หลานปู่"คิมจองอิล"ให้สัมภาษณ์"เปิดหน้า"ครั้งแรก เผยอยากให้เกาหลีเหนือ"ดีกว่านี้"

 

หลานปู่ของนายคิม จอง-อิล อดีตผู้นำเกาหลีเหนือ และหลานชายของนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของฟินแลนด์ ที่บอสเนีย ซึ่งเขากำลังศึกษาอยู่ที่นั่น


เว็บไซต์ยูทูบเผยแพร่บทสัมภาษณ์นายคิม ฮันซอล วัย 17 ปี ที่เล่าชีวิตส่วนตัวและความสัมพันธ์กับนายคิม จองอิล อดีตผู้นำซึ่งเป็นปู่ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเขากล่าวว่า ต้องการสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้แก่ผู้คนที่นั่น

 

นายคิม ฮันซอล เป็นบุตรชายของนายคิม จองนัม บุตรชายคนโตของนายคิม จองอิล เพิ่งเข้าศึกษาที่วิทยาลัยยูไนเต็ดเวิลด์ ที่เมืองมอสตาร์ ในบอสเนียเมื่อปีก่อน เขาให้สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกับสถานีโทรทัศน์ของฟินแลนด์และมีการออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

 

เขาเล่าต่อนางเอลิซาเบธเรห์น อดีตรองเลขาธิการสหประชาชาติว่ามีชีวิตวัยเด็กโดดเดี่ยว ขณะที่อาศัยอยู่ที่มาเก๊าและจีน หลังจากที่เขาเกิดที่กรุงเปียงยางเมื่อปี 1995 ส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัวมารดา และไม่เคยได้พบหน้าปู่เลย ได้เพียงแต่ปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆด้วยตนเอง เขาอยากรู้ว่าแท้จริงแล้วปู่เป็นคนอย่างไรและเฝ้ารอว่าสักวันปู่จะมาหา จนกระทั่งปู่ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน

 

ส่วนพ่อของเขา นายคิม จอง-นัม วัย 39 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในต่างๆประเทศแบบเงียบๆ สถานีโทรทัศน์อาซาฮีเคยอ้างคำพูดของเขาเมื่อเเดือนต.ค.ปีที่แล้วว่า เขาต่อต้านระบบการสืบทอดอำนาจภายในวงศ์ตระกูล  ขณะที่คิม ฮันซอลกล่าวว่า พ่อของเขาไม่สนใจการเมืองแม้แต่น้อย

 

นายคิม ฮันซอล กล่าวว่า หลังจากที่ได้พบผู้คนมากหน้าหลายตา เขาสรุปได้ว่า เขาจะรับฟังความเห็นจากทั้งสองฝ่าย และช่าวน้ำหนักดูว่าอันไหนดีหรือไม่ดี และจะตัดสินเรื่องทั้งหมดด้วยตนเอง

 

เขาไม่รู้ว่า ปู่รู้หรือไม่ว่ามีเขาอยู่ ส่วนเรื่องที่บิดาไม่ได้ขึ้นเป็นผู้นำเกาหลีเหนือต่อจากปู่นั้น นายคิม ฮันซอล ตอบว่า บิดาไม่เคยสนใจการเมืองเลย เขาเองไม่รู้ว่าเหตุใดนายคิม จองอึน ซึ่งเป็นอาคนเล็กจึงกลายเป็นคนเผด็จการไปได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างอากับปู่มากกว่า เขาหวังเสมอมาว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้กลับประเทศและทำสิ่งที่ดีว่าให้แก่ประชาชน เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น และหวังว่าทั้งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้


นายคิม ฮันซอล พยายามเก็บตัว แม้ว่าเป็นที่สนใจของสื่อมวลชน หลังจากตกเป็นข่าวเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว เขาไม่อธิบายว่าเหตุใดจึงให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ และได้รับอนุญาตจากครอบครัวหรือรัฐบาลเกาหลีเหนือแล้วหรือไม่ เขาเล่าว่า ตอนแรกที่รู้จักเพื่อนนักเรียนจากเกาหลีใต้และสหรัฐก็รู้สึกแปลก ๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนสนิทไปไหนมาไหนด้วยกัน ส่วนเป้าหมายหลังสำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัย เขาอยากทำงานอาสาสมัครและงานด้านมนุษยธรรมเพื่อให้โลกมีสันติภาพ

 

 

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...