วันนี้ (23 มีนาคม) นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมกับศูนย์ประสานงานในการให้ความช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่น ว่า การรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขณะนี้ยังคงทรงตัว และไม่พบว่ามีอันตรายโดยรอบรัศมีที่ทางการญี่ปุ่นได้ประกาศไว้

          ส่วนการพบสารกัมมันตรังสีปนเปื้อนในผักและผลไม้ และการรั่วไหลออกสู่ทะเลนั้น ขณะนี้ไทยยังไม่ได้มีการสั่งระงับการนำเข้าสินค้าแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบท่าเรือต่าง ๆ ของไทย ก็ยังไม่พบว่ามีสินค้าที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมีสารปนเปื้อน อีกทั้งล่าสุด ทางการญี่ปุ่นได้ออกมายืนยัน ถึงมาตรการในการตรวจสอบสินค้าก่อนที่จะมีการส่งออกสู่ตลาดอีกด้วย

          นายธานี กล่าวต่อว่า ในส่วนของการบินไทยได้แจ้งมาว่า จำนวนของคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ในเครื่อง มีเพียงร้อยละ 50 - 55 เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับสู่ประเทศไทยแล้ว เพราะจนถึงขณะนี้ มีคนไทยที่เดินทางกลับมาแล้วจำนวนกว่า 9,000 คน และยังมีคนไทยที่อยู่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอิวาเตะ จังหวัดมิยากิ และจังหวัดฟุกุชิมะอีกประมาณ 488 คน ที่สามารถติดต่อได้แล้วขณะนี้ 188 คน ขณะที่ยอดเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดมีจำนวนถึง 47.6 ล้านบาทแล้ว

          อย่างไรก็ตาม แม้ทางการไทยจะยังไม่สั่งระงับสินค้าจำพวกอาหารจากประเทศญี่ปุ่น แต่ทางการสหรัฐอเมริกา ได้สั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์นม และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ผลิตในพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าที่มีปัญหาแล้ว เช่นเดียวกับทางการฝรั่งเศสที่ได้พยายามเรียกร้องให้สหภาพยุโรปบังคับใช้มาตรการแบบเดียวกันกับสหรัฐอเมริกา

          ขณะที่ทางการญี่ปุ่นเองกำลังเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลแถบน่านน้ำฟุกุชิมะ ว่า ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในระดับที่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำหรือไม่