"แกะรอยสงครามโลกครั้งที่ 3" คือเรื่องกำลังอาวุธของทั้ง 2 ฝ่าย

กำลังอาวุธของทั้ง 2 ฝ่าย

       อเมริกาคิดว่าตัวต่อตัว ระหว่างอเมริกากับรัสเซีย อเมริกาล้มรัสเซียได้ แต่พรรคพวกของรัสเซียนะซิ โดยเฉพาะจีนและอิหร่าน มีของจริงมากน้อยน่ากลัวแค่ไหน อเมริกาประเมินเรื่องกำลังอาวุธของจีนต่ำตลอด ถึงขนาดในการประชุมที่ Shangrila Dialogue ที่ เน้นเรื่องความมั่นคงของประเทศ ที่จัดเป็นประจำทุกปีที่สิงคโปร์ อเมริกาเคยปรามาสจีนอย่างไร้มรรยาท จนจีนไม่เข้าร่วมอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าอเมริการู้จริงถึงศักยภาพอาวุธของจีน เพราะจีนปิดเงียบ ไม่มีการโม้ ไม่มีการโชว์

       แต่ที่อเมริกาให้เวลาในการวิเคราะห์มากมายอีกประเทศหนึ่ง คือ อิหร่าน เพราะอเมริกาคิดว่า อาวุธที่ทรงอานุภาพที่สุด และเป็นตัวตัดสินคือ อาวุธนิวเคลียร์ และอเมริกาคิดว่า

อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มานานแล้ว อเมริกาถึงกับชักใย ให้สหประชาชาติใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่าน อิหร่านพัฒนานิวเคลียร์จริงหรือไม่ อิหร่านบอกว่าไม่ได้ทำ แต่ถ้าเรื่องนี้กลับตาลปัตร พูดได้คำเดียวว่า "แหลก" ฝ่ายไหนแหลก ก็ลองประเมินกันเองบ้างครับ

       กรณีอิหร่าน ทำให้พอมองเห็นแนวคิดของอเมริกาเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ เมื่ออเมริกาคิดว่านิวเคลียร์คืออาวุธที่ทรงอานุภาพที่สุด และเป็นตัวตัดสิน อเมริกาจึงเน้นการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และบรรดาที่เป็น hardware เป็น ส่วนมาก เช่น เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน รถถัง เครื่องบิน ฯลฯ เพื่อสร้างความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว เคลื่อนที่ ล๊อกเป้า เป็นต้น

 

       สิ่งที่น่าสนใจ และอเมริกาอาจจะไม่ให้ความสนใจพอในตอนแรก คือจีน เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าในเรื่องการพัฒนาระบบไอทีอย่างมาก อาวุธที่จีนพัฒนามาใช้ อาจไม่ใช่ในรูปแบบ hardware ทั้งหมด แต่เป็นรูปแบบไอที software ถ้าจีนพัฒนา software ที่สามารถสยบอาวุธหลากหลายของอเมริกาได้ สงครามครั้งนี้คงมีการสู้รบ รูปแบบต่างกับสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน และ มีความเป็นไปได้สูงมาก อย่าลืมว่าทางฝั่งของรัสเซีย นอกจากจีนแล้ว ยังมีอินเดียที่เป็นกูรูอีกรายในด้านไอที และถ้าฝั่งนี้เขาแชร์เทคโนโลยี่กัน คงเป็นเรื่องน่าสนใจมาก และน่าคิดและน่ากังวลมากสำหรับอเมริกา

 

       ตัวอย่างที่ทำให้น่าคิดว่า เรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี software ทางฝั่งรัสเซียและจีน ไม่ใช่เรื่องเกินจินตนาการคือ ข่าวเกี่ยวกับระบบ Sukhoi 24 หรือ Su-24 ของรัสเซียที่สยบเรือรบสัญชาติอเมริกาขื่อ USS Donald Cook เมื่อกลางปีนี้ ที่มีข่าวจาก Veterans Today เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2014 ว่า

       เรือรบสัญชาติอเมริกันชื่อ “USS Donald Cook” ซึ่งติดตั้งระบบ“Aegis” ที่ เป็นระบบที่ไฮเทคที่สุดของอเมริกา ที่สามารถใช้ทำการโจมตีและต่อสู้จรวดทางอากาศ ได้ไปลอยลำโชว์ตัวพร้อมจรวดโทมาฮอค เย้ยรัสเซียที่แถบทะเลดำเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ.2014 ที่ผ่านมา การเข้าไปในน่านน้ำของ Donald Cook เป็นการฝ่าฝืน Montreux Convention ด้านประเภทและระยะเวลา

       รัสเซียไม่ได้ใช้อาวุธขับไล่ Donald Cook เพียงแต่ส่งเครื่องบินรบที่ติดตั้งระบบเรียกว่า Sukhoi 24 หรือ Su-24 ไปบินวนรอบเรือรบDonald Cook ซึ่งจับสัญญาณเครื่องบินรบรัสเซียได้ เครื่องเตือนภัยของเรือรบทำการแจ้ง แต่หลังจากนั้นแป๊บเดียว ระบบอิเลคทรอนิคทั้งปวงของ Donald Cook ก็ล่ม จอดับมืด ว่างสะอาดเกลี้ยงเกลา และไม่สามารถทำการกู้ระบบได้อีกเลย

ระหว่างนั้นเครื่องบินรบที่ติดระบบ Su-24 ของรัสเซีย ก็บินวนเหนือดาดฟ้า Donald Cook 12 รอบ ก่อนบินจากไป

">

คลิปตัวอย่าง Sukhoi 24 หรือ Su-24 ไปบินวนรอบเรือรบDonald Cook ซึ่งจับสัญญาณเครื่องบินรบรัสเซียได้ เครื่องเตือนภัยของเรือรบทำการแจ้ง แต่หลังจากนั้นแป๊บเดียว ระบบอิเลคทรอนิคทั้งปวงของ Donald Cook ก็ล่ม จอดับมืด ว่างสะอาดเกลี้ยงเกลา และไม่สามารถทำการกู้ระบบได้อีกเลย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯยอมรับว่าลูกเรือของเรือรบ USS Donald Cook เสียขวัญกำลังใจจนกระเจิงไปหมด หลังจากโดนเครื่องบินรบของรัสเซีย Sukhoi 24 ลูบคมจนหมดท่าในทะเลดำ เรื่องนี้เกิดเมื่อเดือนเมษายนปีนี้ แต่ข่าวเพิ่งจะรั่วออกมา เพราะว่าปิดไม่มิด ในวันที่10เมษายน เรือพิฆาต USS Donald Cook ของสหรัฐฯแล่นเข้าไปในน่านน้ำสากลในทะเลดำเพื่อขู่รัสเซีย อีกสองวันต่อมาคือวันที่ 12 เมษายน ปรากฎว่าเครื่องบิน Su-24 ของรัสเซียบินเข้ามาทักทายอย่างเย้ยฟ้าท้าดิน จนลูกเรือของสหรัฐฯขวัญกระเจิง เครื่องบิน Su-24 ไม่ได้ติดจรวด หรือระเบิด มีเพียงอุปกรณ์ทางอิเลคโทคนิคส์ในการสงครามเรียกว่า Khibiny ขณะที่กำลังบินเข้าใกล้เรือรบสหรัฐฯ อุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์ของเครื่องบินรบได้ทำการถอดรหัสทำให้เรดาร์ ระบบแผงวงจรคอนโทรล การส่งข้อมูล ฯลฯของ USS Donald Cook ไม่สามารถทำงานได้ เรียกว่าเป็นอัมพาตไปเลย ในเรือพิฆาตลำนี้ มีระบบบังคับการ Aegis ที่เชื่อมกับเรือรบของนาโต้ทั้งหมด หมายความว่าโดนปิดสนิท เหมือนเครื่องทีวี โดนปิดโดยรีโหมท นักบิน Su-24 ของรัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธแบบจำลองใส่ USS Donald Cook เพื่อเป็นการเยาะเย้ยถากถางเล่นๆ ในขณะที่ลูกเรือของสหรัฐฯเป็นใบ้ ขยับไม่ออก และไม่สามารถจะตอบโต้อะไรได้ เพราะว่าระบบอิเลคโทรนิคส์โดนปิดสวิทช์หมด นักบิน Su-24 เล่นซ้อมการรบสนุกมือ โดยทำการโจมตี USS Donald Cook ด้วยจรวดถึง 12 ครั้งในลักษณะคอมพิวเตอร์เกม เสร็จแล้ว Su-24 ก็บินหายเข้าไปในกลีบเมฆ ต่อมากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯประท้วงรัสเซียในกรณีนี้

แหล่งที่มา http://www.voltairenet.org/article185860.html

       เมื่อรู้ตัวว่าถูกลูบคมจนไม่เหลือ Donald Cook ก็รีบแล่นเข้าไปจอดเทียบท่าที่โรมาเนีย รายงานข่าวบอกว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำการ 27 คนของ Donald Cook ก็ ยื่นใบลาออก และไม่มีการแถลงข่าวใดๆจากฝั่งอเมริกา ส่วนทางรัสเซียออกข่าวเพียงว่า เรายังไม่ได้ใช้อาวุธอะไรเลยนะ เพียงแค่ใช้ระบบคลื่นวิทยุทำลายการทำงานของระบบอเมริกันที่ว่าเยี่ยมสุดแค่ นั้นเอง..... และระบบที่ว่านี้ของอเมริกา เขาว่ากองเรือทั้งหมดของ NATO จะติดตั้ง เพื่อใช้ในการต่อสู้กับรัสเซีย หากรัสเซียบุกยูเครน...

       สรุปว่า ด้านอาวุธยุทธโธปกรณ์นั้น ยังตัดสินไม่ขาดว่า ฝ่ายใดจะนำหน้าใคร เพราะมีทั้งเรื่องนิวเคลียร์ hardware และ software ที่ต่างก็ซุ่มพัฒนา แต่ถ้าจีนสามารถสร้างระบบ software ที่สยบระบบที่ใช้กับอาวุธของอเมริกาได้หมด หรือเกือบหมด หนทางชนะสงครามชิงโลกของอเมริกา คงแทบไม่มีได้เห็นเลย

 

ปัจจัยสุดท้าย ที่จะตามประเมินกันคือ เรื่องกองกำลัง ซึ่งมีทั้งในระบบและนอกระบบ

       สำหรับกองกำลังในระบบ เป็นเรื่องที่ประเมินยาก เนื่องจากความแตกต่างทางข้อมูลของของแต่ละแหล่งที่มา ซึ่งแน่นอน มีทั้งการซ่อนตัวเลขไม่ให้อีกฝ่ายรู้ความจริง หรือแต่งให้ดูดีกว่าเป็นจริง จึงเป็นเรื่องที่ยากจะยืนยัน ตัวเลขที่จะนำมาแสดงต่อไปนี้ ผมได้มาจากหลายแหล่ง มีทั้งเวบด้านทหาร และข้อมูลที่มีผู้รู้ทางด้านนี้ส่งมาให้ ผมใช้ตัวเลขที่ประเมินจากทุกแหล่งข้อมูลที่ได้ มาเปรียบเทียบ และ ประมาณความเป็นไปได้นะครับ

ฝ่ายอเมริกา 5 อันดับแรก

- อเมริกา มีประมาณ 2.2 ล้านนาย

- เกาหลีใต้ มีประมาณ 1 ล้านนาย

- อังกฤษ มีประมาณ 4 แสนนาย

- ฝรั่งเศษ มีประมาณ 4 แสนนาย

- ออสเตรเลีย มีประมาณ 3.5 แสนนาย

- ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย

รวมทั้งหมดประมาณ 7 ล้านนาย

 

 

ส่วนกองกำลังในระบบ ของฝ่ายรัสเซีย 5 อันดับแรก

- จีน มีประมาณ 4.3 ล้านนาย

- รัสเซีย มีประมาณ 3.2 ล้านนาย

- อินเดีย มีประมาณ 3.4 ล้านนาย

- เกาหลีเหนือ มีประมาณ 2 ล้านนาย

- อิหร่าน มีประมาณ 3 ล้านนาย

- ที่เหลือรวมๆกันของพันธมิตร มีประมาณ 2 ล้านนาย

รวมทั้งหมดประมาณ 18 ล้านนาย

 

สรุป กองกำลังในระบบ หรือประจำกองทัพ ระหว่างฝ่ายอเมริกากับฝ่ายรัสเซีย อัตราส่วนประมาณ 1: 2.5 ฝ่ายรัสเซียมีมากกว่าฝ่ายอเมริกากว่าเท่าครึ่ง

คงพอเห็นแล้วว่า มีจำนวนพันธมิตรมาก ก็เรื่องหนึ่ง แต่เวลาทำสงคราม จำนวนนักรบ อาจสำคัญกว่าเพื่อนที่เป็นภาระรุงรังนะครับ

เกี่ยวกับเรื่องกองกำลังนั้น อเมริกาเลิกระบบทหารเกณฑ์ไปแล้ว มีแต่ทหารสมัคร ขณะที่รัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ และ อิหร่าน ยังมีระบบทหารเกณฑ์ตามกฏหมายอยู่ ซึ่งจะทำให้ทั้ง 4 ประเทศ สามารถเรียกทหารสำรอง และทหารเกณฑ์ได้อีกหลายสิบล้านนาย

ยังมีตัวแปรที่มีกองกำลังขนาดใหญ่ ที่ผมไม่ได้ใส่ไป 2 ประเทศ คือ บราซิล และตุรกี บราซิล นั้น อยู่ระหว่างจะเป็นกลาง หรือเข้ากับฝ่ายรัสเซีย มีกองกำลังประมาณ 4 แสนคน ส่วนตุรกีนั้น ด้วยความเป็นนก 2 หัว ชอบเล่นเกมเสียว ตุรกียังเล่นเสียวต่อ ไม่ตัดสินใจ มีกองกำลังประมาณ 6 แสนคน ดูท่าจะถูกบีบให้อยู่กับนาโต้

 

 

สงครามเกิดจาก "ความโลภของมนุษย์" ตราบใดที่ มนุษย์ยังมีความโลภอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีสงคราม ความโลภคือตัวจุดฉนวนสงคราม

ส่วนใครถามว่าไทยและอยู่ฝั่งไหน ผมว่าไทยเราอยู่ฝั่งตัวเองดีที่สุด คือรักษาชาติไว้ให้อยู่รอด ปกป้องคนในชาติให้อยู่รอดก็พอแล้ว เราไม่ใช่มหาอำนาจ อย่าลืมตัว ไทยเราเมืองพุทธ จะไปรบฆ่าฟันผู้อื่นทำไม จะรู้เองเมื่อเราถูกรุกรานและถูกรังแก เราจะรู้จุดยืนเราเองว่าเราควรยืนข้างไหน ฝ่ายไหนรุกรานเรารังแกเรา ฆ่าประชาชนไทยเรา เราจะเห็นเอง

 

ที่มา: https://www.facebook.com/นิทานเรื่องจริง-ตำนานการลวง-หลอกล่อ-ลงหม้อตุ๋น-688258957869254/?fref=ts

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...