ม!? แล้วมีที่มาที่ไปยังไง!?

http://www.catdumb.com/barber-poles-717/

สิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเราทุกคนจดจำร้านตัดผมได้นั่นก็คือ หลอดไฟหมุนๆ ที่อยู่หน้าร้านตัดผม บางที่หลอดสั้นยาวไม่เท่ากัน บางที่ใช้สีสันหลากหลายแบบ แต่ที่แน่ๆ คือหลอดไฟเหล่านี้จะหมุนอยู่ตลอดเวลา

เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า แล้วใครกันล่ะที่เป็นคนบัญญัติให้ใช้หลอดไฟแบบนี้? แล้วมันมีที่มาที่ไปยังไงกัน? ด้วยความสงสัยนี้เองเราจึงสืบข้อมูลมาให้แฟนๆ ได้อ่านกันล่ะ

มันเริ่มต้นมายากในยุคกลาง..

ในสมัยก่อนเวลาที่ผู้คนเดินทางไปร้านตัดผม พวกเขาไม่ได้แค่ตัดผม สระผมหรือโกนหนวดเท่านั้น แต่ยังมีการถ่ายเลือดหรือการดำเนินการทางการแพทย์หลายอย่างด้วยนะเออ ในช่วงยุคกลาง (ศตวรรษที่ 5-15) การถ่ายเลือดออกจากร่างกายนั้น ช่างตัดผมจะใช้ความเชี่ยวชาญในการผ่าหลอดเลือดดำเพื่อให้เลือดไหลออกมา

หลายคนมองว่าการรักษามันแปลกๆ แต่นั่นถือเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับการรักษาที่ในตอนนั้นมีโรคภัยไข้เจ็บซึ่งคนไม่รู้จักอีกมากมาย ตั้งแต่อาการเจ็บคอเล็กๆ ไปจนถึงกาฬโรค

ในสมัยก่อนร้านตัดผมและคลีนิคศัลยกรรมจะรวมกันเป็นที่เดียวกันแล้วเรียกรวมๆ ว่า Barber-Surgeons มีหน้าที่เช่นดึงฟันออกจากปาก จัดกระดูกให้เข้าที่เข้าทาง หรืออการรักษาบาดแผลต่างๆ Ambroise Pare หนุ่มชาวฝรั่งเศสที่โด่งดังในช่วงศตรววษที่ 16 เขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะ Barber-Surgeon คนหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการผ่าตัด

ซึ่งไอ้เจ้าเสาไฟหน้าร้านตัดผมเหล่านี้ แรกเริ่มเดิมทีถูกออกแบบมาให้มีความคล้ายคลึงกับเส้นเลือด แล้วการที่หมุนๆ อยู่ก็เพื่อสื่อถึงเลือดที่ไหลเวียนอยู่นั่นเอง เพื่อให้คนที่ผ่านไปผ่านมาสังเกตเห็นว่าที่นั่นคือ Barber-Surgeon ส่วนใหญ่แล้วร้านตัดผมในต่างประเทศจะใช้สีแดง สีขาว และน้ำเงินเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแต่ละสีมีความหมายในตัวเองนะ เช่นสีแดงคือตัวแทนของเลือด สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของผ้าพันแผล สีน้ำเงินหมายถึงความรักชาติ

ต่อมาในช่วงกลางของไป ค.ศ. 1500 เป็นต้นมา ร้านตัดผมในอังกฤษเริ่มถูกสั่งห้ามไม่ให้มีการปฏิบัติการทางการแพทย์ใดๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้จะถูกเลิกให้บริการทางการแพทย์ แต่เสาหน้าร้านตัดผมก็ยังคงถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำร้านตัดผมมาจนถึงปัจจุบัน มีการนำไปดัดแปลงเป็นสีสันต่างๆ เช่นในประเทศไทยที่มีหลากหลายสีสันอยู่ไม่น้อย