นักวิจัยกำลังตรวจสอบงูเหลือมพม่า ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา ที่จับได้ในเขตอุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดส์ ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ยังพบว่างูเหลือมพม่าเพศเมียตัวดังกล่าว ซึ่งมีขนาดความยาวถึง 5.18 เมตร ยังตั้งท้องโดยมีไข่จำนวนมหาศาลถึง 87 ฟองอีกด้วย

ผลการค้นพบครั้งนี้ ซึ่งได้รับการประกาศโดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติฟลอริดา เป็นสิ่งยืนยันว่า สัตว์เลื้อยคลานขนาดยักษ์ประเภทนี้กำลังเริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว หลังภาวะหนาวเย็นอย่างเฉียบพลันเมื่อกว่า 2 ปีก่อน ทำให้ประชากรงูเหลือมพม่าลดลงมากกว่าครึ่ง

ผลการศึกษาวึ่งเผยแพร่เมื่อต้นปีระบุว่า งูเหลือมพม่า สัตว์ซึ่งมีต้นกำเนิดในประเทศเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นต้นเหตุของการลดลงของประชากรสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในเขตอุทยานเอเวอร์เกลดส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก อาทิ แร็คคูน กระต่าย หรือตัวโอพอสซัม เนื่องจากไม่มีอะไรสามารถหยุดการเจริญเติบโตของมันได้ แม้จะอยู่ในสภาวะที่แร้นแค้น

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ผลการพิสูจน์ซากงูชนิดนี้ พบว่ามันมีสุขภาพดี และมีขนขนาดเล็กจำนวนมากในกระเพาะของมัน ที่จะช่วยแยกประเภทของสิ่งที่พวกมันกลืนเข้าไปได้ และด้วยลำตัวขนาดยาวกว่า 5 เมตร พวกมันสามารถกินทุกสิ่งที่มันต้องการได้ อาทิ กวาง หรือจระเข้ หลังจากรัดเหยื่อจนขาดอากาศหายใจ

นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถระบุจำนวนประชากรงูเหลือมพม่าได้แน่ชัด แต่คาดว่าเฉพาะในเขตอุทยานเอเวอร์เกลด จะมีอยู่นับหมื่นตัว โดยหนึ่งเดือนหลังจากภาวะหนาวเย็นผิดปกติเมื่อ 2 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบงูเหลือมพม่าเพศเมีย ขนาดความยาว 5.08 เมตร ในรังของมันพร้อมไข่กว่า 85 ฟอง

ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อว่า อุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลด ซึ่งมีบรรยากาศชื้นและอบอุ่น งูจำนวนมากเคยมีเจ้าของแต่ถูกนำมาปล่อยทิ้ง บางตัวหลบหนีออกจากร้านขายสัตว์เลี้ยงในระหว่างที่เกิดพายุเฮอริเคนแอนดรูว์ในปี 1992

เจ้าหน้าที่รัฐไมอามีพยายามดำเนินมาตรการลดปัญหาจากงูเหลือม เช่นห้ามนำเข้าและอนุญาตให้ล่างูชนิดนี้ได้ แต่ที่ผ่านมาแทบไม่สามารถลดจำนวนประชากรงูเหลือมพม่าลงได้เลย ซึ่งเมื่อนับเฉพาะอุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลดแห่งเดียวพบงูเหลือมพม่าประมาณ 1,825 ตัวระหว่างปี 200-2011

นักชีววิทยาจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติรัฐฟลอริดากล่าวว่า ยากมากที่จะจับงูเหลือมและแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถกำจัดงูชนิดนี้ออกไปจากอุทยานแห่งชาติเอเวอร์เกลด คาดว่าจะพบงูที่ตัวใหญ่กว่านี้อย่างแน่นอนในอนาคต