เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ครอบครัวข่าว 3

          นักท่องเที่ยวเยอรมัน มาเที่ยวเกาะพะงัน และเกาะสมุย ขากลับตีตั๋วรถไฟเข้ากรุงเทพฯ เกิดพิเรนทร์โชว์โหนรถไฟ เอาตัวออกมานอกรถ ร่างฟาดสะพานเข้าอย่างจัง พลัดตกจมคลองดับ

          วานนี้ (29 เมษายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะทิว จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุพบศพชายชาวต่างชาติลอยขึ้นอืดอยู่ในคลองหนองตาเสือ ใต้สะพานโค้งรถไฟ ม.5 ต.บางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณนั้นเป็นสะพานเหล็กโค้งคร่อมรางรถไฟ ข้ามคลองหนองตาเสือ ห่างจากสถานีรถไฟปะทิว ประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนในลำคลองพบร่างของชายชาวต่างชาติ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ สวมเสื้อกล้ามสีขาว ในสภาพศพนอนหงาย ลอยขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำศพขึ้นมาบนฝั่ง

          จากการตรวจพิสูจน์ พบว่า บริเวณหน้าผากด้านขวาของผู้ตาย มีบาดแผลแตกเป็นทางยาวประมาณ 1 นิ้ว กะโหลกยุบ แขนขวาหัก เท้าซ้ายมีบาดแผลฉีกขาดยาวประมาณ 2 นิ้ว ส่วนตามร่างกายมีบาดแผลถลอกเต็มไปหมด เมื่อค้นภายในกระเป๋ากางเกง พบตั๋วรถไฟด่วน นครราชศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ระบุชื่อ นายเลนราฟาแอลด์ วู้ดเก้นส์ ชาวเยอรมัน อายุ 21 ปี

          ทั้งนี้ เมื่อคืนวันที่ 27 เมษายน เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากตำรวจรถไฟว่า มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพลัดตกจากขบวนรถไฟ ยังไม่ทราบชะตากรรม และเช้าวันรุ่งขึ้น (28 เมษายน) เจ้าหน้าที่ก็ระดมพลหานักท่องเที่ยวคนดังกล่าว แต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน จึงพบว่าชายคนดังกล่าวเป็นศพลอยขึ้นอืดอยู่ในลำคลอง

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ผู้ตายและเพื่อนรวม 4 คน เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวที่เกาะพะงัน และเกาะสมุย โดยได้ซื้อตั๋วรถไฟที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ และระหว่างที่โดยสารอยู่บนรถไฟนั้น ผู้ตายกับเพื่อนก็ได้ซื้ออาหาร และเครื่องดื่ม แล้วออกไปนั่งรับลมบริเวณช่องว่างของข้อต่อตู้เสบียงกับตู้นอน แต่จู่ ๆ ผู้ตาย ก็ได้ใช้มือจับราวบันไดทางขึ้นทั้ง 2 ข้าง โหนทิ้งตัวออกไปยังนอกขบวน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันด้านนอกเป็นสะพานเหล็ก ทำให้ร่างของผู้ตาย ฟาดสะพานเข้าอย่างจัง จนพลัดตกจากรถไฟร่วงลงไปในลำคลอง จมน้ำ และเสียชีวิตในที่สุด

          อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นในทางสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยทราบแล้ว เพื่อให้ญาติมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ครอบครัวข่าว 3