คดีสาวลาวตกตึกดับ ย่านห้วยขวาง แชร์ว่อน ขอความเป็นธรรม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Lerdsak Janthien
 
            ข่าวสาวลาวตกตึกตาย ย่านห้วยขวาง ชาวเน็ตร่วมแชร์ทวงความเป็นธรรมให้ น้องแป้ง หรือ น้องต่าย เชื่อเหตุตกตึกถูกฆาตกรรม วอนตำรวจอย่าแยกแยะว่าคนไทยหรือต่างชาติ ต้องนำคนผิดมาลงโทษ
 
            เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก ได้มีการแชร์ต่อเรื่องราวจากเฟซบุ๊ก "Lerdsak Janthien" ที่เปิดเผยเรื่องราวสุดสลดของสาวลาวคนหนึ่ง ทราบชื่อคือ น.ส.ต่าย ดาวเรือง อายุ 18 ปี ซึ่งถูกพบในสภาพตกตึกเสียชีวิต ที่อาคารไนซ์ แมนชั่น 2 ถ.รัชดานิเวศน์ ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง กทม. เมื่อช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่กลับไม่ได้รับความเป็นธรรมในการสืบสวนดำเนินคดีกับคนร้าย 
 
            โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า น.ส.ต่าย หรือน้องแป้ง เป็นสาวลาวอายุ 18 ปี ที่มาทำงานในประเทศไทย และเช่าห้องพักรายวันอยู่แถวสี่แยกเหม่งจ๋าย เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ในคืนที่เกิดเหตุน้องแป้งเลิกงานกลับมาที่พักและทานข้าวกับเพื่อน ๆ ชาวลาว 4-5 คน จากนั้นเวลาประมาณ 01.00 น. กว่า ๆ นายนาท ได้โทรมาหาน้องและบอกจะแวะเข้ามาหาที่ห้อง ซึ่งทั้งคู่รู้จักกันดีเพราะทำงานอยู่ที่เดียวกัน และนายนาทเป็นพนักงานแคชเชียร์ของร้านที่น้องแป้งทำงานอยู่ จึงได้เจอกันที่ร้านเกือบทุกวัน 
 
            เมื่อน้องแป้งตกลง นายนาทก็มาหา เพื่อน ๆ ของน้องจึงกลับไปยังห้องของตัวเองที่อยู่ตรงข้าม หลังจากนั้นราว 10 กว่านาที ภรรยาของนายนาทก็ตามมา โดยมาขอกุญแจห้องจากแคชเชียร์ตึกที่น้องพัก และไขประตูเข้าห้องนอนไปเลย จากนั้นมีการทะเลาะกันเสียงดังจนได้ยินถึงห้องของเพื่อนน้อง จากนั้นไม่ถึง 5 นาที นายนาทและภรรยาก็วิ่งหนีออกจากห้อง เรียกรถแท็กซี่ออกไปทันที โดยมียามเห็นเหตุการณ์และมีผู้แจ้งว่ามีคนตกตึก แต่กว่ามูลนิธิจะมาถึงก็ต้องใช้เวลา 
 
            เมื่อเพื่อน ๆ ของน้องแป้งได้ทราบเรื่องก็แจ้งความไปยังตำรวจ สน.ห้วยขวาง และตามนายนาทกับภรรยามาให้ปากคำ ซึ่งทั้งคู่ยืนยันไม่รู้ว่าน้องแป้งตกลงไปได้อย่างไร แต่จะยอมออกค่าทำศพให้ 20,000-30,000 บาท ก่อนที่ตำรวจจะปล่อยตัวไป
 
            ด้านพ่อแม่ของน้องแป้งซึ่งมีฐานะยากจน ต้องรีบยืมเงินเพื่อนบ้านเพื่อนั่งเครื่องบินจากลาวมาที่กรุงเทพฯ เมื่อเย็นที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้แต่นั่งเสียใจเพราะน้องแป้งเป็นเสาหลักของบ้านที่หาเงินส่งกลับไปช่วยเหลือครอบครัว ทั้งยังต้องส่งน้องอีก 2 คนเรียนหนังสือที่ประเทศลาว
 
            ทั้งนี้ เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวยังได้ตั้งคำถามด้วยว่า ความยุติธรรมของคนเราไม่มีแล้วหรือ พร้อมชี้ว่าเขาอยากให้ตำรวจไทย อย่าแยกแยะความเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ เพราะไม่ว่าจะเป็นชาติไหนก็คือคนเหมือนกัน เรื่องไม่น่าจะจบเช่นนี้ได้
 
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...