10 สุดยอดเจ้าหญิงผู้เลอโฉมที่สุดในโลกในปีนี้


          ผู้ชายโดยทั่วไปแล้วมักสนใจผู้หญิงที่ทั้งสวย เก่ง และมีเสน่ห์ แต่หากผู้หญิงเหล่านั้นเป็นถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ก็ยิ่งทำให้ได้รับการจับตามองและสนใจยิ่งกว่าเดิมกันใช่ไหมครับ เชื่อได้เลยว่าต้องมีคนเห็นด้วยอย่างแน่นอน โดยวันนี้ทางกระปุกดอทคอมได้ขอนำเอาการจัดอันดับของเว็บไซต์mensxp.com ที่ได้รวบรวมเอาบรรดาเจ้าหญิงจากประเทศต่าง ๆ 10 พระองค์ ที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ ถึงความสามารถและความงดงามมาให้ได้ชมกัน อยากรู้กันแล้วใช่ไหมครับว่ามีพระองค์ใดกันบ้าง ก็เชิญชมกันด้านล่างได้เลยครับ
 


 1. ชาร์ล็อตต์ คาซิรากี้ (Charlotte Casiraghi) แห่งโมนาโก

          ชาร์ล็อตต์ คาซิรากี้คนนี้ เป็นพระธิดาองค์ที่สองของเจ้าหญิงแคโรไลน์แห่งฮันโนเวอร์ (Princess Caroline of Hannover) และนักธุรกิจด้านอุตสาหกรรมชาวอิตาเลี่ยน สเตฟาโน่ คาซิรากี้ (Stefano Casiraghi) สำหรับชาร์ล็อตต์ ผู้คนต่างกล่าวขานถึงรูปโฉมของพระองค์ว่าถอดแบบมาจากพระมารดาและสมเด็จยาย เจ้าหญิงเกรซ เคลลี่ (Princess Grace Kelly) ออกมาเลย โดยตัวพระองค์เองถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 4 ของผู้มีโอกาสสืบทอดราชบัลลังก์โมนาโก ด้วยการที่พระองค์เป็นคนหน้าตาดีและสนใจในด้านของแฟชั่น จึงเคยไปเป็นนางแบบให้กับนิตยสาร "โว้ค" (Vogue) มาแล้ว นอกจากนี้พระองค์ยังชื่นชอบกีฬาขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวาง ซึ่งทำให้เธอได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ชุดกีฬาของแบรนด์ที่โดดเด่นด้านแฟชั่นเครื่องแต่งกายอย่าง "กุชชี่" (Gucci) ด้วยเช่นกัน
 


 2. เจ้าหญิงฮายา (Princess Haya) แห่งจอร์แดน

          เจ้าหญิงฮายา เป็นชายาของ ชีค มูฮัมหมัด บิน ราชิด อัล มักทูม (Sheikh Mohammed Bin Rashid Al Maktoum) เจ้าผู้ครองนครดูไบ และเป็นพระราชธิดาของ กษัตริย์ฮุซเซนที่ 1 แห่งจอร์แดน (King Hussein I of Jordan) โดยผู้คนมันเรียกขานพระองค์ว่า ชีคคา ฮายา แห่งดูไบ (Sheikha Haya of Dubai) ด้วยการที่เป็นคนเก่ง จึงทำประชาชนมีโอกาสได้เห็นความสามารถของพระองค์หลากหลายรูปแบบ อาทิเช่น เคยเข้าแข่งขันกีฬาขี่ม้าในกีฬาโอลิมปิก ที่เมืองซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2000, เป็นประธานสมาคมกีฬาขี่ม้านานาชาติ, เป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรเพื่อมนุษยชนแห่งโลก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแม้ว่าจะมีภารกิจรัดตัวชวนให้เครียดแค่ไหนก็ตาม แต่เจ้าหญิงฮายาก็ทรงรักษาตัวเองเป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อดูจากความงามแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าพระองค์จะมีพระชนมายุใกล้เลข 4 นำหน้าแล้ว
 


 3. เจ้าหญิงมาเดอลีน (Princess Madeleine) แห่งสวีเดน

          เจ้าหญิงสวีเดนผู้สง่างาม เป็นผู้ที่สืบทอดราชบัลลังก์ลำดับที่  4 ของราชวงศ์สวีเดน ถัดจากพระเชษฐภคินี เจ้าหญิงวิคตอเรีย (Princess Victoria) พระราชนัดดา เจ้าชายเอสเตล (Prince Estelle) และพระเชษฐา เจ้าชายคาร์ล ฟิลลิป (Prince Carl Philip) ตามลำดับ เจ้าหญิงมาเดอลีนได้หมั้นกับแฟนหนุ่มนักกฏหมาย โจนาส เบิร์กสตรอม (Jonas Bergstrom) หลังจากที่คบหากันมากว่า 7 ปี ในปี 2009 แต่ต่อมาภายหลังได้ถอนหมั้นเพราะจับได้ว่าคู่หมั้นนอกใจแอบไปมีสัมพันธ์กับเด็กสาวมหาวิทยาลัย ภายหลังเจ้าหญิงจึงย้ายไปพักอาศัยอยู่ที่เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา และตอนนี้กำลังสานสัมพันธ์อยู่กับ คริส โอ' นีล (Chris O'Neil) นักวางแผนการเงินมืออาชีพ
 


 4. เจ้าหญิงอเล็กซานดร้า (Princess Alexandra) แห่งลักเซมเบิร์ก

          เจ้าหญิงสาวสวยวัย 21 ชันษา เป็นพระธิดาเพียงพระองค์เดียวจากพระบุตรทั้ง 5 องค์ของแกรนด์ดัสเชส มาเรีย เทเรซา (Grand Duchess Maria Teresa) และแกรนด์ ดยุก อองรี แห่งลักเซมเบิร์ก (Grand Duke Henri of Luxembourg) โดยสืบทอดราชบังลังก์อยู่ในลำดับที่ 3 ตามหลังพระเชษฐาคนโตและคนรอง แกรนด์ดยุกกีโยม (Grand Duke Guillaume) และ เจ้าชายเฟลิกซ์ (Prince Felix) เจ้าฟ้าหญิงอเล็กซานดร้าได้ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนทั่วโลกมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เหตุเพราะทรงมีพระสิริโฉมไม่แพ้เจ้าหญิงจากประเทศอื่นนั่นเอง งานอดิเรกที่โปรดปรานของพระองค์คือ การเล่นเทนนิส สกี ว่ายน้ำ และการเต้นรำ
 


 5. เจ้าหญิงเลติเซีย (Princess Letizia) แห่งสเปน 

          ยังคงสวยและงดงามไม่เสื่อมครา สำหรับเจ้าหญิงเลติเซีย วัย 39 ปี โดยพระองค์เคยเป็นผู้สื่อข่าว และได้แต่งงานกับครูสอนหนังสืออยู่พักหนึ่ง ก่อนที่แยกทางกัน แล้วไปพบรักใหม่กับเจ้าชายเฟลิเป (Prince Felipe) มกุฎราชกุมาร แห่งประเทศสเปน และได้อภิเษกสมรสกันในปี 2004 ทรงได้ให้กำเนิดราชธิดา 2 พระองค์คือ ราชธิดาเลโอนอร์ (Infanta Leonor) และราชธิดาโซเฟีย (Infanta Sofia) ในปี 2005 และ 2007 ตามลำดับ เจ้าหญิงเลติเซียไม่เพียงแต่รับผิดชอบต่อหน้าที่การเป็นเจ้าหญิงของพระองค์ได้ดีอย่างเดียวเท่านั้น เพราะทรงยังโดดเด่นในเรื่องการเป็นผู้นำแฟชั่นให้กับสาว ๆ อีกด้วย
 


 6. เจ้าหญิงชาร์ลีน (Princess Charlene) แห่งโมนาโก

          เจ้าหญิงชาร์ลีน มักถูกเรียกขานอยู่บ่อยครั้งว่าเป็นเจ้าหญิงโดยไม่เต็มใจ เพราะมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า เจ้าหญิงชาร์ลีนพยายามหนีกลับแอฟริกาใต้บ้านเกิด ก่อนที่จะมีพิธีอภิเษกสมรสเพียงแค่วันเดียว เจ้าหญิงชาร์ลีนได้รับอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงแห่งโมนาโก ในฐานะพระชายาของเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งโมนาโก (Albert II, Prince of Monaco) ภายหลังจากที่ตำแหน่งนี้ได้ว่างลงหลังการเสียชีวิตของเจ้าหญิงเกรซ (Princess Grace) พระมารดาของเจ้าชายอัลแบร์ โดยเจ้าหญิงชาร์ลีนในอดีตเคยเป็นนักว่ายน้ำทีมชาติแอฟริกาใต้ ทำให้พระองค์ทรงเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ และต้องรับรู้ถึงภาระหน้าที่รับผิดชอบของราชวงศ์อันใหญ่หลวง
 


 7. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ (Princess Sirivannavari Nariratana)

          พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เป็นพระธิดาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ สยามมกุฎราชกุมาร (The Crown Prince Maha Vajralongkorn) ทรงเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อบทบาทการเป็นเจ้าหญิงอย่างมาก โดยหลังจากที่ทรงกลับมาจากประเทศอังกฤษ ทรงก็ปฏิบัติตามพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช (King Bhumibol Adulyadej) ที่ทรงเป็นพระอัยกาได้อย่างดี และในขณะที่ทรงกำลังศึกษาในด้านของแฟชั่นและสิ่งทอ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ทรงได้มีโอกาสแสดงผลงานการออกแบบเสื้อผ้า ในงานแสดงเสื้อผ้าปารีสแฟชั่นวีค โดยได้รับการเชื้อเชิญจากนักออกแบบเสื้อผ้าชาวฝรั่งเศส ปิแอร์ บาลเมน (Pierre Balmain) ทำให้ทรงได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากถึงฝีมือการออกแบบที่ไม่แพ้นักออกแบบมืออาชีพเลย
 


 8. เจ้าหญิงธีโอโดรา (Princess Theodora) แห่งกรีซและเดนมาร์ก

          เจ้าหญิงธีโอโดรา เป็นผู้ที่สืบสายพระโลหิตจากอดีตกษัตริย์คอนสแตนตินที่ 2 แห่งกรีซ (King of Greece Constantine II ) และเจ้าหญิง แอนน์-มารี แห่งเดนมาร์ก (Princess Anne-Marie of Denmark) ถึงแม้ว่าในตอนนี้ประเทศกรีซจะยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์ไปแล้ว แต่พระองค์ยังคงถือเอาชื่อเดิมไว้ นั่นคือเจ้าหญิงธีโอโดรา แห่งกรีซและเดนมาร์ก จุดเด่นที่สำคัญที่ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชมในตัวเจ้าหญิงคือ "ความกล้าและความสวย" ซึ่งใครได้พบเห็น ย่อมไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน



 9. เจ้าหญิงโซนัม เดเชน วังชุก (Princess Sonam Dechen Wangchuck) แห่งภูฎาน

          เจ้าหญิงโซนัม เดเชน วังชุก เป็นราชธิดาของ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก (King Jigme Singye Wangchuck) โดยพระองค์มีสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าหญิงพึงมีคือ "ความงามและสติปัญญา" ซึ่งทรงได้เกียรตินิยมด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ท และปริญญาโทด้านกฎหมายจากโรงเรียกกฎหมายฮาร์วาร์ด และในตอนนี้เจ้าหญิงโซนัม ยังเป็นประธานสถาบันด้านกฎหมายของประเทศภูฏานอีกด้วย 
 

 
 10. ซาร่า ฟิลลิปส์ ( Zara Phillips) จากสหราชอาณาจักร

          พระราชนัดดาองค์โตผู้เลอโฉมของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (Queen Elizabeth) และเป็นพระธิดาของเจ้าหญิงแอน (Princess Anne) กับกัปตัน มาร์ค ฟิลลิปส์ (Mark Phillips) ซึ่งพระองค์ทรงอยู่ในลำดับที่ 14 ของผู้ที่มีโอกาสสืบทอดราชสมบัติ นอกจากนี้ยังมีความสามารถโดดเด่นด้านกีฬาขี่ม้า ซึ่งล่าสุดเพิ่งคว้าเหรียญเงินในกีฬาโอลิมปิค 2012 ที่บ้านเกิดของเธอเองอีกด้วย โดยปัจจุบันเธอได้แต่งงานกับนักรักบี้ทีมชาติอังกฤษ ไมค์ ทินดอลล์ (Mike Tindall) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   

          หลังจากที่ได้ชมเจ้าหญิง 10 พระองค์กันไปเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าทุกคนต้องเห็นด้วยกับการจัดอันดับครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และก็มั่นใจด้วยว่าต่อไปทุกคนคงคอยดูถึงราชกิจของเจ้าหญิงกันอย่างต่อเนื่อง และหากมีการจัดอันดับครั้งใหม่เมื่อใด ทางเราจะนำมาให้คุณได้ชมกันอีกแน่นอน
 
 
4 ก.พ. 56 เวลา 21:59 3,428 3 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...