สำหรับบรรยากาศในเรือนจำนั้น เสี่ยอู๊ด เผยว่า เป็นเหมือนโรงเรียนกินนอนประจำ ผู้คุมเหมือนกับ ครู หมอ ยาม ญาติ และที่ปรึกษา ไม่ได้เลวร้ายเหมือนในหนัง ก็เป็นไปตามอัตภาพ ส่วนเรื่องข่าวลือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างที่เขาติดคุก เรื่องที่ว่าเขาเป็นแฟนกับ แพท พาวเวอร์แพท อดีตนักร้องดังที่ติดคุกเพราะค้ายาอีนั้น ไม่เป็นความจริง ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอ อยู่กันคนละเรือนจำ แต่เห็นจากในสื่อ ความรักในเรือนจำก็ไม่มี เพราะในคุกไม่ใช่สวนสนุกหรือสรวงสวรรค์ ข่าวลือที่ว่ามีแฟนเป็นผู้คุมก็ไม่จริง ส่วนข่าวลือที่ว่าจริง ๆ เสี่ยอู๊ดไม่ได้อยู่ในเรือนจำแต่กลับไปอยู่ที่ตึกช้างก็ไม่จริง เขาไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไร ในเรือนจำก็ไม่มีลูกน้องด้วย

          เมื่อวู้ดดี้ถามว่า ระหว่างอยู่ในคุก มีจิตตกบ้างไหม เสี่ยอู๊ด เผยว่า คิดทุกวันทุกคืนก่อนนอนว่าทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ คิดถึงคุณความดีที่ทำไว้ เวลานอนไม่หลับก็เขียนหนังสือ ยอมรับว่าเคยฆ่าตัวตาย เพราะรู้สึกอิ่มกับความเป็นมนุษย์ โดยเมื่อปลายปี 2553 หลังจากที่ผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรักได้เลื่อนยศสูงสุด ตนจัดการทำพิธีส่งมอบทำบุญบริจาคทั้งหมด รู้สึกว่าไม่อยากอยู่แล้ว เพราะการที่อยู่ที่นี่เหมือนกับเขาเป็นคนชั่วที่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่อยากอยู่เพราะไม่อยากเป็นคนที่ไม่ดี น้อยใจผู้ที่ตนเคารพรัก ไม่ได้น้อยใจศาล ตอนนั้นจึงตัดสินใจกินยานอนหลับที่ร้ายแรงที่สุดเม็ดสีม่วง ได้รับมา 50 เม็ดแต่หายไปครึ่งหนึ่ง เหลือ 20 เม็ด ก่อนจะกิน ตัวเองก็ได้แจกของแจกเสื้อให้ทุกคน แต่งตัวเรียบร้อยแล้วกินยา โดยเลือกช่วงเวลาหัวค่ำเพราะใช้เวลานานก่อนผู้คุมจะมา

ทั้งนี้ เสี่ยอู๊ด เผยว่า ไม่รู้สึกเป็นบาปที่คิดฆ่าตัวตาย บาปเป็นอย่างไร เขาไม่เชื่อบาปบุญแล้ว เป็นเรื่องอุปโลกน์ที่สมมติขึ้น ไม่เชื่อว่าบาปบุญนรกสวรรค์มีจริง มีสองสิ่งที่เชื่อคือสุขกับทุกข์ ที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่ต้องการผจญความทุกข์แล้ว กลับไปที่ ๆ เคยมา พร้อมกับลั่นวาจาว่า "เมื่อผมตายในคุกไม่ได้ ถ้ามีโอกาสผมจะมาตายนอกคุก" วู้ดดี้จึงรีบขอว่าอย่าเพิ่งฆ่าตัวตาย เสี่ยอู๊ดจึงสวนกลับว่า คนที่จะขอกันได้มี 3 คน 1 คนที่เขาเป็นหนี้บุญคุณ 2 คนที่เขารักมาก และ 3 คนที่รักเขามาก ซึ่งคนที่เป็นหนี้บุญคุณก็คือคนที่หยิบยื่นคุกให้เขาเอง ส่วนคนที่เขารักมากก็ไม่เคยมาเยี่ยมเขาเลยตลอด 5 ปี ส่วนคนที่รักเขามากคือพ่อแม่ ซึ่งก็เสียชีวิตไปแล้ว เสี่ยอู๊ดเผยต่อว่า ได้ขายของทุกอย่างหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านรถตึก เอาเงินแจกหมดแล้ว ไม่มีเงินในบัญชี ไม่มีสมุดบัญชี วู้ดดี้ไม่เชื่อ จึงถามว่า ค่าใช้จ่ายทุกวันนี้เอามาจากไหน เสี่ยอู๊ดตอบว่า เอามาจากคนที่เคารพรักเขา ส่งเงินมาให้ใช้ในคุก 3 ล้านบาทกับคนแถว ๆ นี้ โอนเงินมาให้ 2 ล้าน ตอนนี้ต้องการทำให้ตัวเองเป็นศูนย์ และไม่ได้เป็นเสี่ยแล้ว

          นอกจากนี้ วู้ดดี้ ยังได้ถามถึงคนที่เสี่ยอู๊ดรักว่าได้ไปเยี่ยมบ้างไหม เจ้าตัวตอบว่า ไม่ได้ไปเยี่ยมเลย ส่วนสาเหตุที่รักคนนี้ เพราะเขาเป็นคนดีจริง ๆ ไม่เอาอะไรเลย รถสปอร์ต 3 คันก็เอาคืนหมด จะคืนแม้กระทั่งพระเครื่อง แต่เขาขอให้เก็บไว้ สาเหตุที่คิดว่าเขาเป็นคนดี เพราะประโยคสุดท้ายเขาฝากมาบอกว่า "พี่ครับเลิกอาชีพนี้เถอะ เพราะมีคนคิดร้ายต่อพี่เยอะมาก" ยังไงก็ยังรักคนนี้อยู่ โดยเมื่อเขาอยู่ในคุก ก็มีนักร้องค่ายแถวลาดพร้าวไปเยี่ยมเยอะ แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ ส่วนคู่กรณีก็ไม่เคยมาเยี่ยม สิ่งที่เขาเสียใจที่สุดคือเมื่อคนสนิทของเขาโทรไปขอให้ช่วยงาน พออีกฝ่ายรู้ว่าเป็นงานที่มีชื่อเขา ก็พูดว่า อย่าเอ่ยชื่อคนนี้ให้ได้ยินอีก ทำให้เขาผิดหวังในตัวคนคนนั้นมาก จากนั้นก็ได้ทิ้งท้ายว่า เขาไม่เคยออกจากวงการพระเครื่อง ถ้าเขาไม่ทำวงการพระเครื่อง จะให้ทำรายการ อู๊ดเกิดมาคุยเหรอ พร้อมบอกข้อคิดที่ได้รับจากการใช้ชีวิตในเรือนจำว่าได้อะไรบ้าง

          ติดตามเรื่องราวของ เสี่ยอู๊ด สิทธิกร บุญฉิม แบบเต็ม ๆ ได้ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย คืนวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนนี้ เวลา 23.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี