ช่างภาพชาวสหรัฐบันทึกเรื่องราวชีวิตจริงของ "โสเภณี"



 

ช่างภาพชาวสหรัฐบันทึกเรื่องราวชีวิตจริงของ "โสเภณี"

 

 

 

 

 

 

รัฐ เนวาดายังมี แวสโช เคาน์ตี้ (Washoe County) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองรีโน่ (Reno) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางแถบตอนบนของรัฐเนวาดา กำลังจะมีประชากรเกินจำนวน 4 แสนคน และในอนาคตก็จะปิดช่อง (ทาง) สำหรับการเปิดซ่องไปเลย 

 

 

 

 

นี่เป็นเรื่องทางกฎหมาย แต่ความเป็นจริงแล้วการออกใบอนุญาตในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป เมืองเจริญขึ้น ไม่จำเป็นต้องใช้ซ่องหรือเซ็กส์เป็นจุดขายอีกต่อไป
เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี.2004 บางเค้าน์ตี้ ได้แก่ แวสโช เคาน์ตี้,คลาร์ค เคาน์ตี้ ,ดักแกลส เคาน์ตี้ (Douglas County) และ ลินคอล์น เคาน์ตี้ (Lincoln County) ได้ออกฎหมายภายในเค้าน์ตี้ ไม่อนุญาตให้มีซ่อง จึงคงเหลือ 11 เค้าน์ตี้ แต่ก็ประกอบไปด้วยหลากหลายเงื่อนไข และข้อจำกัดตามลักษณะพื้นที่นั้นๆ ของแต่ละเคาน์ตี้
ส่วนใบอนุญาตเป็น “คุณโส” หรือโสเภณีจะให้กับหญิงที่อายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี เว้นแต่ สตอเรย์ เคาน์ตี้ (Storey County) และ ลีออน เคาน์ตี้ (Lyon County) ที่ให้ใบอนุญาตกับหญิงอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
กฎหมายของรัฐเนวาดายังบังคับให้ โสเภณีที่ลงทะเบียน และกำลังทำงานในซ่อง ต้องไปตรวจโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์ทุกสัปดาห์ และต้องไปตรวจเลือดเพื่อเช็คเชื้อเอดส์ (HIV) ประจำทุกเดือน
ขณะเดียวกันเจ้าของซ่องต้องรับผิดชอบหากลูกค้าเกิดติดเอดส์ขึ้นมา ภายหลังนำโสเภณีคนที่ลูกค้ามีเพศสัมพันธ์ด้วยไปตรวจแล้วเจอเชื้อเอดส์ ขณะที่ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการจากซ่องก็จะถูกบังคับให้“ใส่ปลอก”แม้แต่การสำเร็จความใคร่ผ่านปาก (Oral Sex)
และแน่นอน ก็คือการมีเพศสัมพันธ์โดยตรง-ต้องใช้มันทุกครั้งไป
ซ่องที่เมืองปาห์รัมพ์ที่เป็นที่นิยมของลูกค้าจากลาสเวกัส ได้แก่ เชอรี่ แรนช์ (Sheri’s Ranch ) และ ชิกเค่น แรนช์ (Chicken Ranch) โดยเชอรี่แรนช์ เป็นซ่องใหญ่สุด และโสเภณีค่าตัวสูงที่สุด ส่วนจะชาร์จค่าตัวจำนวนเท่าไร ขึ้นอยู่กับการตกลงหรือดีลระหว่างลูกค้า และผู้ใช้บริการที่จะต้องคุยกันเอาเอง
ในฐานะคนเดินทางผ่าน เมื่อผมและเพื่อนแวะสอบถามรายละเอียดที่เชอรี่และชิกเค่น แรนช์ ในวันหนึ่ง “มาม่าซัง” ของทั้งสองที่บอกเหมือนกันว่า ไม่สามารถบอกค่าตัวผู้หญิงได้ แต่เราดูแล้วราคาไม่น่าจะถูก อย่างน้อยเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ ควรมีเงินอยู่ในกระเป๋า 1,000 เหรียญเป็นอย่างต่ำ
“ดีล” ในเรื่องค่าตัวผู้หญิงที่ว่า ลูกค้าจะต้องไปเจรจาตกลงกับคุณเธอกันเอาเองแบบสองต่อสอง โดยไม่มีบุคคลคนที่สามร่วมด้วย หลังจากที่ตกลงราคากันได้แล้ว ต้องบอกเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของซ่อง นับเป็นการทำความตกลง ตามเมนูรายการของแต่ละซ่อง เหมือนกับการสั่งอาหารในร้านอาหาร หากว่าลูกค้าจะเพิ่มไข่ดาว ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม
การขายเซ็กซ์ ของซ่องที่ปารัมพ์ก็เช่นเดียวกัน “คุณโส” เธอย่อมพยายามที่จะขาย “ส่วนเพิ่มไข่ดาว” ให้ได้ เพื่อรีดเงินนักเที่ยวให้ได้มากที่สุด
“ส่วนเพิ่มไข่ดาว” มีอะไรบ้างนั้น นอกเหนือจากการอาบ อบ นวดแล้ว หากให้อธิบายย่อมไม่ง่ายนัก เป็นรูปแบบอันหลากหลายของการแสวงหาความสุขของนักเที่ยวชาย ก่อนจบลงแบบแฮปปี้ เอ็นดิ้ง (Happy Ending) นั่นเอง
ไม่ใช่คุณเธอจะยอมรับดีลด้วยกับลูกค้าชายทุกคน แต่พวกเธอจะพิจารณาบุคลิกลักษณะของลูกค้าร่วมด้วย, ไม่รับลูกค้าจนเปรอะ เช่น จะดูหน้าตา หรือร่างกาย ของลูกค้าว่าสะอาดพอหรือไม่ คุณเธอบางคนไม่ชอบคนสกปรก กักขฬะ หยาบคาย ก็ไม่ยอมดีลด้วยกับคนในลักษณะเช่นนี้ แม้ว่า พวกเขาจะมีเงินเต็มในกระเป๋าไปก็ตาม
เมื่อผมถามคุณเธอบางคนที่ทำงานที่ซ่องในเมืองนี้อย่างอยากรู้ เธอบอกว่า บางครั้งเธอจงใจกำหนดค่าตัวให้สูงมาก เพราะไม่ต้องการนอนกับแขกที่มีกลิ่นตัวแรงจัด แขกบางคนสกปรกมากๆ เธอจะดูผิวพรรณของแขกก่อนว่าสะอาด หรือเป็นโรคผิวหนังหรือเปล่า แขกที่ไม่พึงประสงค์ดังกล่าว มักจะได้ดีลชาร์จค่าบริการสูงกว่าราคาปกติมาก
เธอยังเล่าให้ฟังด้วยว่า การทำงานในบางครั้ง ขึ้นกับอารมณ์เหมือนกัน ไม่ได้เป็นไปด้วยอำนาจเงินอย่างเดียว แต่อย่างไรเสีย พวกเธอ บอกว่า แขกส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีปัญหา และเป็นนักเที่ยวจากต่างรัฐที่เดินทางต่อช่วงมาจากเมืองลาสเวกัสเสียเป็น ส่วนใหญ่
ในสถานะแห่งการเป็นคนไทย มีคำถามจากผู้มาเยือนเมืองลาสเวกัสทั้งไทยทั้งเทศว่า ซ่องที่ปาห์รัมพ์มีผู้หญิงไทยให้บริการหรือไม่
คำตอบออกมาว่า “มีมาแล้ว” ก่อนหน้านี้ จากถ้อยคำบอกเล่าของโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ที่ไปส่งแขก หรือลูกค้า ที่เชอรี่ แร้นช์
แต่เมื่อผมและเพื่อนเดินทางไปแวะสำรวจคราวหลัง เราไม่เจอผู้หญิงไทย เจ้าหน้าที่ซ่องซึ่งเป็นผู้หญิง บอกเราว่า คุณเธอที่ทำงานที่นั่น หมุนเวียนสับเปลี่ยนไม่ซ้ำกัน บ้างก็เดินทางไปทำงานรัฐอื่น หรือหยุดงานเป็นครั้งคราว ไม่แน่นอน
ทั้งนี้ การทำสัญญาทำงานของพวกเธอกับเจ้าของซ่อง เป็นไปในลักษณะ “สัญญาอิสระ” (Independent contractors) ไม่ผูกมัด ไม่มีประกันสุขภาพ หรือประโยชน์ใดๆจากซ่องหรือรัฐบาลท้องถิ่น พวกเธอจึงเปลี่ยนที่ทำงานกันค่อนข้างบ่อย ย้ายข้ามรัฐ ข้ามเมืองกันอยู่เนืองๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อกลับมาทำงานในซ่องที่ปาห์รัมพ์ใหม่ จะต้องทำตามกฎหมายว่าด้วยซ่องของเมืองนี้อย่างเคร่งครัด เช่น การตรวจโรค หรือตรวจสุขภาพใหม่ และอาจต้องลงทะเบียนใหม่ กรณีใบอนุญาตหมดอายุตามกฎหมายของเคาน์ตี้
เมื่อพูดถึงพนักงานประจำที่ทำงานแบบปกติในซ่อง อย่างเช่น พนักงานต้อนรับ และแคชเชียร์ เราไม่เห็นมีผู้ชายทำงานที่นั่นเลย ผมตั้งข้อสังเกตกับเพื่อนว่า คงมีผู้ชายทำงานเหมือนกัน อาจเป็นในร้านอาหารของซ่องที่อยู่ข้างใน (เพราะเราไม่ได้เข้าไปข้างใน)
อีกอย่างทางซ่องคงไม่ให้คนงานผู้ชายออกมาเพ่นพ่าน เกะกะลูกตาของบรรดาลูกค้าผู้ชายที่บางส่วนนั่งกันอยู่ในห้องล็อบบี้ บ้างนั่งดื่มที่บาร์ และบ้างนั่งที่โซฟารอมาม่าซังเรียก คุณเธอทั้งหมดมาดูตัว เพื่อให้ลูกค้าเลือกจนเป็นที่พอใจตามรสนิยมของลูกค้าแต่ละคนก่อนขึ้นห้องกับ เธอ
หรือบางทีลูกค้าบางคนอาจใช้บริการอื่นของซ่อง อย่างเช่น บริการนวด หรือบริการสปา

หลังออกมาจากซ่องทั้งสองแห่งนั้น ผมกับเพื่อนยังสงสัยกันว่า จะมีลูกค้าสักกี่คนกันเชียว ที่ไม่ลงท้ายด้วย “แฮปปี้เอ็นดิ้ง”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ซ้ำขออภัยค่ะ

 

 


4 ก.ค. 57 เวลา 19:24 9,885 2 230
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...