กลายเป็นข่าวที่สั่นสะเทือนเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกอย่างรุนแรง เมื่อมีการออกมาอ้างของนักวิจัย UFO ที่เปิดเผยว่า กำลังทำการศึกษาศพมัมมีเด็ก แต่จากการศึกษารายละเอียดพบว่าอาจมาจากนอกโลก ซึ่งศพดังกล่าวถูกฝังไว้ในสุสานของชาวมายันมาหลายร้อยปี ปัจจุบันกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อมาสนับสนุนทฤษฎีดังกล่าว

       โดยกลุ่มนักวิจัย UFO กล่าวอ้างว่า ศพมัมมี่ที่กำลังทำการศึกษาอยู่นั้น ถูกฝังอยู่ในสุสานของชาวมายันมาหลายร้อยปี มีขนาด 50 นิ้ว ถูกพบจากหลุมฝังศพของชาวมายันในประเทศเม็กซิโก

       แต่ทว่า ศพที่หลายๆ คนคิดกันว่าเป็นมัมมีเด็กนั้น ทางกลุ่มนักวิจัยกลับมองว่าศพดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่น่าจะมาจากนอกโลกมากกว่า ซึ่ง ณ ขณะนี้ก็กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อจะมาสนับสนุนทฤษฎีที่ว่านี้

       นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่า มีมนุษย์ต่างดาวถูกนำไปแสดงระหว่างการประชุม UFO ในโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนพยายามชี้แจงให้เห็นว่า ศพดังกล่าวมีดวงตาที่ใหญ่เกินกว่าจะเป็นของเด็ก และนอกจากนี้ยังไม่มีใบหูอีกด้วย ดูแล้วไม่ใช่ร่างของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้

       ในขณะเดียวกันยังมีอีกหลายทฤษฎีที่กล่าวอ้างว่า มีหลักฐานสำคัญทางอารยธรรมโบราณและทางประวัติศาสตร์ เช่น ชนเผ่ามายัน รวมถึงชาวอียิปต์ ได้ต้อนรับการมาเยือนของสิ่งมีชีวิตที่อารยธรรมขั้นสูง ซึ่งต่อมาช่วยพวกเขาก่อสร้างอารยธรรมโบราณต่างๆ อาทิเช่น ปิรามิดโบราณของชาวอียิปต์

       ทฤษฎีดังกล่าวยังถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากนักวิทยาศาสตร์ค้นพบความร้อนที่ผิดปกติในหลายๆ จุดของปิรามิดคูฟู ซึ่งเป็นปิรามิดที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในบรรดา 3 ปิรามิดแห่งกิซา

       ทางด้าน นักวิจัยมนุษย์ต่างดาวชื่อ "สก็อต ซี วอริง" กล่าวอ้างว่า "ความผิดปกตินี้คือแหล่งพลังงานมหาศาลที่อยู่ใต้ปิรามิด มันอาจเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามันถูกสร้างโดยมนุษย์ต่างดาวโบราณและปิรามิดของพวกเขาก็มีอะไรที่มากกว่าที่เราเห็น และอาจมีมนุษย์ต่างดาวบางส่วนที่เสียชีวิตบนโลกนี้ และถูกฝังลงด้วยวิธีศพแบบดั้งเดิมของมนุษย์โลก ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับการพบมัมมีโบราณทีคล้ายๆ กันนี้ ในสุสานของชาวอียิปต์โบราณอีกด้วย" สก็อต กล่าว

ที่มา: http://cliphotkhaohit.com/news-details.php?item=7743