ชาวแพร่ยังแห่ตักน้ำบ่อลูกรังรักษาโรค กรมอนามัยเข้าตรวจสารปนเปื้อน 22 ตัวชี้วัด

จากกรณีชาวบ้านในต.ป่าแมต และตำบลใกล้เคียงอ.เมือง รวมทั้งชาวบ้านจากต่างอำเภอของจังหวัดแพร่ ต่างพากันมาตักน้ำในบ่อลูกรังที่หมู่ 5 ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ ไปดื่มและอาบ เพื่อเป็นยารักษาโรค โดยเชื่อว่าน้ำในบ่อเป็นยาที่เกิดจากผีป่าในลำห้วยจำแดง เป็นผู้ประทานให้เพื่อรักษาโรคของผู้คนในบริเวณดังกล่าว มีผู้ป่วยด้วยโรคคันตามผิวหนัง ผู้ป่วยปวดตามข้อ กระดูกสันหลังและ อัมพฤกษ์ นำน้ำไปดื่มกินทำให้อาการป่วยลดลง มีประชาชนยังทยอยออกมาตักน้ำไปรักษาโรคอย่างหลากหลายและมีจำนวนมากมาจุดธูปขอเลขเด็ดแต่ยังไม่มีใครประสบความสำเร็จเท่ากับการรักษาโรคที่มีเสียงร่ำลือไปทั่วจังหวัดแพร่ ทั้งที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์

 
วันที่ 3 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้นายเจริญ สิทธิศร ปลัด เทศบาลตำบลป่าแมต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองแพร่ พาเจ้าหน้าที่จาก กรมอนามัยเขต 10 จ.เชียงใหม่ นำโดยนายอเนก ศิริโหราชัย นักวิชาการสาธารณสุข พร้อมด้วยทีมงานเข้าเก็บตัวอย่างน้ำ จำนวน 2 จุดในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบสารปนเปื้อนในแหล่งน้ำดังกล่าว โดยนายอเนก ให้ข้อมูลว่า หลังจากบ่อน้ำดังกล่าวมีประชาชนสนใจนำไปใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งมีทั้งนำไปใช้อาบ ทา และ ดื่ม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติและมีรายงานว่าบ่อน้ำดังกล่าวอยู่ใกล้กับบ่อทิ้งขยะของเทศบาลเมืองแพร่ด้วย จึงจำเป็นที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่นำน้ำไปใช้

 
นายอเนก กล่าวด้วยว่า ในการตรวจคุณภาพน้ำและสารปนเปื้อน จะมีการตรวจอยู่ 20 ตัวชี้วัด เช่น ความกระด้าง ความเป็นกรดด่าง โลหะหนัก จำพวก สารปลอด ตะกั่ว แคชเมี่ยม ฯลฯ แต่ในการตรวจครั้งนี้มีการเพิ่มการตรวจอีก 2 ตัวชี้วัดคือ จะมีการตรวจ “สารซิลิเนี่ยม และสารแบเลี่ยม” เพิ่มไปด้วย สาเหตุที่ต้องตรวจเพิ่มเพราะสารเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากการปนเปื้อนมาจากบ่อขยะที่สามารถซึมผ่านใต้ดินได้ไกลถึง 1 กม. โดยบ่อน้ำนั้นอยู่ห่างบ่อขยะเทศบาลเมืองแพร่ไม่ถึง 1 กม. กรณีที่มีประชาชนนำน้ำไปใช้แล้วหายจากโรคพอสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า เกิดจากแร่ธาตุที่มีอยู่ในดิน และอาจเกิดจากการหมักของขยะถ้ามีการปนเปื้อนเข้ามาในใต้ดิน อย่างไรก็ตามเป็นข้อสังเกตเท่านั้น ต้องรอการตรวจพิสูจน์โดยละเอียด โดยจะนำส่งตัวอย่างน้ำไปตรวจพิสูจน์ที่กระทรวงสาธารณสุข จะรู้ผลภายใน 15 วัน ถ้าพบว่ามีโลหะหนักปนเปื้อนจะต้องสั่งห้ามใช้น้ำในบ่อดังกล่าวทันที เพราะเป็นอันตรายอาจทำให้เกิดโรคอื่นตามมาในระยะยาวแต่ถ้าไม่พบสารหรือโลหะหนักที่เป็นอันตราย ก็สามารถใช้ได้แต่ควรผ่านการต้มเสียก่อนเพราะน่าจะมีแบคทีเรียจำนวนมาก

 
"แม้ว่าทางเทศบาลตำบลป่าแมตจะออกคำเตือนหลายครั้ง แต่ประชาชนยังมั่นใจในการนำน้ำไปรักษาสุขภาพโดยมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลของการตรวจสอบ ทางสาธารณสุขอำเภอเมืองแพร่ และ เทศบาลตำบลป่าแมต จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป" รายงานข่าว ระบุ
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...