"เรดบูล"และแผนการตลาด"เหนือพสุธา" งานนี้มีแต่คำว่า"คุ้ม"

 

เมื่อวานนี้ เฟลิกซ์ บอมการ์ตเนอร์ นักดิ่งพสุธาท้าความตายชื่อดังชาวออสเตรีย ได้สร้างสถิติการดิ่งพสุธาด้วยความเร็วเหนือเสียงได้สำเร็จ ภายใต้ชื่อโครงการว่า "เรดบูล สตราโทส" โดยบริษัทที่คนไทยรู้จักกันดี นั้นก็คือ "เรดบูล" หรือ"กระทิงแดง" ภายใต้สโลแกนที่ว่า "Red Bull gives you wings" หรือ"กระทิงแดงติดปีกให้คุณ"

 

 

 

 

ผู้คนกว่า 8 ล้านคนทั่วโลกเฝ้าติดตามการถ่ายทอดสดครั้งนี้ผ่านออนไลน์ แน่นอนชื่อของกระทิงแดงกลายเป็นสิ่งติดตาไม่เฉพาะผู้ที่เฝ้าชมเท่านั้น แต่กลายเป็นที่จดจำของผู้ที่อ่านข่าวทั่วโลก ที่ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของกลยุทธ์การตลาดของ "เรดบูล" บริษัทเครื่องดื่มชูกำลังออสเตรีย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักการทำลายสถิติโลกครั้งนี้อย่างเป็นทางการ

 

เครื่องหมายการค้าของเรดบูลปรากฏอยู่แทบทุกส่วนของชุดเครื่องแบบของบอมการ์ดเนอร์ รอบแคปซูลแต็มไปด้วยโลโก้ของเรดบูล ขณะที่เครือข่ายโทรทัศน์กว่า 40 ช่องใน 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสื่อดิจิตอลบนโลกอินเทอร์เน็ตอีกกว่า 130 สถานี ต่างพร้อมใจกันถ่ายทอดสดการทำลายสถิติดังกล่าวออกสู่สายตาของผู้ชมกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก กระทั่งยูทูบต้องออกมาประกาศว่า การถ่ายทอดสดออนไลน์ครั้งนี้ มีจำนวนผู้ชมสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นเรดบูล ที่ทำให้แบรนด์สามารถปรากฏสู่สายตาประชาชนหลายล้านคนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มชูกำลังที่ทรงพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
 
เบน สเตอร์เนอร์ ประธานและซีอีโอจากเลเวอเรจ เอเยนซี บริษัทด้านสื่อการตลาดชื่อดัง กล่าวว่า เรดบูลใช้แผนการเป็นผู้สนับสนุนโปรเจ็คต์นี้ เพื่อเปลี่ยนกีฬาและกิจกรรมบันเทิงต่างๆให้กลายเป็นวัฒนธรรมป็อปเต็มตัว และพุ่งเป้าหมายไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆทั่วโลก ที่เรดบูลไม่เคยเข้าถึงมาก่อน แม้เรดบูลจะสามารถทำรายได้กว่า 5.8 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว  แต่กิจกรรมครั้งนี้ จะทำให้ชื่อของเรดบูลกลายเป็นที่โจษจันและมีการพูดถึงไปอีกแสนนาน

 

สเตอร์เนอร์เชื่อว่ากิจกรรม Red Bull Stratos คือแผนการตลาดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของเรดบูล และอาจเป็นแผนการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ที่สำคัญกว่านั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่ต่อจากนี้ไป แบรนด์เรดบูลจะตกจากกระแสการนำเสนอจากสื่อมวลชนทั่วโลก

 

แต่ถึงกระนั้น เรดบูลก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะเพียงรายเดียวเท่านั้น แต่เฟลิกซ์ บอมการ์ตเนอร์ นักดิ่งพสุธาก็ได้รับอานิสงส์ของความสำเร็จจากความกล้าเสี่ยงตายไปเต็มๆเช่นกัน  ประเด็นแรกสุด มีแนวโน้มที่เรดบูลจะใช้ภาพลักษณ์และความชื่นชอบในตัวบอมการ์ตเนอร์ ไปพร้อมกับภาพวิดีโอการดิ่งพสุธาเพื่อใช้ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ

 

สเตอร์เนอร์เชื่อว่า บอมการ์ตเนอร์จะมีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆในขั้นที่เรียกว่า"มากมายเหลือเฟือ" และนั่นจะทำให้เขามีรายได้มากมายเช่นกัน แต่เก็เท่ากับว่า เขาก็จะถูกจำกัดโอกาสเฉพาะกิจกรรมในนามของเรดบูลเท่านั้น  อย่างไรก็ดี สเตอร์เนอร์เชื่อว่า ชื่อของบอมการ์ตเนอร์ จะสามารถนำไปขายได้ ทั้งการทำเป็นวิดีโอเกม เสื้อผ้า หรือขนมขบเคี้ยว

 

 

 

 

บอมการ์ตเนอร์ เป็นชาวเมืองซาลส์บูร์ก ประเทศออสเตรีย สถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของเรดบูล เริ่มทำงานกับเรดบูลครั้งแรกเมื่อปี 1988 ขณะที่เขามีอายุได้ 19 ปี ขณะที่บริษัทเพิ่งเข้ามาทำตลาดระดับโลกได้เพียงปีเดียว หลังนายดีทริช เมเทสซิทซ์ นักธุรกิจชาวออสเตรีย ซื้อลิขสิทธิ์เครื่องดื่มกระทิงแดงของไทย เพื่อนำไปพัฒนา และวางขายในต่างประเทศ

 

เขาร่วมกิจกรรมดิ่งพสุธากับเรดบูลอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่เรดบูลใช้กิจกรรมกีฬาเอ็กซ์ทรีมเป็นจุดขายด้านการตลาดของบริษัท และมักปรากฏชื่อของเรดบูลเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับการแข่งขันกีฬาแนวผาดโผนมาโดยตลอด

 

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าเรดบูลและบอมการ์ตเนอร์ จะได้รับผลประโยชน์จากการดิ่งพสุธาครั้งนี้เป็นจำนวนเท่าใด แต่นี่ถือเป็นภารกิจที่เรดบูลสามารถทำให้บรรลุผลได้อย่างงดงาม และเพื่อทำให้มุมมองต่อเรื่องนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น บอมการ์ดเนอร์ กล่าวไว้ระหว่างการแถลงข่าวหลังการดิ่งพสุธาว่า "บางครั้งเราก็ต้องขึ้นไปยังจุดที่สูงมากๆ เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว เรานั้นเล็กกะจ้อยร่อยมากเพียงใด"

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...