เชื่อไหม เมืองไทยเคยมีนิคมอาบแดด

 

หนังสือตำราอาบแดด เป็นหนังสือเก่ามากๆ 

 

 อ่านไม่ผิดค่ะ นิคมอาบแดดจริงๆ ที่ที่คนเขาถอดเสื้อถอดผ้าอาบแดดเพื่อสุขภาพนั่นแหละ เมืองไทยยุคก่อนพ.ศ. 2475 เคยเปิ๊ดสะก๊าดกับเขาถึงกับมีนิคมดังกล่าว แถมมีสมาชิกตั้งสี่พันคนแน่ะ เรื่องนี้อ่านจาก "กิเลนประลองเชิง" ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เคยอ่านนานแล้ว ปะเหมาะเคราะห์ดีเอามาแจงให้ฟัง

 


    คุณกิเลนประลองเชิงท่านก็ออกตัวว่า เป็นการนำข้อมูลมาจากข้อเขียนของคุณโรม บุนนาค นักเขียนหนังสือแนวบันทึกประวัติศาสตร์ ที่เขียนเอาไว้ในหนังสือ ตำนานทุ่งกลางกรุง (สำนักพิมพ์สยามบันทึก) 

    โดยเจ้าของนิคมอาบแดด ไม่ใช่ฝรั่ง แต่เป็นคนไทย ชื่อ นายสลิล ฟูไทย ตอนแรกทำงานอยู่หนังสือพิมพ์สยามยามาโมโต้ ของคนญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ วันหนึ่งมีคนมาเยี่ยมชมโรงพิมพ์แล้วถูกชะตา ชวนไปเที่ยวรอบโลก นายสลิลก็ตกลงไปกะเขาด้วย และได้แวะที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งที่นั่นนายสลิลได้ทดลองเข้าไปเป็นสมาชิกนิคมอาบแดด

 

 

    การได้แก้ผ้าอาบแดดทำให้นายสลิลบอกว่า เป็นการผ่อนคลายความเครียดจากชีวิตประจำวัน ปลดปล่อยตัวเองจากความยุ่งเหยิงของสังคม อาบแดดได้พักใหญ่ โรคปวดหัวที่เคยเป็น วัณโรคกำลังเริ่มเป็น ก็หายไป เก็บเกี่ยวประสบการณ์รอบโลกสามปี นายสลิลกลับไทย ยื่นหนังสือถึงตำรวจ ขออนุญาตเปิดนิคมอาบแดด ตำรวจยุคนั้นใจใหญ่ อนุญาตให้ตั้งเพียงแต่มีเงื่อนไข ขอให้กั้นรั้วรอบขอบชิด ป้องกันไม่ให้ ประเจิดประเจ้อ

 

ภาพจากหนังสือเล่มเดียวกัน

 


    กิจกรรมนิคมอาบแดดบนพื้นที่สี่ไร่ ในเขตอำเภอบางกะปิ สมัยก่อนปี พ.ศ.2475 ถือว่าไกลปืนเที่ยง ไปได้ดีมาก หลังนายสลิลโฆษณาไปทั่วประเทศ ก็มีคนมาสมัครเป็นสมาชิกเกือบสี่พันคน ในจำนวนนี้ มี 68 คน ขออาบแดดอย่างเดียว นอกนั้นอาบแดดด้วย เข้าคอร์สฝึกกายบริหารด้วย สมาชิกต้องยอมรับกฎกติกา ห้ามยาเสพติดทุกชนิด รวมถึงบุหรี่เหล้า ไม่เว้นกระทั่งยานัตถุ์

 

ภาพของคุณสลิล ฟูไทย เจ้าพ่อนิคมอาบแดดแห่งสยามประเทศ

 

    เป็นสมาชิกอาบแดดแล้ว อย่าเผลอคิดว่าเข้าไปเพื่อแก้ผ้าหรือดูคนอื่นแก้ผ้า ความจริงแล้วจุดหมายสำคัญของการอาบแดด ที่ดึงดูดคนเข้านิคมคือ กิจกรรมเสริมความงาม หนังสือคู่มืออาบแดด แนะนำว่า การอาบแดดที่ได้รับประโยชน์สูงสุดควรออกกำลังกายไปด้วย แสงแดดที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในเมืองไทย คือแสงแดดเวลาย่ำรุ่ง ถึงเวลา 08.45 น. และแสงแดดเวลา 17.30 น. ไปถึงค่ำ



    นายสลิลคุยว่า สมาชิกนิคมอาบแดดได้รับผลแบบทันตาเห็น คนชราร่างกายกระฉับกระเฉงแข็งแรงขึ้น จิตใจก็กระปรี้กระเปร่าขึ้น หนุ่มสาวรูปร่างและสัดส่วนร่างกายจะพัฒนา สง่างามกว่าก่อนเข้ามานิคม ที่อ้วนก็จะผอมลง อกแฟบก็จะเต่งตึง

    เวลาไม่นานกิจการนิคมอาบแดดได้รับความนิยมสูงทำกำไรได้มาก นายสลิลก็เริ่มขยายกิจการซื้อที่ดินแถวบางซื่อไว้อีก 100 ไร่ นิคมอาบแดดแห่งที่สอง ไม่เพียงใหญ่โตกว้างขวางกว่ายังติดต่อว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญการอาบแดดจากต่างประเทศเข้ามาเป็นครูฝึกสอน

    บุญนายสลิลมีแต่ก็มีกรรมบัง ช่วงเวลาที่นิคมอาบแดดเฟื่องฟู หลังปี 2475 เมืองไทยก็มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ตำรวจสันติบาลก็เริ่มเข้ามาสอดส่องถึงในนิคม กลัวว่านักการเมืองฝ่ายศัตรู จะแกล้งเข้าไปแก้ผ้าอาบแดดซ่องสุมทางการเมือง ตำรวจจึงเปลี่ยนท่าทีกลายเป็นกวดขันมากๆเข้า ตัวนายสลิลก็ถูกสอบสวนถูกเพ่งเล็ง จนไม่นาน...ก็ถอดใจ ไม่เพียงจะหยุดโครงการนิคมอาบแดดแห่งใหม่ที่บางซื่อ โครงการนิคมอาบแดดที่บางกะปิก็ต้องเลิกไปด้วย
 

ตำนานนิคมอาบแดดเมืองไทย ก็ปิดตัวเองไปตั้งแต่นั้น

 

******************************************

 

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...