สถานการณ์ล่าสุดในไทย จลาจล-ไฟท่วมกรุง เคอร์ฟิว!

จลาจล-ไฟท่วมกรุง เคอร์ฟิว!

ทหาร-รถเกราะ ลุยราชประสงค์ ตายแล้ว15ศพ สลดหนีกระสุน สิ้นใจในวัดปทุม 6แกนนำมอบตัว ขังค่ายนเรศวร เผาเซ็นทรัลเวิลด์ 10แบงก์กรุงเทพ




สลาย - รถหุ้มเกราะทหารเข้าสลายม็อบแดงที่แยกศาลาแดง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค. ขณะที่การ์ดนปช.2 ราย(รูปเล็กบน)ถูกยิงเข้าหัวดับกลางแยกสารสิน และนักข่าวอิตาลี(รูปล่าง)โดนยิงทะลุหน้าอกเสียชีวิตเช่นกัน

ทหารล้อมสลายม็อบปะทะหนักทั่วกรุง เบื้องต้นมีตายแล้ว 11 ศพ เจ็บอีกกว่าครึ่งร้อย สลดม็อบถูกยิงบาดเจ็บนับสิบหนีเข้าไปพึ่งเขตอภัยทานวัดปทุมวนารามสิ้นใจตายรวด 9 ศพ ยังนอนเจ็บอีกส่วนหนึ่ง ด้านแกนนำยอมยุติชุมนุมแถลงทั้งน้ำตา ไม่อยากให้ชีวิตมวลชนสูญเสียไปมากกว่านี้อีก เดินเข้ามอบตัวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 6 คน คุมตัวไปขังค่ายนเรศวร "หมอเหวง-แรมโบ้" เผ่น ส่วน "กี้ร์" โดนรวบที่เพลินจิต เผยม็อบกระจัดกระจายซ่านเซ็นก่อจลาจล เผาห้างร้านราชประสงค์หลายแห่ง เซ็นทรัลเวิลด์หนักสุดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยังตามเข้าไปดับไม่ได้ บางส่วนโกรธแค้นบุกเผาธนาคารกรุงเทพหลายสาขา "มาร์ค" ประกาศเคอร์ฟิวห้ามคนกรุงออกนอกบ้านตั้งแต่ 2 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า

-แกนนำเครียด-รับมือสลาย

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. บรรยากาศการชุมนุม ที่เวทีสี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นไปอย่างเคร่งเครียด หลังจากมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะนำกำลังเข้าสลายการชุมนุม แกนนำนปช.ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง น.พ.เหวง โตจิราการ และนายจรัล ดิษฐาอภิชัย นั่งติดตามการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์จากช่องต่างๆ ฟังรายงานสถานการณ์การเข้าสลายการชุมนุมบริเวณแยกศาลาแดง และในพื้นที่ต่างๆ ด้วยความเคร่งเครียด

จากนั้นเวลา 08.00 น. ทุกคนเดินไปหารือบริเวณหลังเวทีเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนเข้าไปภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้เป็นที่ประชุม ทั้งนี้ บนเวทีปราศรัยได้เล่นดนตรีเพื่อผ่อนคลายความเครียดให้ผู้ชุมนุม ในช่วงที่มีรถกู้ชีพขับผ่านบริเวณ หลังเวที ซึ่งจะมีเสียงสัญญาณไซเรนดังมายังบริเวณที่ชุมนุม ผู้ชุมนุมจะพนมมือแล้วหันหน้าไปยังศาลท้าวมหาพรหม

ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงรอยต่อคืนวันที่ 18 พ.ค. ต่อเนื่องถึงวันที่ 19 พ.ค. แกนนำผลัดกันปราศรัยแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้ระวังการเข้าสลายการชุมนุม โดยนายณัฐวุฒิและนายจตุพรนั่งประจำอยู่หลังเวทีตลอดทั้งคืน ขณะที่พื้นที่การชุมนุม นอกจากบริเวณใกล้เวทีปราศรัยที่เปิดไฟสว่างแล้ว บริเวณรอบนอกทั้งสี่แยกปทุมวัน แยกประตูน้ำ แยกเพลิน จิตและแยกศาลาแดง ต่างปิดไฟมืดสนิท มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนและการ์ดนปช.นั่งอยู่ตามทางเท้ารอรับเหตุการณ์ เวลา 04.00 น. นายณัฐวุฒิขึ้นประกาศบนเวทีว่ามีรถสายพานลำเลียงออกจากเกียกกายมาประจำการที่ด่านสีลม ให้การ์ดทุกด่านเตรียมพร้อม เวลา 06.00 น. นายณัฐวุฒิ ปราศรัยอีกครั้งว่า ทหารตั้งกำลังโอบล้อมพื้นที่ชุมนุมสี่แยกราชประสงค์และพื้นที่การชุมนุมย่อย ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาสมทบในพื้นที่ใกล้เคียงให้มากที่สุด ระหว่างนั้นผู้ชุมนุมบางส่วนยิงบั้งไฟและจุดโคมลอยเพื่อขัดขวางการบินของเฮลิคอปเตอร์ตรวจการณ์

-ขวัญชัยยันข้ามพ้นแม้วแล้ว

นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำคนรักอุดร ปราศรัยบนเวทีว่า การชุมนุมต่อสู้ครั้งนี้เราก้าวข้ามพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปแล้ว แต่รัฐบาลชุดนี้ยังก้าวไม่ผ่าน พยายามเอามา เป็นเงื่อนไขกล่าวหาว่าเรารับคำสั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ไม่จริง ศอฉ.พยายามใส่ร้ายพวกเราว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เป็นพวกที่ต้องการล้มสถาบัน โดยใช้สื่อของรัฐบาลและสื่อทีวีต่างๆ ให้ประชาชนเข้าใจพวกเราผิด ขณะนี้เราพร้อมยุติการชุมนุม แต่รัฐบาลต้องสั่งให้ทหารหยุดยิงและออกจากบริเวณแยกราชประสงค์ก่อน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการการเจรจา หาทาง ออกให้ประเทศ เราต้องการสันติ ถึงอย่างไรก็สู้ทหารไม่ได้ เพราะเรามีเพียงสองมือเปล่า ขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองส่งสัญญาณไปยังนายอภิสิทธิ์ให้หยุดสลายการชุมนุม ที่พูดไม่ได้กลัวตาย แต่ต้องการเก็บชีวิตไว้เพื่อต่อสู้ในภายภาคหน้า

-ร.พ.ตำรวจเตรียมแพทย์พร้อม

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมความพร้อม เฝ้าอยู่ทุกประตูเข้าออก โดยประตูด้านหน้าปิดล็อกพร้อมใช้ลวดหนามวางกั้น ส่วนประตูหลังที่ติดร.พ.ตำรวจ มีการนำรถควบคุมผู้ต้องหามาจอดขวางไว้ ขณะที่ประตู 1 สตช. ซึ่งเคยเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าออกเพื่อทำข่าวการชุมนุม ได้ปิดล็อกห้ามเข้า-ออกตั้งแต่เวลา 06.30 น. ทั้งนี้ โรงพยาบาลตำรวจ ได้เตรียมพื้นที่ฉุกเฉินและเตียงรับผู้ป่วย แต่เปิดประตูให้เฉพาะผู้บาดเจ็บเข้าได้เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลา 06.00 น. ซึ่งโทรทัศน์แต่ ละช่องรายงานข่าวการเคลื่อนกำลังของเจ้าหน้าที่ทหาร ศอฉ. ได้นำเทปการแถลงข่าวของวันที่ 18 พ.ค. มาเปิดเป็นเวลา 30 นาที ทำให้การรายงานข่าวของแต่ละสถานีต้องชะงักไป

เวลา 07.15 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษาสบ 10 ได้เดินทางมาตรวจพื้นที่ภายในสตช. จากนั้นให้สัมภาษณ์ ว่า ทหารประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลพื้นที่ภายในสตช. เท่านั้น แต่เตรียมแพทย์และพยาบาลคอยดูแลหากเกิดเหตุร้ายแรงไว้แล้ว หากเกิดเหตุรุนแรงจะเปิดประตูสตช.ให้กลุ่มผู้ชุม นุมเข้ามาหลบหรือไม่นั้น คงต้องดูตามความเหมาะสม

-"ณัฐวุฒิ"ให้ผู้ชุมนุมตั้งสติมั่น

เมื่อเวลา 07.00 น. ที่เวทีราชประสงค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากแกนนํานปช.ได้รับรายงานว่ากำลังทหารเริ่มเคลื่อนเข้ามาประชิดหน้าด่านนปช.บริเวณสี่แยกศาลาแดง และแยกอื่นๆ รอบราชประสงค์ พร้อมปิดเส้นทางเข้าออกทุกทางได้สำเร็จ แกนนำนปช.ทั้งหมดเริ่มอยู่ในสภาพที่เคร่งเครียดอย่างมาก โดยตรวจเช็กข่าวจากหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ พร้อมประชุมหารือกันอยู่หลังเวทีตลอดเวลาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

จากนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช.ได้ขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมประกาศให้ผู้ชุมนุมทราบถึงสถานการณ์ที่มีการรุกประชิดของทหารทุกด้าน โดยปลุกเร้าผู้ชุมนุมให้มีกำลังใจ พร้อมให้มีสติในการตั้งรับสถานการณ์ หลังประกาศ เสร็จผู้ชุมนุมได้ส่งเสียงโห่ร้อง จากนั้นวงดนตรีเดอะ เรด ของ นปช.ได้บรรเลงเพลงจังหวะเร้าใจ ให้ผู้ชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงซึ่งเหลือที่หน้าเวทีไม่กี่ร้อยคน ขยับแข้งขาเต้นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนบนท้องฟ้าเหนือแยกราชประสงค์นั้น เฮลิคอปเตอร์ทหารแบบแบล็กฮอว์ก 2 ลำ คอยบินวนเวียนสังเกตการณ์เหนือยอดตึก การ์ดนปช.จึงปล่อยโคมลอย และยิงพลุตะไลขึ้นสกัดกั้น ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า หลังถูกตัดเส้นทางเข้าออก ส่งผลให้เสบียงอาหารไม่สามารถผ่านเข้ามายังที่ชุมนุมได้ ดังนั้นฝ่ายเสบียงนปช.จึงต้องงัดเสบียงสำรองมากินกัน ส่วนใหญ่เป็นบะหมี่สำเร็จรูปกับกาแฟ ทำให้อาหารเช้าของแกนนำเหลือเพียงแค่บะหมี่สำเร็จรูปเท่านั้น

-ปะทะศาลาแดง-เริ่มเจ็บตาย

จากนั้น เวลาประมาณ 09.00 น. การ์ดนปช.เริ่มทยอยนำร่างผู้บาดเจ็บ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการ์ดที่ถูกยิงมาจากด่านศาลา แดง และด่านสารสิน ทยอยส่งเข้ารับการรักษาที่ร.พ.ตำรวจเป็นระยะๆ ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพถูกยิง ที่หัวและหน้าอก เบื้องต้นราว 6 ราย เสียชีวิต 1 ราย และเริ่มมีรถพยาบาลนปช.ลำเลียงผู้บาดเจ็บเข้ามาเพิ่มเป็นระยะๆ ส่วนเวทีปราศรัย นั้น แกนนำนปช.เริ่มสลับกันขึ้นกล่าวโจมตีทหาร และให้กำลังใจผู้ชุมนุม โดยมีพระภิกษุจำนวนหนึ่งเข้ามาอยู่ให้กำลังใจหลังเวที ขณะเดียวกันเริ่มมีหน่วยแทรกซึมของทหาร เข้ามาตัดสายลำโพง ตามพื้นที่ต่างๆ ของการชุมนุม เพื่อไม่ให้เสียงจากเวทีกลางสื่อสารไปถึง การ์ดนปช.ต้องระดมกำลังตามล่าตัวกันจ้าละหวั่น

ต่อมา นายณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งการว่าห้ามไม่ให้การ์ดออกไปนอกแนวบังเกอร์ ในส่วนของด่านหน้าที่แตกนั้น ให้มวลชนถอยร่นเข้ามา อย่างไรก็ตาม มาตรการรับมือขณะนี้ไม่มี นปช.และยังคงประสานกับทีมของส.ว.ที่เข้ามาประสานงานเรื่องเจรจาอยู่

-ถูกทหารยิงกราดถอยทัพกลับ

เวลา 10.00 น. รถพยาบาลและรถลำเลียงของนปช. ยังคงลำเลียงขนย้ายผู้บาดเจ็บจากการปะทะที่บริเวณด่านสารสินเข้ามายังโรงพยาบาลตำรวจอย่างต่อเนื่อง รวมผู้บาดเจ็บเบื้องต้นราว 10 ราย ส่วนใหญ่ถูกกระสุนปืนอาการสาหัส นอก จากนี้ ภายในโรงพยาบาลตำรวจ สื่อมวลชนไทยส่วนใหญ่ ต่างเข้าไปรวมตัวกันอยู่เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ระหว่างการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนั้น ทางผู้บริหารโรงพยาบาลตำรวจ สั่งการให้ขนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากรทั้งหมดจากอาคารเฉลิมพระเกียรติมาไว้ที่ตึกอำนวยการ เพื่อให้ห่างจากบริเวณพื้นที่ชุมนุม พร้อมสั่งปิดประตูทางเข้าออกโรงพยาบาลทุกด้าน ขณะเดียวกันเหล่าการ์ดนปช.เริ่มระดมยางรถยนต์รอบพื้นที่ ขนขึ้นรถกระบะออกไปเสริมเป็นบังเกอร์ที่แยกสารสิน ซึ่งผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นการ์ดนปช.จำนวนหนึ่งพกอาวุธปืนยาวอย่างน้อย 2 กระบอก และปืนสั้นขึ้นจักร ยานยนต์ไปเสริมกำลังบริเวณดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ การ์ดนปช.ยังสั่งการให้ช่างภาพนปช.บันทึกภาพที่ตู้คอนเทนเนอร์และตามเต็นท์ต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเกรงว่าหลังถูกยึดพื้นที่แล้ว จะโดนทหารนำอาวุธสงครามมาซุกภายหลัง

จากนั้น เวลา 11.00 น. ที่เวทีปราศรัยราชประสงค์ การ์ดและมวลชนจำนวนมากเริ่มแตกทัพมาจากด่านสารสินเข้า มาที่แยกราชประสงค์จำนวนมากในสภาพตื่นตระหนก ซึ่งระหว่างแกนนำนปช.ที่ยังเหลืออยู่กำลังประชุมกันอย่างเคร่งเครียด จู่ๆ ได้มีมวลชนจำนวนหนึ่งชี้ขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส อ้างว่าเห็นกำลังทหารกำลังเคลื่อนพลเข้ามา ส่งผลให้เกิดความแตกตื่นบริเวณด้านหลังเวที นักข่าวหลบกันอลหม่าน การ์ดนปช.ปรี่เข้าคุ้มกันแกนนำแล้วหิ้วตัวออกมาจากเต็นท์ทันที

-สั่งอพยพเด็ก-ผู้หญิงไปวัดปทุม

ขณะที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด นายณัฐวุฒิขึ้นไปบนเวทีแล้วจับไมค์เพื่อประกาศท่าทีต่อผู้ชุมนุม แต่มวลชนด้านหน้าเวทีได้โห่ร้องไล่ให้หลบลงจากเวที เพื่อให้พ้นวิถีกระสุน ทางการ์ดนปช.จึงจับนายณัฐวุฒิมานั่งหลบอยู่หลังกลองชุดใต้ทางรถไฟฟ้า แล้วนำกำลังการ์ดราว 10 คน มาล้อมกรอบไว้ เพื่อแถลงข่าวบนเวทีปราศรัย ส่วนบนรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้นปรากฏว่าจากการตรวจสอบภายหลังพบว่าบุคคลที่ขึ้นไปอยู่นั้น ความจริงเป็นเจ้าหน้าที่การ์ดนปช.

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ทหารกำลังปิดล้อมเข้ามา ในขณะที่เรายังยืนยันหลักการสันติและพร้อมเดินหน้าเข้าสู่การเจรจา แม้รัฐบาลกระหยิ่มที่ยังสังหารคนมือเปล่าได้ แต่เรายังจะปักหลักสู้ ใครที่เอาลูกหลานมาให้นำไปไว้ในที่ปลอดภัยที่วัดปทุมวนาราม ใครที่ประสงค์จะปักหลักสู้ต่อไปขอให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ เราเดินทางมาถึงจุดท้ายแล้วที่จะพิสูจน์หัวใจนักสู้ของชาวไพร่ ประเทศไทยได้บันทึกหัวใจยิ่งใหญ่ของคนเสื้อแดงแล้ว ทั้งนี้แกนนำจะไม่เอาผู้หญิงและเด็กเป็นโล่กำบังอย่าง เด็ดขาด แกนนำยังพร้อมเดินหน้าขั้นตอนนับหนึ่งให้สัมฤทธิผล ถ้าทหารประสงค์จะฆ่าแกนนำเราพร้อมเผชิญชะตากรรมอยู่ที่นี่

-แกนนำบางคนเริ่มออกนอกพื้นที่

เวลา 12.10 น. นายณัฐวุฒิ ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อขับร้องเพลงให้สถานการณ์ผ่านคลายความตึงเครียด โดยนั่งร้องเพลงท่ามกลางการล้อมกรอบของการ์ดนับ 10 คน ส่งผลให้มวลชนที่เหลืออยู่ราวพันกว่าคน ถึงกับร้องไห้ออกมา นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวพบว่า ที่หลังเวทีปราศรัย มีแกนนำนปช.หลายคนหายหน้าไป ระหว่างการถูกปิดล้อมในช่วงวิกฤตสุดขีด ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายพายัพ ปั้นเกตุ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ น.พ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ โดยก่อนหน้านี้ที่หายหน้าไปมีนายวีระ มุสิกพงศ์ นายอดิศร เพียงเกษ นายวิสา คัญทัพ นางไพจิตร อักษรณรงค์ ส่วนที่ยังเหลือปักหลักอยู่กับมวล ชนคือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายขวัญชัย สาระคำ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายอารี ไกรนรา นายยศวริศ ชูกล่อม เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่นำเสื้อเกราะกันกระสุนมาสวม

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในช่วงสถานการณ์คับขัน ผู้ชุมนุมบางคนเตรียมกระดาษ พร้อมน้ำมันมาราดที่หน้าประตูทางเข้าออกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเสริมลวดหนาม และนำรถบรรทุก 6 ล้อ เพื่อเป็นแนวป้องกัน

ส่วนที่วัดปทุมวนารามในช่วงเช้านั้น ผู้ชุมนุม ที่อยู่ในเขตอภัยทานบางส่วนสวดมนต์อยู่ในโบสถ์ โดยมีผู้ชุมนุมทยอยเดินเข้ามาสมทบในวัดเรื่อยๆ

-แกนนำยุติชุมนุม-มอบตัว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมความพร้อมภายหลังแกนนำทั้ง 7 คน ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา สบ.10 ในเวลา 13.00 น. ซึ่งการมอบตัวครั้งนี้ แกนนำจะเดินผ่านเข้าบริเวณประตู 1 ด้านหน้าของสตช. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวเป็น 2 แนว เพื่อรักษาความปลอดภัย

เวลา 13.20 น. ที่บริเวณเวทีแยกราชประสงค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำนปช. ซึ่งประกอบด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายนิสิต สินธุไพร นายอารี ไกรนรา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก พร้อมทั้งการ์ด นปช.ประมาณ 10 คน ได้ขึ้นบนเวที เพื่อประกาศยุติการชุมนุม ท่าม กลางเสียงโห่ร้องของผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง

-จตุพรร่ำไห้-ทำเพื่อชีวิตม็อบ

จากนั้น นายจตุพร กล่าวกับผู้ชุมนุมเป็น คนแรกด้วยเสียงสั่นเครือ และร้องไห้ออกมาว่า อยากบอกว่าเรื่องชีวิตมันเล็กน้อยมาก เพราะคนที่เสียชีวิตไม่ได้เป็นพวกตน แต่เป็นประชาชน มันเจ็บปวด เพราะพวกตนรอดชีวิต ซึ่งรู้ว่าหากทหารขยับมาถึงเวที พี่น้องก็พร้อมพลีชีพ ไม่รู้อีกกี่ร้อยกี่พันชีวิต ฉะนั้นจึงอยากกล่าวถึงความรู้สึก วันนี้พวกตนไม่ได้ยอมจำนน แต่ไม่ต้อง การให้เสียชีวิตกันอีกแล้ว ตนรู้และเข้าใจว่าพี่น้องขมขื่นและเจ็บปวด ไม่น้อยกว่าพวกตน ดังนั้น พวกตนและเพื่อนจะเดินทางไปที่สตช. เพื่อหยุดความตายของพี่น้องเรา แต่การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด เพราะที่ดินแดง ศาลาแดง ยังตายกันอยู่ และอีกหลายที่ยังมีคนตายอยู่ เรามาช่วยกันหยุดความตายดีกว่า

นายจตุพร กล่าวว่า พวกตนไม่เคยทรยศกัน แต่เรารักษาชีวิตพี่น้องเรา กว่าจะมาถึงเวทีตนไม่รู้ว่าอีกกี่สิบชีวิต หรืออาจเป็นร้อยชีวิต ซึ่งการ ต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด แต่วันนี้ขอหยุดความตาย และได้โปรดอย่าต่อว่าพวกตนเลย รู้ว่าเจ็บปวด ขม ขื่น เราเหนื่อยกันมาหลายเดือนและไม่ต้องการให้เกิดสภาพแบบนี้ แต่เขามีเป้าหมายกับพวกตนแต่ขอให้สบายใจว่าเราไม่เปลี่ยนความคิด แต่ เราทนไม่ได้จริงๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายจตุพร กล่าวจบผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ถึงกับร่ำไห้ ปล่อยโฮออกมา ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนตะโกน กรีดร้องออกมาว่าไม่ฟัง ไม่เอา ไม่ไป ไม่ยอม พร้อมทั้งโห่ร้องอย่างกึกก้อง

-"ณัฐวุฒิ"ย้ำรอเวลาเพื่อสู้ใหม่

จากนั้นนายณัฐวุฒิ กล่าวเป็นคนที่สองว่า เป็นอีกครั้งที่เราตัดสินใจด้วยความยากลำบาก พวกตนทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้ประเทศนี้เป็น ของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เมื่อการต่อสู้ของประชาชนเกิดความสูญเสีย บาดเจ็บล้มตายมาก และไม่มีทีท่าว่าความตายนี้จะยุติลงไป อยากบอกว่าแม้เราตัดสินใจแน่วแน่ว่าสู้คราวนี้ ตายเป็นตาย แต่เราต้องตัดสินใจให้ร่วมกันว่า เราอย่า ตายให้กับปรากฏการณ์นี้อีกเลย เราหยุดการบาดเจ็บล้มตายแล้วรอวันเวลามาสู้ใหม่ ถ้าความเป็นแกนนำของพวกตนยังพอมีเหลืออยู่บนเวทีนี้บ้าง ขอประกาศว่า เราขอยุติเวทีการชุมนุมแต่เพียงเท่านี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอย้ำว่าการต่อสู้ยังไม่ยุติ ต้องเดินหน้าตามกระบวนการประชาธิปไตยต่อไป ทราบว่าท่านรับไม่ได้และไม่อยากฟังคำนี้ แต่พวกตนได้หารือวิเคราะห์สถานการณ์โดยรอบคอบแล้ว เรามิอาจยืนต้านทานความอำมหิตนี้ได้อีก ขอชี้แจงว่าแม้การนำท่านมาต่อสู้วันนี้จะยังไม่ถึงฝั่ง ที่พวกเราคาดหวังเอาไว้ แต่พวกเราพยายามถึงที่สุดแล้ว เราจึงขึ้นเวทีเพื่อร้องขอว่าพวกตนจะเอาอิสรภาพของตัวเองแลกกับความปลอดภัยของพี่น้อง ตลอด 3-4 ปีที่ต่อสู้ร่วมกันมา ขอฟังตนอีกสักครั้ง เรายุติเวทีวันนี้เพื่อเดินหน้าในกระบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิป ไตยต่อไปได้ ขอชี้แจงว่าจะใช้คำว่า "ขอร้อง" จะใช้คำว่าให้ได้รับฟังพวกตนอีกสักครั้ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การที่พวกตนมาประ กาศครั้งนี้เพื่อให้ยุติเพียงเท่านี้ก่อน ขอให้เชื่อตนและขอให้ทยอยกันเดินทางออกจากบริเวณชุมนุมไปทางฝั่งสนามศุภชลาศัย การ์ดของเราและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเรา จะดูแลอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องเดินทางกลับด้วยความสงบ สะดวก และปลอดภัย ขอให้เดินทางกลับ เพราะเราเสี่ยงแล้ว

-เดินเข้าไปในตร.-6 แกนมอบตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าว ได้มีเสียงปืนยิงขึ้นมาเป็นระยะ ทำให้การ์ดนปช. และแกนนำที่อยู่บนเวทีตื่นตกใจและพยา ยามกันตัวเพื่อให้นายณัฐวุฒิ พูดให้จบ ขณะเดียวกันการ์ดนปช.พยายามใช้สายตามองไปยังบริเวณโดยรอบพื้นที่ และมีแกนนำบางคนที่อยู่บนเวทีได้มองขึ้นไปตามอาคารสูงโดยรอบ เพื่อป้องกันการซุ่มยิงจากกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เมื่อนายณัฐวุฒิพูดต่อท่ามกลางเสียงกรีดและโห่ร้องของประชาชนที่อยู่ด้านล่างว่า "ไม่ฟัง ไม่เอา" ได้มีเสียงปืนดังขึ้นมาอีก พร้อมเสียงประทัด ทำให้นายณัฐวุฒิและแกนนำ รวมทั้งการ์ดที่อยู่บนเวทีต้องหลบกัน รวมทั้งผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างหนีเพื่อหลบหาที่กำบังในความปลอดภัย

ต่อมาเวลา 13.50 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แกนนำนปช. ประกอบด้วย นายขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งมีผู้หญิง 2 คนอุ้มตัวเข้าไป ตามด้วยนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายนิสิต สินธุไพร นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก เดินทางเข้ามามอบตัวท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีสื่อมวลชนรอทำข่าวอย่างเนืองแน่น รวมทั้งผู้ชุมนุมที่พยายามจะเดินตามเข้ามาด้วย โดยแกนนำทั้งหมดได้ทยอยกันเดินเข้ามาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 1 และก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนจะถูกนำตัวเข้าไปชั้น 2 โดยมีพล.ต.อ.อดุลย์ พาตัวเข้าไป ส่วนด้านหน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 7 กองร้อย ตรึงกำลังอยู่ภายใน ส่วนด้านนอกสตช. มีเสียงพลุ เสียงประทัดดังอย่างต่อเนื่อง

-คุมตัวได้แค่ 5-จตุพรมีเอกสิทธิ์

กระทั่งเวลา 14.45 น. พล.ต.อ.อดุลย์ ได้ควบ คุมตัวแกนนำทั้ง 6 คน ประกอบด้วยนายจตุพร นายนิสิต นายยศวริศ นายวิภูแถลง นายขวัญชัย นายณัฐวุฒิ มาแถลงข่าว หลังจากดำเนินการตามขั้นตอนตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีพล.ต.ท. ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ส. พล.ต.ต.วรินทร์ บุณยเกียรติ รองผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ ได้เป็นเจ้าพนักงานตำรวจรับมอบตัวผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังมีพล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. และพล.ต.ต.วิชัย รัตนยศ ผบก.กองคดี รวมทั้วส.ส.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวด้วย

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ทั้ง 5 คนเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมายจับในข้อหาฐานความผิด เป็นผู้ต้องสงสัยตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 11/1 ส่วนนายจตุพร ไม่สามารถควบคุมตัวได้ เนื่องจากเป็นส.ส.มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการทำหนังสือไปยังนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เมื่อไม่สามารถควบคุมตัวได้ จึงต้องปล่อย ตัวนายจตุพร ส่วนทั้ง 5 คนจะดำเนินการตามขั้นตอนของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

-นำตัวขึ้นรถตู้ไปควบคุมทันที

จากนั้น ได้เปิดให้ผู้สื่อข่าวสอบถามแกนนำกรณีหลังจากมอบตัวแล้ว แต่มวลชนบางส่วนประกาศเป็นอิสระ ก่อเหตุวุ่นวายอีก โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ก่อนจะมอบตัว ตนได้ประสานกับแกนนำที่ไม่ได้ถูกหมายจับให้ดำเนินการ โดย เฉพาะการนำมวลชนไปส่งยังสถานที่ปลอดภัย แต่ไม่สามารถติดต่อแกนนำได้ว่าดำเนินการถึงไหนอย่างไร แต่ตนได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว เชื่อว่ามวลชนคงเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น ตำรวจนครบาลและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องนำตัวผู้ต้องสงสัยตามหมายจับทั้ง 5 คนออกไปทางหลังตึกกองบัญชา การสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนำตัวขึ้นรถตู้ 2 คัน นายจตุพร นายยศวริศ นายขวัญชัย ขึ้นรถตู้เลขทะเบียน ฮง 7791 ส่วนนายนิสิต นายวิภูแถลง และนายณัฐวุฒิ ขึ้นรถตู้ ฮง 6933 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราชนั่งประกบ ทั้งนี้ การเดินทางไปครั้งนี้ไม่เปิดเผยเส้นทางว่าเดินทางไปที่ใด โดยแกนนำทั้งหมดมีสีหน้าเรียบเฉย อย่างไรก็ตาม ช่วงที่แถลงข่าวหรือเดินออกจากห้องจะมีโทรศัพท์มือถือแกนนำตลอด นอกจากนี้ ยังมีประชาชนเข้าไปจับมือขอให้แกนนำสู้ๆ ด้วย


(1-2)สลาย - รถหุ้มเกราะทหารเข้าสลายม็อบแดงที่แยกศาลาแดง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ค. ขณะที่การ์ดนปช.2 ราย(รูปเล็กบน)ถูกยิงเข้าหัวดับกลางแยกสารสิน และนักข่าวอิตาลี(รูปล่าง)โดนยิงทะลุหน้าอกเสียชีวิตเช่นกัน



(3-4)มอบตัว - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.เข้ามอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่ขึ้นเวทีประกาศยุติการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่เวทีราชประสงค์ เพราะไม่อยากให้ผู้ชุมนุมสูญเสียชีวิตไปมากกว่านี้



(5)ระทึก - กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงยึดรถเมล์แล้วนำมาเผาวอดทั้งคันบริเวณแยกสารสิน ล่าสุดพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมแล้วกว่าสิบศพ บาดเจ็บอีกครึ่งร้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชุมนุมนปช. ตามข่าว



(6)ประกาศยุติ - นายจตุพร พรหมพันธุ์ กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 2 แกนนำนปช.ประกาศยุติการชุมนุมที่ราชประสงค์ เพราะไม่ต้องการให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก ก่อนเข้ามอบตัว



(7)ฮือเผา -รัฐบาลส่งรถหุ้มเกราะเข้าพังบังเกอร์ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่แยกศาลาแดง กทม. ในการสลายการชุมนุมเมื่อเช้าวันที่ 19 พ.ค. ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงตอบโต้บุกเผาศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร รวมทั้งในหลายจังหวัดภาคอีสานและเหนือ



-ทหารสั่งปิดสีลมทุกซอย

ส่วนสถานการณ์การปะทะนั้น เวลา 12.00 น. ที่สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต เจ้าหน้าที่ทหารได้รุกเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เข้าไปใกล้กับผู้ชุนุมเพียง 50 เมตร ส่งผลให้ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยวรีบออกจากพื้นที่ ทหารตรวจสอบการเข้าออกพื้นที่อย่างเข้มงวด สื่อมวลชนที่จะเข้าไป ทำข่าวได้ต้องมีบัตรต้นสังกัดและปลอกแขนสื่อ มวลชน ส่วนผู้ที่อาศัยในบริเวณนั้น จะต้องนำบัตรประชาชนที่แสดงว่า อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาแสดง จึงจะผ่านเข้าได้

ที่แยกสีลม ตัดถนนนราธิวาส-ราชนครินทร์ เจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธครบมือจำนวนมากปิดล้อมทางเข้าออกซอยย่านสีลมทุกซอย ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกผ่านเข้าออก อนุญาตเพียงรถพยาบาลและผู้สื่อข่าวผ่านเข้าออกได้ หลังเหตุปะทะที่แยกศาลาแดงช่วงเช้า พบประชาชน พนักงานบริษัท นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวต่างชาติ ทยอยเก็บข้าวของเคลื่อนย้ายออกจากสำนักงานและที่พัก เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอด ภัย เวลา 11.20 น. หลังเจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่ศาลาแดงได้ มีการส่งกำลังทหารและสุนัขทหารเข้าไปในพื้นที่ย่านสีลมเพิ่มเติม เพื่อนำไปค้นหาและตรวจสอบวัตถุระเบิดในพื้นที่

-พระราม 4 ตึงเครียด-รถติดซ้ำ

จากนั้นเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารประ กาศผ่านเครื่องขยายเสียงห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยว ข้องผ่านเข้าออกบริเวณสีลม ยกเว้นเพียงประชาชนที่มีบ้านพักอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น หรือผู้ป่วยที่ต้องการเข้าไปพบแพทย์ แต่ต้องแสดงบัตรประชาชนและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สถานการณ์ที่พระราม 4 ตึงเครียดขึ้นตามลำดับ มีเสียงปืน ประทัดดังต่อเนื่อง หลังทหารขอคืนพื้นที่ กลุ่มเสื้อแดงได้เผารถโฆษณาของบริษัทฮัลโหลบางกอก ซึ่งจอดอยู่บริเวณใต้ทางด่วนใกล้กับถ.พระราม 4 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีควันพวยพุ่งเต็มพื้นที่ โดยชาวบ้านที่อาศัย อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้นำถังดับเพลิงกว่า 20 ลูก มาตั้งเตรียมไว้ เพื่อป้องกันเพลิงลุกลามเข้ามาในบริเวณบ้านพักอาศัยในบริเวณดังกล่าว

ที่คลองเตยมีเวทีปราศรัยย่อยของเสื้อแดง กลุ่มผู้ชุมนุม 500 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงแรม ผู้ชุมนุมนำเต็นท์มาตั้งปิดทางแยกทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ บริเวณ สะพานข้ามแยกมีประชาชนจอดรถดูเหตุการณ์ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก

-เผาแบงก์กสิกรหน้าบ่อนไก่

เวลา 10.00 น. ที่สนามมวยลุมพินี บริเวณบ่อนไก่ เกิดเพลิงไหม้ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารทีเอ็มบี เพลิงลุกไหม้รุนแรงขณะรถดับเพลิงไม่สามารถเข้ามาดับได้ ขณะเดียวกัน กลุ่มเสื้อแดงบริเวณใกล้กับแยกบ่อนไก่นำยางรถยนต์มาเผาเพิ่มเติม ทำให้มีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาปกคลุมพื้นที่จำนวนมาก ส่วนบริเวณใต้ทางด่วนพระราม 4 ทางกลุ่มนปช.นำยางรถยนต์มาวางเพิ่มเติมเพื่อสร้างเป็นแนวป้องกัน ด้านหน้าจะมีกลุ่มชุดดำติดอาวุธเดินเลียบใต้อาคารปากซอยงามดูพลี ต่อมาที่หน้าซอยศูนย์เยาวราชบ่อนไก่และซอยงามดูพลี มีการปะทะรุนแรง ผู้ชุมนุมเผายางรถยนต์จนไฟลามไปติดสายไฟและหม้อ แปลงเกิดระเบิด 1 ครั้ง พร้อมมีเพลิงลุกไหม้ไปยังปั๊มน้ำมันในบริเวณข้างเคียง แต่เพลิงได้สงบลงแล้ว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวและช่างภาพ พยายามเข้าไปในพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์บริเวณย่านบ่อนไก่ ได้มีชายชุดดำกลุ่มหนึ่งเข้ามาขัดขวางและไม่อนุญาต ให้ผู้สื่อข่าวและช่างภาพเข้าไปในพื้นที่ โดยอ้างว่า หากผู้สื่อข่าวเข้าไปในพื้นที่อาจไม่ได้รับความ ปลอดภัยทำให้ผู้สื่อข่าวต้องล่าถอยและมาปักหลักบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินคลองเตย แต่ทางกลุ่มชายชุดดำก็ส่งคนมาสังเกตการณ์เป็นระยะๆ

-ชายชุดดำโผล่เทน้ำมันเผา

ชาวบ้านในบริเวณบ่อนไก่แจ้งว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งชุดดำ 5 คน ถือแกลลอนน้ำมัน และใช้ผ้าชุบน้ำมันวิ่งเทตามจุดต่างๆ หน้าอาคารพาณิชย์บนถ.พระราม 4 สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเพราะเกรงจะเกิดเพลิงลุกไหม้ ขณะเดียวกันชายชุดดำบุกทุบประตูกระจกของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีคลองเตย ก่อนจะถือแกลลอนน้ำมันลงไปราดในสถานี และกันไม่ให้ผู้สื่อข่าว ช่างภาพเข้าไปสังเกตการณ์ ต่อมามีตำรวจ 45 นาย มาดูแลความปลอดภัย แต่เนื่อง จากผู้ชุมนุมหวาดระแวงจึงขอให้ตำรวจถอนกำลังออกไป เพราะไม่อยากกระทบกระทั่งต่อกัน

เวลา 10.00 น. เกิดเพลิงลุกไหม้อาคารพาณิชย์ ริมถ.พระราม 4 บริเวณปากซอยงามดู พลี และลุกลามไปไหม้ธนาคารกสิกรไทย จำกัด ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายหมดทั้งอาคาร ต่อมา ทหารเข้าช่วยเหลือชาวบ้านในซอยงามดูพลี และพนักงานบริษัทให้ออกจากพื้นที่ พร้อมกับเข้าไปดับไฟที่ไหม้ยางรถยนต์บริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าจะลุกลามไปติดปั๊มน้ำมันปตท. บริเวณใกล้เคียง

บรรยากาศบริเวณ ถ.ราชปรารภ ตั้งแต่เวลา 01.00 น. เป็นต้นมา เป็นไปด้วยความเงียบสงัด ไม่มีผู้คนเดินไปมาบนท้องถนน ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในที่พักอาศัยและดับไฟฟ้าภายในบ้านพัก เนื่องจากกลัวว่าไม่ปลอดภัย มีเพียงไฟฟ้าจาก ป้ายโฆษณาบางส่วน ส่วนผู้ชุมนุมบางส่วนนอน หลับพักผ่อนหลังจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีการ เฝ้าระวังและจัดเวรยามเพื่อป้องกันไม่ให้ทหารเคลื่อนกำลังประชิดเข้ามา มีการจุดพลุขับไล่เฮลิคอปเตอร์ที่มาบินวนอยู่ในพื้นที่เป็นระยะๆ

-วางถังแก๊สขวางถนนเพชรบุรี

ส่วนกำลังทหารก็เข้ารักษาการณ์ประจำจุดเฝ้าระวังทั้งแนวระนาบและอาคารสูง มีทหารส่วนหนึ่งติดสติ๊กเกอร์สะท้อนแสง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการดูแลความปลอดภัยของกำลังทหาร จากแยกราชปรารภมุ่งหน้าไปทางศาลาแดงยังคงตึงเครียด มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ

เวลา 09.30 น. การ์ดนปช.ที่มาดูแลอยู่บริเวณดังกล่าวใช้ปืนยิงขู่พนักงานเซเว่นอีเลฟเว่น 2 คน ที่เข้าไปในร้

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...