6 ความจริง ของบุรุษหัวใจเด็ดเดี่ยวตลอดกาล 'มหาตมะ คานธี'

http://www.meekhao.com/news/amazing-man-in-india

ถ้าพูดถึงบุคคลสำคัญในประเทศอินเดียแน่นอนว่า คนที่เราต้องนึกถึงคือ มหาตมะ คานธี เขาคือชายที่เรียกร้องเอกราชให้กับประเทศอินเดีย แต่วิธีการที่เขาใช้สู้นั้นทำให้ชาวตะวันตกคาดไม่ถึงเลยทีเดียว หลักการที่เขาใช้คือ หลักอหิงสา ใช้ความไม่เบียดเบียน ไม่รุนแรงเอาชนะศัตรูได้สำเร็จ 5 เดือนหลังจากการประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ ชายผู้นี้ต้องมาถูกลอบสังหารโดยชาวฮินดูหัวรุนแรง แต่ยังไงเรื่องราวของชายผู้นี้ก็เป็นประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตาม

1. มหาตมะ คานธี แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย พ่อของคานธีคือ นายกรัฐมนตรีของรัฐเล็กๆในอินเดีย ในวัยที่คานธีอายุเพียง 13 ปี เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า กัสตูรพา ซึ่งเป็นลูกสาวของพ่อค้า ถ้าพูดง่ายๆการแต่งงานครั้งนี้เหมือนการคลุมถุงชนมากกว่าเพราะ ทั้งคู่หมั้นกันตั้งแต่คานธีอายุ 7 ขวบ คานธีและกัสตูรพามีลูกทั้งหมด 4 คน  และแม้ว่าในปี 1906 คานธีจะปฏิญาณตนว่าจะถือเพศพรหมจรรย์ตลอดไป ภรรยาของคานธีก็ไม่มีสามีใหม่เลยจนเธอเสียชีวิตตอนอายุ 74

2 มหาตมะ คานธี เริ่มเป็นผู้นำการประท้วงครั้งแรกในแอฟริกาไม่ใช่ในอินเดีย ในปี 1888 คานธีสำเร็จการศึกษาจากอังกฤษกลับมาที่อินเดีย เขามีปัญหาเกี่ยวกับงานที่ทำ เลยเดินทางไปที่แอฟริกาใต้ที่ซึ่งตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เขาเป็นหนึ่งในนั้นที่เจอปัญหาการเลือกปฏิบัติ ปัญหาการเหยียดผิว เขาจึงเริ่มต้นรณรงค์เรียกร้องสิทธิมนุษยชนของชาวอินเดียในแอฟริกาใต้จนเขาได้แนวคิดสัตยาเคราะห์ขึ้นมา แม้จะถูกจับขังหลายครั้ง คานธีก็ยังคงอยู่ในแอฟริกาใต้จนถึงปี 1914 เขากลับไปยังประเทศอินเดีย เขากลายเป็นผู้นำไปการต่อต้านความรุนแรงโดยไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อปลดปล่อยอิสรภาพแก่ประเทศของเขา

3. มหาตมะ คานธี ถูกลอบสังหารโดยผู้ติดตามชาวฮินดู การลอบสังหารเกิดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 1948 ขณะคานธีกำลังจะไปสวดมนต์ประจำวันที่กรุงนิวเดลีย์ เขาถูกยิงสามนัด โดยชายที่คลั่งศาสนาชื่อว่า Nathuram Godse มือปืนกล่าวโทษคานธีว่าเป็นผู้ทรยศเพราะมือปืนไม่ต้องการให้ฮินดูสมานฉันท์กับมุสลิม เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นมุสลิมอาจมีโอกาสขึ้นมาเป็นใหญ่ในอินเดียได้ ในปี 1949 มือปืนและผู้สมคบคิดถูกแขวนคอ ส่วนน้องชายของ Godse ก็ต้องติดคุกเช่นกัน

4 มหาตมะ คานธี เป็นผู้นำด้านความสันติแต่ไม่เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ทั้งๆที่ได้รับการเสนอชื่อตั้ง 5 ครั้ง คานธีถูกเสนอชื่อเข้ารับรางวัล โนเบลสาขาสันติภาพในปี 1937, 1938, 1939 และ 1947 แต่ไม่เคยได้รับรางวัลเลย ในปี 1948 เขาก็ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล แต่เนื่องจากถูกลอบสังหารเสียก่อน ปีนั้นเลยไม่มีใครได้ ในปี 1964 มาติน ลูเธอร์คิงได้รับรางวัลเขาก็ได้พูดถึงการทำงานของ คานธี และในปี 1898 ดาไลลามะ องค์ที่ 14 ได้รับรางวัล เขาก็ได้บอกว่า ขอมอบรางวัลนี้เพื่อรำลึกถึงท่านมหาตมะ คานธีด้วย ในปี 2006 คณะกรรมการโนเบลแสดงความเสียใจต่อสาธารณชนที่คานธีไม่เคยได้รับรางวัล

5. มหาตมะ คานธีและอินทิรา คานธีไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลย ถึงแม้ว่านามสกุลของทั้งคู่จะเหมือนกันแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกันเลย อินทิรา คานธี คือชื่อของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของดินเดีย เธอเป็นลูกสาวของ Jawaharlal Nehru นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดียนับแต่ได้เอกราชจากอังกฤษ หลังจากอินทิรา คานธี ถูกลอบสังหารโดยองครักษ์ บุตรชายของเธอ  ราจีฟ คานธี ก็ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน จนถึงปี 1989 เขาก็ถูกลอบสังหารอีกเช่นกัน โดยพวกทมิฬ ด้วยระเบิดพลีชีพ เหมือนครอบครัวนี้จะเป็นสายเลือดการเมืองอย่างแท้จริงเพราะ Rahul Gandhi ผู้สืบสายเลือดจากตระกูล Nehru ก็ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งนายกในปี 2014

6 ในอดีต แทบไม่เคยมีใครคาดคิดว่าคานธีจะกลายเป็นคนที่กลายเป็นตำนานของโลก เมื่อ คานธีโตขึ้นไม่มีใครคาดคิดเลยว่าเขาจะกลายเป็นผู้นำและมีผู้ติดตามมากมาย ขนาดนี้ เพราะว่าในตอนเป็นเด็ก ท่านคานธีเคยเล่าว่า เขาเป็นเด็กที่ขึ้อายมากๆ เขายอมทำทุกอย่าง ยอมกระทั่งวิ่งกลับบ้านเพื่อจะได้ไม่ต้องพูดคุยกับใคร

จากวันนั้นถึงวันนี้ กาลเวลาก็ล่วงเลยมานาน แต่หมีขาวเชื่อว่าไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเพียงไหน เรื่องราวของชายตัวเล็กหัวใจเด็ดเดี่ยวที่ชื่อว่า ‘มหาตมะ คานธี’ ก็จะยังคงอยู่ และจะถูกเล่าขานเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนต่อไป ทุกยุค ทุกสมัย

ที่มา http://www.oldindianphotos.in/2013/02/the-last-journey-of-mahatma-gandhi.html

เรียบเรียงโดย : ทีมงานหมีขาว มีข่าวมาเล่าให้ฟัง

 

 

 

 

5 ธ.ค. 59 เวลา 01:25 4,312
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...