เฉินหลง? กลับมาฟัดเขย่าต่อมฮา ?ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด? ปะทะ ป๊อป

“เอ็ม พิคเจอร์ส” ภูมิใจนำเสนอ ภาพยนตร์แอ็คชั่นฮากระจายฟอร์มยักษ์สุดอลังการ “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) การกลับมาทวงบันลังค์เจ้าพ่อแอ็คชั่นคอเมดี้ ของซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย เฉินหลง (หรือ แจ็คกี้ ชาน) พร้อมฉากแอ็คชั่นฟัดมันส์ๆ เขย่าต่อมฮาแบบไม่ยั้งที่เป็นสไตล์ของเฉินหลงโดยเฉพาะ โดยเขาได้กลับมาแสดงเอง ควบตำแหน่งผู้อำนวยการสร้าง และกำกับคิวบู๊เอง หลังจากที่ใช้เวลาเตรียมงานนานถึง 20 ปีเต็ม ที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาลยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับเฉินหลง และเป็นการปะทะฝีมือกันครั้งแรกของซูเปอร์สตาร์นักบู๊แห่งเอเชีย เฉินหลง และป๊อปสตาร์ดาวรุ่งหนุ่ม วังลีฮอม ผลงานการกำกับของ ติงเซิง ผู้กำกับดาวรุ่งจาก The Underdog Knight

“ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” (Little Big Soldier) คือผลงานเรื่องที่ 99 ที่มีชื่อ เฉินหลง อยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังถือเป็นการหวนคืนสู่โปรแกรมหนังช่วงตรุษจีนอีกครั้งนับตั้งแต่ The Accidental Spy ในปี 2001 ที่สำคัญ นี่คือโปรเจกต์แรกที่เขาควบหลายตำแหน่งทั้ง ผู้อำนวยการสร้าง ผู้คุมงานสร้าง ผู้กำกับคิวบู๊ และนักแสดง

เฉินหลงได้แนวคิดสำหรับเรื่อง “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” มากว่าสองทศวรรษแล้ว แรกเริ่มเดิมที เขาหมายตาบทแม่ทัพหนุ่มไว้ให้ตัวเอง ต่อมาโปรเจกต์จึงค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อยๆ ทว่าหลังจากรับบทแม่ทัพตัวเอกในดราม่าย้อนยุคเรื่อง The Myth แล้ว เฉินหลงกลับตัดสินใจใหม่เพราะไม่อยากแสดงบทแม่ทัพซ้ำอีกครั้ง ในส่วนของ ติงเซิง ซึ่งนั่งแท่นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาเคยผ่านงานกำกับโฆษณาทางจอแก้วมาแล้วอย่างโชกโชน และนั่นคือส่วนที่ช่วยให้เขารู้จักมักคุ้นกับเฉินหลง ด้วยความที่ชื่นชอบความสามารถของติงเซิงในการตีแผ่ลักษณะของเพศชายลงบนจอได้อย่างยอดเยี่ยม หลังจากติงเซิงเสร็จสิ้นภารกิจกำกับเรื่อง The Underdog Knight (นำแสดงโดย หลิวเหย่ และ แอนโธนี หว่อง) เฉินหลงก็ตัดสินใจหยิบยื่น “ใหญ่พลิกแผ่นดินฟัด” ให้เป็นผลงานกำกับเรื่องต่อไปทันที

สำหรับบทแม่ทัพที่ยังว่างอยู่ เฉินหลงอยากให้บทนี้กับ เจย์ โชว หรือไม่ก็ลูกชายของเขา คือ เจย์ซี ชาน ทว่าผู้เป็นภรรยากลับเสนอ วังลีฮอม ขึ้นมา โดยเชื่อว่าการประกบคู่กันของเขากับเฉินหลงจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่บนจอเงินได้แน่ๆ หลังจากนั้น เฉินหลงรีบติดต่อวังลีฮอมทันที ในขณะที่วังลีฮอมเองก็ตกปากรับคำทันทีเช่นกันทั้งๆ ที่ยังไม่ได้อ่านบทเสียด้วยซ้ำ

เฉินหลง ได้พูดถึงการได้ทำงานร่วมกับ วังลีฮอม ว่า “ใครๆก็รู้จัก วังลีฮอม รูปลักษณ์ภายนอกเขาเป็นคนที่เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบเหมือนเจ้าชาย สวรรค์ประทานทุกสิ่งทุกอย่างมาให้เขา เขาเป็นคนที่เพอเฟ็คจริงๆ เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ทั้งเขียนเนื้อร้อง แต่งทำนอง แต่งเพลง เล่นเปียโน ร้องเพลง… ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ กวางตุ้ง จีน แค่นี้ก็ดีแล้ว แถมยังมีความสามารถทางการแสดงอีก นี่ขนาดเป็นหนังแอ็คชั่นเรื่องแรกของเขา วังลีฮอม ยังทำได้ดีถึงขนาดนี้ ถ้าเขาจะประสบความสำเร็จ นั่นก็เป็นสิ่งที่เขาสมควรจะได้รับแล้วละครับ”

ในขณะที่ วังลีฮอม เอง ถึงจะไม่ใหม่ถอดด้ามสำหรับหนังแอ็กชั่น คือเคยแสดงในงานกำกับโดย สแตนลีย์ ตง เรื่อง China Delta Force และงานกำกับโดย แอนดรูว์ เลา เรื่อง The Avenging Fist มาแล้ว แต่ในการเตรียมตัวเพื่อรับบทแม่ทัพหนุ่ม วังลีฮอมต้องฝึกฝนการใช้อาวุธจีนจำพวกดาบ และทวนอย่างหนักหน่วง รวมถึงเรียนขี่ม้าด้วย แต่ถ้าเปรียบเทียบกับบทบาทการแสดงที่ได้รับในภาพยนตร์เรื่องนี้ นั้นจะแตกต่างกับชีวิตจริงอย่างสินเชิง ในเรื่องนี้ วังลีฮอม ต้องรับบทเป็นพลทหารหนุ่มที่โดนลักพาตัว เพราะฉะนั้นบทบาทที่แสดงจะต้องคลุกดิน คลุกฝุ่น ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ที่ต้องดูสมจริง รวมถึงทั้งการแสดง ที่ต้องใช้เครื่องต่อสู้ยังเป็นสิ่งใหม่ต่อ วังลีฮอม มาก แต่ วังลีฮอม ก็พยายามฝึกฝนรวมถึงได้รับการชี้แนะจากนักแสดงรุ่นใหญ่ เฉินหลง ทำให้การแสดงออกมาได้ยอดเยี่ยมอย่างไม่มีที่ติ

วังลีฮอม เล่าให้ฟังถึงการแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นครั้งแรกร่วมกับปรมาจารย์ด้านฟัดอย่าง เฉินหลง ว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมถ่ายภาพยนต์แอ็คชั่น เฉินหลงเขาสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้ผม โดยเฉพาะการแสดงฉากแอ็คชั่น อย่างเช่น พอก่อนเริ่มจะถ่ายทำ เฉินหลงจะบอกว่า ‘1 2 3 แอ็กชั่น….ตอนที่จะคว้าดาบ ไม่ต้องเอื้อมไปที่ดาบ แต่ให้เอื้อมไปที่เก้าอี้แทน’ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยนะ พอถ่ายไปถ่ายมาสักพักผมก็เริ่มดีขึ้น… ดูไม่ออกเลยใช่ไหม ว่าผมเหนื่อยจริงๆ ผมทุ่มเทแสดงสุดตัวเลยครับ”

เข้าฉายบ้านเรา 18 กุมภา 53  ยังทันตรุษจีนอยู่นะ

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...