10 อันดับสาวโหดโลกไม่ลืม....

อย่าง ที่ทุกๆ คนได้อ่านกันฆาตกรไม่ใช้แต่มีเพศชายเท่านั้น เพศหญิงก็มี และบางที่ผู้หญิงอาจโหดกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ(ใช่ๆ คนโพสเห็นด้วย)

และนี้คือสิบรายการของฆาตกรหญิงที่ชั่วร้าย(โดยส่วนใหญ่) ที่มีชื่อเสียงเรื่องความน่ากลัวและความเกลียดชัง

ของบรรดาคนในประเทศที่พวก เธอได้ก่อวีรกรรมไว้ที่ยากจะให้อภัย แน่นอนเนื้อหาในแต่ละดับเราจะอธิบายลักษณะของพวกเธอโดยสังเขป ส่วนรายละเอียดนั้น(ไป หาอ่านเอาเอง นะจ๊ะ)อ่ะล้อเล่น

อันดับ 10 Williamina “Minnie” Dean 1844-1895

 

 

 

จำนวนเหยื่อ +3

 


 

มินนี่ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศนิวซีแลนด์ที่ถูกแขวนคอ ภายนอกดูเหมือนเป็นหญิงนักบุญผู้ช่วยเหลือเด็กน้อยกำพร้าที่น่าสงสาร
แต่ภายในกลับกลายเป็นอสูรกายที่หยิบยื่นความตายให้กับเด็กพวกนี้ โดยเหตุผลที่ฆ่าไม่มีอะไรเกินกว่าเงินจำนวนเล็กน้อยเพื่อปรับปรุงวิถีการ ดำเนินชีวิตของเธอเท่านั้น เธอชอบเด็กที่ท้องไม่มีพ่อถูกตีตราจากสังคม
และเมื่อเธอรับเลี้ยงพวกเธอ คนอื่นๆ ก็คิดว่าพวกเธออบอุ่น โดยหารู้ไม่ว่าเบื้องหลังคือ แรงงานทาส ใช้เด็กทำไร่
โดยเธอริบเงินค่าเลี้ยงดูจากรัฐบาลอย่างสุขอุรา ก่อนที่หญิงชาวนาแม่พระจะทำการฆาตกรรมเด็กสาวพวกนั้นเมื่อมีโอกาส
มินนี่สังหารเด็กอย่างน้อย 3 ราย ซึ่งความจริงมากกว่านั้นเนื่องจากเวลาเธอฆ่าคนเธอจะทำการหั่นศพและนำไปฝังใน ไร่เพื่อกำจัดหลักฐาน มีการพบซากศพจำนวนมากในไร่แห่งนั้นหากแต่ไม่สามารถนำมาต่อติดเป็นอย่างเดิม ได้
สุดท้ายเธอก็ถูกประหาร แต่เยาวชนและเด็กรุ่นใหม่ยังคงเรียนรู้เรื่องราวของเธอจากพิพิธภัณฑ์ขิอง ตำรวจนิวซีแลนด์ และคุณจะได้เห็นกระดูกเด็กเหยื่อของเธอที่ถูกกลับเป็นอย่างเดิม และนี้คือสิ่งที่ไม่ควรลืมในประเทศนิวซีแลนด์
http://www.youtube.com/watch?v=-pobXNCcQNU  คลิป ความรู้เพิ่มเติม
อันดับ 9 โดโรเธีย พูเอนเด้ (Dorothhea Puente) 1929-??



จำนวนเหยื่อ 9



โดโรเธีย พูเอนเด้ เป็นหญิงชราที่เช่าบ้านเก่าแถบซาคราเมนโต สหรัฐอเมริกาเพื่อใช้เป็นบ้านพักคนชราสูงอายุที่สิ้นเนื้อประดาตัวจากกรม ประชาสังเคราะห์ ฉากหลังเป็นแม่พระสำหรับคนทั่วไป แต่ฉากหลังเป็นบ้านพักของเธออย่างกับวังอสูรกาย
เพราะเธอออกกฎบ้านพักแบบเผล็ดการ เธอปฏิเสธการให้ผู้เช่าใช้โทรศัพท์หรือเขียนจดหมาย
เธอจะระเบิดอารมณ์อย่างรุนแรงหากคนชราพวกนี้ทำผิดเล็กๆ น้อยต่อหน้าเธอ และเธอจะอมเงินสวัสดีการที่ถูกส่งให้คนชราแต่เพืยงผู้เดียว ก่อนที่เธอที่ฆ่าคนชราหมดประโยชน์เพียงเพื่อโกงเงินสวัสดิการเพื่อขึ้นเงิน
เป็นของตนเอง เธอทำอยู่นาน นานมากจนกระทั้งสังคมได้รับรู้พฤติกรรมและความโหดร้ายของเธอเพราะ "กลิ่น"
เพื่อนบ้านตรงข้ามทนไม่ไหวจึงแจ้งตำรวจ มีการพบศพ 9 ศพที่ลานหลังบ้าน มีทั้งหัว แขน ขาที่ถูกหั่น เงินที่เธอขโมยมาถูกเปลี่ยนเป็นของฟุ่มเฟือยหรูหรา น้ำหอมที่ใช้เงินจากการฆ่าคนที่ไร้ทางสู้ สุดท้ายเธอถูกนำขึ้นศาล
สีหน้าของไร้ซึ่งความสำนึกผิดในบาปที่เธอก่อ ศาลตัดสินให้เธอจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งด้วยอายุของเธอคงแก่ตายในคุกแหละ(ปัจจุบันเธออายุ 80 กว่าปีแล้ว ยังไม่มีทีท่าจะตาย อึดจริงๆ แม่คุณ).......
อันดับ 8 คาร์ล่า โฮมอลก้า (Karla Homomlka) 1970-??



จำนวนเหยื่อ 3(มีเชื่อว่าน่าจะ 5 ราย)



ฆาตกรต่อเนื่องชาวแคนาดาร่วมมือกับสามีของเธอพอล เบอร์นาร์(Paul Bernardo)ข่มขืนและฆ่าเด็กสาว
รวมไปถึงน้องสาวของตัวเองอีกด้วย นอกจากนั้นเธอยังถ่ายวีดีโอเทปอัดเก็บฉากสามีกระทำทารุณต่อเหยื่ออย่างโหดร้ายไว้อีกด้วย
มีทั้งตอนขับถ่าย ข่มขืน ทรมาน และเซ็กต์วิตถาร(เช่นใช้ขวดไวท์ทิ่มทวารหนัก,ฉี่รดตัวเหยื่อ)ก่อนที่จะฆ่า รัดคอตายและเอาศพไปทิ้งอย่างโหดร้าย วีดีโอเหล่านั้นถูกห้ามให้เผยแพร่ออกภายนอก แต่กระนั้นยังถูกรั่วไหลไปทางอินเตอร์เน็ตทำให้รัฐบาลแคนาดาต้องสั่งทำลายวี ดีโอเหล่านี้ทิ้ง สุดท้ายคาร์ล่า โฮมอลก้าถูกจำคุกเธอถูกปล่อยจากคุกในปี 2005 หลังจากจำคุกเพียง 12 ปี และเธอเป็นคนรวย เธอมีชีวิตสุขสบายในสวรรค์บนดินในอินเดียตะวันตก โดยไม่ต้องกลัวความยุติธรรมเรียกหา.....สุดยอดดดความชั่ว
http://http://www.youtube.com/watch?v=Ebf7r_lnGmI คลิปเพิ่มเติม
อันดับ 7 อิลีน่า เชาเชสคู(Elena Ceasusescu) 1916-1989



จำนวนเหยื่อ ไม่สามารถระบุได้



ภรรยาของนิไคโล เชาเชสคู(Nicolae Ceasusescu) จอมเผล็ดการของโรมาเนีย และเธอก็ควบตำแหน่งรองรัฐมนตรีคนแรกของโรมาเนีย
เธอมีส่วนรับผิดชอบที่ทำให้เศรษฐ์กิจโรมาเนียตกต่ำถึงขีดสุดระหว่าง 1970 – 1980 เธอรับผิดชอบการทำลายโบสถ์
ผู้คนได้รับส่วนแบ่งปันอาหารจำนวนน้อยจนหิวโหยอดอยากและตายไป หญิงถูกบังคับให้มีลูกมากสุดท้ายเด็กที่เกิดมากำพร้าและถูกทอดทิ้ง(เพราะ ครอบครัวไม่มีอาหารเลี้ยงดู) การจัดตั้งหน่วยรักษาความมั่งคง
ของประเทศ(ตำรวจลับที่น่ากลัวที่สุดของโลก โดยตรวจตราการเคลื่อนไหวของประชาชนทุกฝีเก้า) และเธอมีส่วนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรมาเนียอีกหลายราย สุดท้ายเธอถูกต้องข้อหาเป็นอาชญากรและเธอถูกตัดสินประหารโดยการยิงเป้า
ก่อนตายเธอได้กริ๊ดร้องดังมากจนคนได้ยินแทบจะคิดว่าเป็นเสียงร้องของนรก จนรู้สึกประหลาดใจว่าเธอจะไปกริ๊ดเสียงที่ว่านั้นถึงที่นั้น หลังเธอตายหรือเปล่า....หลอนสุดๆ
http://www.youtube.com/watch?v=GU53qv5aA1M คลิป เพิ่มเติม
อันดับ 6 สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1(Elizabeth I England)1533-1603



จำนวนเหยื่อ ไม่สามารถระบุได้



ทรงเป็นราชินีแห่งประเทศอังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ.1558-ค.ศ.1603 ตลอดรัชสมัยอันยาวนานและมั่นคงถึง 45 ปี
และหลายๆ คนยกย่องอยากหาจะหาใครเปรียบ แต่ท่ามกลางความมั่งคงเหล่านี้ก็มีฉากหลังที่น่าสะพรึงเหมือนกัน
เนื่องจากตลอดรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1 พระองค์ได้เพิ่มพันธมิตรและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่นิกายโปรแตสแตนท์ มากขึ้น และในขณะเดียวกันก็แบ่งแยกศัตรูฝ่ายคาทอลิกรุนแรงมากขึ้นด้วย
พระองค์ทรงกำจัดศัตรูเหล่านี้อย่างโหดร้าย ทรงสนับสนุนสก็อตแลนด์ ก่อนที่จะทรยศในเวลาต่อมา และเธอสนับสนุนโจรสลัดเพื่อปล้นสเปน(อังกฤษสนับสนุนฝ่ายกบฏชาวฮอลันดาที่ต่อ ต้านสเปน มีการ “แต่งตั้งโจรสลัด”
อย่างเป็นงานเป็นการ ดังเช่นจอห์น ฮอว์ลีน และ ฟรานซิส เดรกเพื่อคอยดักปล้นทรัพย์สินของพวกสเปนในโลกใหม่) และมีการอนุญาตค้าขายทาสเพื่อความเจริญ
อันดับ 5 แมรีเบท ทินนิ่ง(Marybeth Tinning) 1942-??



ระหว่างปี 1972-1985 แมรีเบทหญิงในเมืองดวนสเบิร์ก รัฐนิวยอร์ค ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือฆาตกรรม
ลูกของเธอเองทั้งหมด 8 คน(หนึ่งในนั้นเป็นบุตรบุญธรรม) โดยเธอสารภาพว่าเธอทำให้เด็กไม่หายใจโดยการอุดจมูก
และเธอมักอุ้มเด็กเหล่านั้นไปโรงพยาบาล(ทั้งๆ ที่เด็กตายแล้ว) และสวมบทเป็นแม่เจ้าน้ำตาร้องไห้เหมือนขาดใจตายไปให้ได้
จนเธอสามารถตบตาแพทย์ชันสูตรได้ แต่เธอดันมาพลาดรายที่ 8 เพราะแพทย์สงสัยว่าลูกของเธอตายถี่เกินไป
หลังจากแมรี เบท ถูกจับกุม กองทัพสื่อมวลชนสนใจทำข่าวอย่างต่อเนื่อง การตายของเด็กกลายเป็นเรื่องที่ประเทศอเมริกาให้ความสนใจ เรื่องราวอันยาวเยียด การตายของเด็กอย่างต่อเนื่อง 14 ปี ถูกยัดลงในข่าวหนังสือพิมพ์ระดับชาติ
และเผยแพร่ในรายการโทรทัศน์ชื่อดังซิกตี้มินิต(60 Minutes)ปัจจุบัน แมรีเบท ทินนิ่งถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำเบดฟอร์ดฮิลส์ ผ่านมา 19 ปี เข้าไปแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามเธอมีสิทธิขอทัณฑ์บนเพื่อไปชีวิตข้างนอก ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 ถ้าเธอชนะ เธอสามารถออกไปข้างนอกได้ทันที(คงไม่ได้แหละ)....ถ้าใด้ก็งานเข้าล่ะ.....
ปล.คลิป โดนลบ เรีบยร้อย แล้ว...อดดูเลย
อันดับ 4 นางโรสแมรี เวสต์ (Rosemary West)1953-??



จำนวนเหยื่อ 12+



นางโรสแมรี เวสต์ (Rosemary West) ที่ร่วมมือกับสามี นายเฟร็ด เวสต์ (Frederick Walter Stephen West )
คดีลักพาตัว, ข่มขืน และฆ่าสตรีและเด็กสาวมากกว่า 10 ในบ้านเช่าของพวกเขาสมัยวิกตอเรียที่แทรกตัวอยู่ในอาคารที่ปลูกเรียงเป็นแถว ในเมืองกลูเซสเตอร์อันเงียบสงบทางภาคตะวันตกของอังกฤษ จากนั้นก็ทรมาน
ข่มขืนและฆ่าเหยื่อเหล่านี้ ที่น่าตกใจคือเหยื่อ 1 ในนั้นถึงกับเป็น ฮีทเธอร์ (Heather) ลูกสาวคนโตวัย 16 ของทั้งคู่
ศพเหยื่อจะถูกแยกชิ้นส่วนถูกซ่อนในห้องเก็บของใต้ดิน ใต้ห้องน้ำอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย(สำหรับกรณีของฮีทเธอร์ ถูกฝังอยู่ใต้ลานในสวนหลังบ้าน)
จนคดีฆาตกรรมต่อเนื่องคดีนี้ถูกเปิดโปงช่วงต้นปี 1994 เมื่อตำรวจได้เบาะแสใหม่เกี่ยวกับการหายตัวไปของฮีทเธอร์ ลูกสาวคนโตในตระกูลเวสต์ ที่สาบสูญไปเมื่อ 7 ปีก่อน เพราะสะดุดใจคำบอกเล่าของพวกญาติ
พี่น้องบางคนที่เข้ารับการดูแลชั่วคราวจาก รัฐ จึงเริ่มการค้นหาอีกครั้ง ทำให้เฟร็ดจนมุมจนต้องมายอมรับโดยดุษณีว่าเป็นคนฆ่าลูกสาวตัวเองกับมือ เฟร็ด ผู้สามี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมรวม 12 เขาชิงผูกคอตายในห้องขังในวันปีใหม่ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นศาล ส่วนโรสซึ่งไม่ยอมรับสารภาพ เจอข้อหาฆาตกรรม 10 กระทง
รวมทั้งคดีฆ่าลูกสาว ถูกศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิตทั้ง 10 กระทง ทุกวันนี้โรสยังชดใช้ความผิดอยู่ในเรือนจำบรอนซ์ฟิลด์ เขตแอชฟอร์ด เมืองมิดเดิลเส็กซ์....(โหดใด้ใจ)
http://http://www.youtube.com/watch?v=R54pa_pSu5s&feature=fvsr คลิปเพิ่มเติม
อันดับ 3 พูลัน เทวี(PhoolanDevi) 1963-2001

 

จำนวนเหยื่อ 22+



บุหลันเทวี เป็นสตรีชาวอินเดียที่สื่อมวลชนอินเดียเรียกเธอว่า “ราชินีโจร” Bandit Queen
ชีวิตเธอได้รับแต่ความโหดร้ายตั้งแต่เกิด เช่น พ่อเกลียด ยากจน โดนปล้น โดนข่มขืน ตกเป็นภรรยาของโจร เธอล้างแค้น
โดยการตั้งแก๊งปล้นคนรวยมาช่วยคนจน และเธอก็ฆ่าหมู่ผู้ชายในหมู่บ้าน Behmai ที่เคยข่มขื่นเธอมาก่อนเป็นการแก้แค้น เธอถูกจับ ติดคุก 11 ปี เมื่อพ้นโทษชาวบ้านเลือกเธอเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสุดท้ายโดนฆ่าตายในปี 2001 โดยผู้ชายที่บอกว่านี้เป็นการแก้แค้นในเหตุการณ์หมู่บ้าน Behmai....
อันดับ 2 Delphine Lalaurie 1775-1842(?)



จำนวนเหยื่อ 10+



เป็นคุณนาย The LaLaurie House (The Haunted House) ฉากหน้าเป็นไฮโซของสังคมอเมริกา ที่ใครๆ ต่างนับถือ แต่ฉากหลังผู้ต้องหาฆาตกรรมต่อเนื่องพวกทาสผิวสีมากกว่า 10 ชีวิตที่เพื่อนบ้านหลายคน
ได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงโหยหวนจากบ้านหลังนี้ บ้าน 10 เมษายน ปี 1833 เพื่อนบ้านแจ้งตำรวจว่าเธอเฆี่ยนตีเด็กหญิงผิวสีที่เป็นทาสอย่างทารุณ ซึ่งต่อมาเด็กหญิงก็ตกจากดาดฟ้า



จนกระทั้ง ในปี 1834 เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อนักผจญเพลิงพังประตูเข้าไปก็พบทาสทั้งชายและหญิง ถูกล่ามบ้าง
ถูกขังในกรงสุนัขบ้าง และพบชิ้นส่วนอีกจำนวนมาก บางคนถูกทำให้เสียโฉม บางคนถูกตัดทั้งแขนและขา
ทำให้เคลื่อนไหวเหมือนหนอนผีเสืออย่างน่าสมเพส อีกจำนวนหนึ่งถูกเย็บปากติดเพื่อให้อดอาหารจนตาย
สุดท้ายคุณคิดว่าคุณนายคนนั้นจะไม่รอดข้อหาฆาตกรรมต่อเนื่องใช่เปล่า ผิดเลย เพราะเธอมีญาติเป็นถึงผู้ว่า อีกทั้งร่ำรวย เธอใช้เงินซื้อความยุติธรรมมาได้ และเธอไม่ถูกจับ และตอนท้ายเราก็ไม่ทราบข่าวจากเธอแล้ว ที่แน่ๆ บ้านหลังที่ว่ากลายเป็นบ้านผีสิงที่มีหลายคนพบเห็นวิญญาณหลอนหลายตัวในบ้าน The Haunted House ที่ นิวออร์ลีนส์.....(กฏหมาย ไร้ประโยชน์ เมื่ออยู่ต่อหน้าเงิน และ อำนาจ)
http://www.youtube.com/watch?v=JtIrKYGh26A คลิป เพิ่มเติม บ้านผีสิงไปเลย
อันดับ 1 เจียงซิง (Jiang Qing) 1914-1991



มีจำนวนเหยื่อ 500,000+



หากกล่าวถึงเหตุการณ์การปฏิวัติวัฒนธรรม (Cultural Revolution) บนแผ่นดินใหญ่ตลอด 10 ปี คือ ในช่วง คศ.1966-1976 แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักการรวมตัวของกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า แก๊ง 4 คน อันประกอบด้วย เจียงซิง เหยาเหวินหยวน จางชุนเฉียว และหวังหงเหวิน ที่เข้ามารวมตัวกันโดยมีวัตถุประสงค์เดียวกัน
คือเพื่อความทะเยอทะยานและ อำนาจ โดยเฉพาะตัวการใหญ่ที่เป็นหญิงตัวเล็กๆ นามเจียงซิงที่เธอได้สร้างความทุกข์ลำเค็ญไปทั่วทุกหย่อมหญ้าบนแผ่นดินจีน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรม และ
ประชาชนอย่างใหญ่หลวง ส่งผลให้มีคนตายเพราะนโยบายของเธอหลายพันคน วัฒนธรรมของจีนต้องถูกทำลาย เช่น หนังสือ วัดวาอาราม รูปปั้น งานศิลปะต่าง ๆ



เจียงซิงเป็นภรยาคนที่ 3 ของประธานเหมาและเป็นคนสุดท้าย โดยใช้ชีวิตคู่ร่วมกับประธานเหมานานถึง 37 ปี เจียงซิงเริ่มก้าวขึ้นมามีบทบาทระดับนำในพรรคช่วงบั้นปลายชีวิตของประธาน เหมา เจียงซิงเป็นหัวหน้าแก๊ง 4 คน กำจัดผู้ที่คิดต่างทางการเมือง และปลุกระดมให้เกิดการกวาดล้างผู้ไม่ซื่อตรงต่อพรรค และพวกลัทธิแก้และนายทุน ครั้งมโหฬาร ในระหว่างปี 1966 -1976 ผู้ที่ถูกจับรวมทั้งครอบครัว คนใกล้ชิด และเพื่อนร่วมงานจะถูกสอบสวน ตั้งข้อหา ทำทารุณกรรม และถูกลงโทษโดยไม่ใช้กระบวนการทางศาล เริ่มจากที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นอันดับแรก อาจารย์อาวุโสถูกนักศึกษาจับกุม สอบสวน เป้าหมายลำดับต่อไปก็คือผู้มีอำนาจในพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางปฏิวัติ วัฒนธรรม และรวมไปถึงสมาชิกคณะรัฐบาล ผู้ทรงคุณวุฒิในสถาบันและองค์กรต่าง ๆ โดยเจียงชิงและผู้ใกล้ชิดจะเป็นผู้กำหนดชื่อเป้าหมายและป้อนข้อมูลให้กับเรด การ์ด



ในปี 1976 เมื่อสิ้นประธานเหมา คนคอยคุ้มครองฝ่ายเจียงชิงก็หมดไป แก๊งสี่คนมีแผนช่วงชิงอำนาจสูงสุดของทั้งจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐบาล แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ กลับกลายเป็นว่าทั้งสี่ต้องถูกจับกุมและสูญสิ้นอำนาจไปในเดือนตุลาคมปีเดียว กันนั้นเอง เจียงซิงถูกพิพากษาโทษประหารชีวิตในปี 1981 แต่ได้รับการลดโทษเหลือเพียงจำคุกตลอดชีวิตในปี 1983 และไม่มีสิทธิทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้นตลอดชีวิตอย่างไรก็ตาม เธอได้รับการปล่อยตัวเพื่อเข้ารับการรักษามะเร็งที่ลำคอ และวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 1991 เจียงซิงก็ได้จบชีวิตตัวเองด้วยน้ำมือตัวเองเมื่อ เธอแขวนคอตายในห้องน้ำของโรงพยาบาล+ +

------------------------------
เป็น ไง บ้างครับ....สยองขึ้นมาบ้างไม๊ ล่ะ
 
อย่างที่ โบราณว่า ไว้ ผู้หญิงร้ายกลัวเสือ
 
อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจสาวโสด(แต่ปาก)...เดี๋ยวงานเข้านะ
(เกี่ยวกันไม๊)
 
 

 

 
 


20 ก.พ. 54 เวลา 13:30 13,912 28 300
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...