[Case study] เรื่องลิขสิทธิ์: คนไทยโดนเอาเปรียบอีกแล้ว

 

 

 

 

 


พี่ก้อย ศรันย่านำรูปเลย์ รสซอสพริกศรีราชา มาให้ดู

...ผมนึกถึงประเด็นซอสพริกศรีราชา "ของเคยไทย" (ที่เราเสียโอกาสไปแบบเดียวกับ "ข้าวหอมมะลิ" ที่ต่างชาติแย่งซีนพยายามไปขอรับความคุ้มครองสิทธิบัตร)

สิ่งที่น่าเสียดายคือการพัฒนาแบรนด์ หรือเครื่องหมายการค้าของสินค้าหลายตัวที่มีมานับหลายสิบปี เจ้าของสินค้ากลับมุ่งทำธุรกิจ โดยปล่อยปละละเลย การคุ้มครอง "แบรนด์" ของตนเอง

อาจจะเพราะความเป็นเถ้าแก่ยุคดั้งเดิม ที่ตามไม่ทันกฎหมายสมัยใหม่ก็ได้

ซอสพริกศรีราชา....ปัจจุบันเป็นสินค้าของบริษัทไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหารจำกัด และบ. ไทยเทพรส ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด 

ซึ่งมีการผลิตและส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศด้วยครับ
ซึ่งมีการทำตลาดมาหลายสิบปี

แต่ข้อจำกัดของกฎหมายหรือความละเลยก็ตามที

ตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าของไทยได้ระบุถึงลักษณะคำหรือข้อความที่ต้องห้าม ไม่ให้นำ "ชื่อทางภูมิศาสตร์" มาจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย โดยตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 5 (2535) ก็กำหนดในข้อ 5 ว่า

"5. ชื่อทางภูมิศาสตร์อื่นๆ เช่น ชื่อเมืองท่า จังหวัด "อำเภอ"...." จะนำมาใช้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่ได้....

ทำให้ซอสพริกศรีราชาที่ทำ แบรนดิ้งมานานนับหลายสิบปีเสียประโยชน์ไปครับ

หลักการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านะครับ...คือหลัก"first to file"
และยื่นที่ประเทศไหนก็คุ้าครองที่ประเทศนั้น

หลังจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในไทยไม่ได้ ผมคิดว่าเจ้าของผลิตภัณฑ์ก็ไม่ได้ใส่ใจติดตามต่อ...

ปรากฎว่า ได้มีชาวเวียดนามในประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อนาย David Tran ได้ทดลองทำสูตรซอสพริกเลียนแบบซอสพริกศรีราชาขึ้นมาบ้าง และลองไปทำการตรวจสอบ เครื่องหมายการค้าที่ US Trademark and Patent Office ก็พบว่า ยังไม่เคยมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "Sriracha" ที่สหรัฐอเมริกามาก่อน

จึงได้ลองยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "Sriracha" ในสินค้าประเภทซอสพริกครับ

ถาม: ไหนบอกว่าตามหลักสากล ชื่อทางภูมิศาสตร์นำมาจดเครื่องหมายการค้าไม่ได้ ทำไมคนเวียดนามคนนี้จดได้

ตอบ: การยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจะมีขั้นตอนตรวจสอบที่เรียกว่า การตรวจสอบ และการประกาศให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นคำคัดค้านครับ

คนที่ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจะอ้างว่า "Sriracha" เป็นคำประดิษฐ์ ไม่มีความหมาย

ทางนายทะเบียนที่รับจดเป็นฝรั่ง ก็คงไม่มีทางรู้ว่า Sriracha คือชื่อทางภูมิศาสตร์ เป็นชื่ออำเภอ (district) ,ในประเทศไทย

และเมื่อถึงขั้นตอนประกาศโฆษณา 180 วันให้ผู้มีส่วนได้เสีย มายื่นคำคัดค้าน

ทางบริษัทในไทยก็คงไม่รู้ว่า ที่อเมริกามีการจดเครื่องหมายการค้านี้แล้วจึงไม่ได้มีการคัดค้าน

ทำให้การจดเครื่องหมายการค้าสมบูรณ์ ทางชาวเวียดนามนาย David Tran ได้ "Sriracha" เป็นเครื่องหมายการค้าของตน และทำการผลิตซอสและเครื่องปรุงขายโดยสร้างโรงงานใหญ่โต

การส่งซอสพริกศรีราชาของไทยออกไปจำหน่าย ก็ทำให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ในส่วนหนึ่งคำ ทำให้เครื่องหมายมSriracha มีความเป็นเครื่องหมายการค้าที่คนรู้จักดี (Well Known Mark)

แต่ Well Known Mark จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายต่อเมื่อ เป็นเครื่องหมายการค้ามาแล้ว

ซึ่งบริษัท ไอคิวฯและไทยเทพรส ไม่เคยจดเครื่องหมายการค้านี้ (เพราะจดไม่ได้) จึงไม่ได้รับความคุ้มครองในระดับสากล

ตรงกันข้าม ทางโรงงาน Sriracha ในเวียดนามของนาย David Tran สามารถกีดกันตลาดการส่ง ซอสพริกศรีราชาของไทยไปขายในอเมริกา รึประเทศอื่นได้ด้วย

คนไทยเท่านั้นที่รู้ว่า ซอสพริกศรีราชาเป็นแบรนด์ไทยในขณะที่คนทั้งโลกจะจดจำว่าซอสพริกศรีราชาเป็นแบรนด์ของนาย David Tran ....และวันนึงแบรนด์ศรีราชาในไทยจะถูกจดจำในลักษณะของเลียนแบบ
(Immitation) 

เรียกได้ว่า บริษัทไทยเราทำตลาดให้เขาฟรีๆ และถ้าส่งไปขายที่อื่นๆในโลก (ที่ไม่ใช่ประเทศไทย) อาจโดน Sriracha ใน USA ฟ้องร้องเรื่องการละเมิด เครื่องหมายการค้า หรือละเมิดความเป็น Well Known Mark อีกด้วย

ปัจจุบัน Sriracha ใน USA ก็ได้ผลิตกลิ่นแต่งอาหาร เรียกว่ารส "ซอสพริกศรีราชา" และให้ license กับขนมมากมายทั้ง มันฝรั่ง หรือป๊อปคอร์น พวกขนมขบเคี้ยว snack ต่ๆ

นี่แหละครับ ไทยเรามีของดีมากมายนะ แต่ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจความรู้ด้านกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา 

เราจะโดนขโมยของดีไปใช้อย่างน่าเสียดาย

ปล. ในประเทศไทย มีผู้ใช้คำว่า "ศรีราชา" ทำแบรนด์ ซอสพริกอยู่สองเจ้าครับ

อันแรกคือ บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหารจำกัด ใช้คำว่า "ศรีราชา"

และ บริษัท ไทยเทพรสผลิตภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) ใช้คำว่า "ศรีราชาพาณิชย์" ...(ไทยเทพรสซื้อสูตรมาจาก บ.น้ำพริกศรีราชา จำกัด ในปี 2541) 

เห็นได้ว่ามีการใช้ คำว่าศรีราชา..ในผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงอาหารเพียบเลย...ผมยังสงสัยว่าเป็นไปได้ไหมว่า

"ศรีราชา"ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องปรุงรสอาหาร
ซึ่งทำให้อาจขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในประเภท "สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์" ได้

เช่นเดียวกับ กาแฟดอยช้าง ไข่เค็มไชยา...

Cr: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10152305636385148&set=a.10150476145440148.427473.571990147&type=1&theater

ที่มา: http://www.soccersuck.com/boards/topic/1017963
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...