ไล่ล่าระทึก ผัว-เมีย ซิ่งกระบะหนีตร.กลางเมืองกาญจน์ นาน1ชม. พบซุกปืนพร้อมกระสุน-เสพไอซ์

เมื่อเวลา 01.03 น. วันที่ 4 มิถุนายน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒษ 1973กทม. กำลังขับหลบหนีการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ หลังจากมีผู้แจ้งว่าหญิงสาวที่มากับรถยนต์คันดังกล่าวใช้อาวุธปืนชูข่มขู่ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจกระจายกำลังออกติดตามจับกุม และปิดล้อมถนนสายหลักและสายรองเพื่อสกัดกั้นการหลบหนี ทั้งหมด โดยกระจายกำลังกันออกติดตามเป็น 3 ชุด จนสามารถสกัดจับ บุคคลที่กำลังหลบหนีเป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ได้ที่บริเวณ ถนนสายบายพาส หมู่ 5 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมรถยนต์กระบะที่ใช้หลบหนี โดยการไล่ล่าจับกุมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งสองมาตรวจสอบและสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ทราบว่า คนขับคือ นายอดิศร หรือเอ้ จันทบูรณ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/5 หมู่ 5ต.เขาสามสิบหาบ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และ นางสาวอรวรรณ จาบกัน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/6 หมู่ 4 ต.วังศาลา อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี แฟนสาวที่นั่งมาด้วย

จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายสีดำของนางสาวอรวรรณ พบอาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติก ยี่ห้อ เบาเซอร์ ขนาด 9 มม.ไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม.จำนวน 5 นัด อาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติก ยี่ห้อ โคลท์ ขนาด .38 มม.พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 มม.จำนวน 21 นัด และจากการตรวจค้นนายอดิศร เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนพกสั้น ออโตเมติก ยี่ห้อ วอลเทอร์ ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 3 นัด ภายในรถยังพบอุปกรณ์เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ กล้องถ่ายภาพนิ่ง และวีดีโอภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งหนึ่งมียอดเงินหมุนเวียนในการโอนเข้าออกบัญชีครั้งละกว่าแสนบาท

จากการสอบสวน นายอดิศร ให้การว่า เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตาย เหตุเกิดในพื้นที่ อ.ท่ามะกา ถูกศาลตัดสินจำคุก 7 ปี และพ้นโทษมาได้ประมาณ 5 ปี ส่วน นางสาวอรวรรณ เป็นภรรยาอดีตเคยทำงานเป็นพนักงานห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยาได้ขับรถมาเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณถนนเลียบริมแม่น้ำ และเกิดมีเรื่องชกต่อยกับนักท่องเที่ยวด้วยกัน จนได้รับบาดเจ็บศรีษะแตก ขณะเกิดเหตุชุลมุน ตนและภรรยาจึงได้วิ่งหลบมาที่รถแล้วขับหลบหนีออกมา ส่วนอาวุธปืนที่พบตนไม่ได้หวังจะเอามาก่อเหตุร้าย และปืนทั้งหมดเป็นปืนที่รับจำนำมาจากบ่อนการพนันแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี นอกจากรับจำนำปืน ยังมีอาชีพปล่อยเงินกู้ตามบ่อนใน จ.สุพรรณบุรี ด้วย

ด้าน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ กล่าวว่า ถึงแม้ นายอดิศร และนางสาวอรวรรณ ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เอาปืนไปข่มขู่ใครก็ตาม แต่หลักฐานที่ค้นพบมีทั้งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ และซองเปล่าที่ใช้สำหรับบรรจุยาไอซ์ และภายในซองยังมียาไอซ์เหลืออยู่ และนายอดิศร ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเสพยาไอซ์จริง

ส่วน นางสาวอรวรรณ ยังให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้เสพยาไอซ์ แต่จากผลการตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง โดยทั้งสองจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณในยามวิกาลโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพขับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) และหลบหนีการจับกุมของเข้าหน้าที่ ส่วนอาวุธปืนที่พบจะนำไปตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ว่า เคยนำไปก่อเหตุร้ายที่ใดมาก่อนหรือไม่ อีกทั้งยังพบว่าเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้คิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนดอีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...