การจูบเป็นการสัมพัสด้านต้นที่คนรักใช้ถ่ายทอดความรู้สึกภายในที่มีต่อกัน หลายครั้งที่จูบจะนำพาความปราถนาให้คุกรุ่น นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่งแนบแน่นยิ่งขึ้น การจูบเปรียบเสมือนบทโหมโรงที่บอกได้ว่า บทบาทและลีลารักหลังจากนั้นจะมีรสชาติเช่นไร

เตรียมพร้อมก่อนจูบ

          ถ้าเราทำให้คนรักรู้สึกประทับใจตั้งแต่รสจูบแรกละก็ บทบาทหลังจากนั้นย่อมง่ายและมีลีลาขึ้น  โดยทั้งคู่ต้องเตรียมพร้อมในเรื่องต่อไปนี้

          สำรวจลมหายใจให้หอบสดชื่น เลียริมฝีากเพียงเล็กน้อย สาว ๆ ควรลิปสติกทุกประเภท เพราะลิปสติกอาจทำให้รสจูบกลายเป็นรสหรือกลิ่นลิปสติก ซึ่งสำหรับหนุ่ม ๆ แล้วถือว่าขัดกับอารมณ์ที่กำลังลุกโชน และอาจส่งผลให้การจูบไม่ลื่นไหลอย่างที่คิด

          ร่าเริง เป็นมิตร มิใช้จะให้ความสำคัญแต่เพียงลมหายใจเท่านั้น อารมณ์ก่อนการจูบก็เป็นสิ่งสำคัญดังนั้นก่อนจะจูบกันทั้งสองฝ่ายควรอยู่ในอารมณ์ที่ร่าเริง ยิ้มแย้ม มีความสุข เพราะจะยิ่งทำให้มีความสุขมากยิ่งขึ้น

          เลือดตำแหน่งให้เหมาะสม ยืนให้ไกลกับคู่รัก เพื่อให้ศีรษะของทั้งคู่โน้มเอนเข้ามาหากันได้ง่าย หากอีกฝ่ายหนึ่งเอียงศีรษะไปทางใด อีกผ่ายควรเอียงศีรษะไปด้านตรงข้าม

จูบให้ประทับใจ

          การมอบรอยจูบให้คนรักประทับใจต้องมีเทคนิคในการจูบเข้ามาเสริมลีลากันบ้าง

          จัดฉากจูบให้โรแมนติก แม้ไม่ใช้ทุกครั้งที่จะสามารถจัดเตรียมสถานที่ สำหรับการจูบได้แต่ถ้าเป็นไปได้แต่ถ้าเป็นไปได้บรรยากาศริมทะเลยามพระอาทิตย์กำลังตกดิน หรือริมหน้าผาที่มองไปเห็นทิวทัศน์สวยงามยามพลบค่ำสถานที่เหล่านี้จะช่วยให้การจูบน่าประทับใจขึ้น

          สองมือคือผู้ชาย นอกจากริมฝิปากแล้ว มืออีกสองข้างไม่ควรวางไว้โดยไร่ประโยชน์ ให้ใช้มือข้าวใดข้างหนึ่งโอบเอวคู่รักแล้วนึงมาให้แนบชิดหรือใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของคนรักอย่างแผ่วเบา แล้วค่อย ๆ เชยคางขึ้นเล็กน้อย ก่อนจุมพิตก็ทำให้รสจูบน่าระทับใจได้อย่างไม่รู้ลืม

          นุ่มนวล แต่หนักหน่วง จะจูบให้ประทับใจได้ต้องกำหนดจังหวะในการจูบให้เน้นน้ำหนักเล็กน้อย แต่การลงน้ำหนักไปยังริมฝีปาก ควรทำด้วยความนุ่มนวลเสมอ หรืออาจมีลีลาตั่งแต่ก่อนประทับริมฝีปาก ด้วยการทำท่าชะงักริมฝีปากไว้เล็กน้อย การลังเลเช่นนี้จะยิ่งทำให้ประสาทสัมผัสของอีฝ่ายตื่นตัวมากขึ้น และรสจูบของทั้งคู่จะยิ่งดื่มด่ำ และถ้าอารมณ์ กำลังโลดแล่น การส่งเสียงเบาๆ ภายในลำคอ จะช่วยทำให้รสจูบมีรสชาติ

          จุ่มพิตไปทั่วตัว บางคนอาจคิดว่าควรประทับรอยจูบไว้ที่ริมฝีปากเท่านั้น แท้จริงแล้วการมอบรอยจูบสามารถทำได้ทั้งตัว ตั้งแต่หน้าผาก คิ้ว ปลายจมูก แก้ม ซอกคอ หรือจะไล่เลยลงมาถึงปลายเท้า แต่ควรจำไว้เสมอว่าไม่ว่าจะจูบตรงส่วนไหนของร่ายกาย การจูบด้วยความรู้สึกรักย่อมทำให้มีความสุข

10 สาระเรื่องจูบ

          1. การจูบเพียง 1 นาที สามารถช่วยปลดปล่อยไขมันออกจากร่างกายได้ถึง 26 แคลอรี่

          2. การจูบช่วยให้หน้าเด็ก เพราะการจูบทำให้กล้ามเนื้อ 29 ส่านบน ใบหน้าเกิดการเครื่อนไหว ถือเป็นการบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า

          3. การจูบแบบเร่าร้อน รวามเร็วเผาผลาญไขมันได้เพียง 2 – 3 แคลอรี่ แต่ถ้าต้องการเผาผลาญไขมันมากกว่านั้น ควรเลือกการจูบแบบเฟรนซ์คิสส์หรือการจูบแบบฝรั่งที่ต้องแลกลิ้นระหว่ากัน เพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันได้มากกว่า 5 แคลอรี่

          4. วิธีผ่อนคลายความเครียดให้กับผู้หญิงที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งก็คือการจูบ

          5. เชื่อกันว่าผู้ชายที่จูบภรรยาก่อนไปทำงาน ชีวิตคู่จะยืนยาวกว่าผู้ชายที่ไม่ได้จูบภรรยาก่อนออกจากบ้านถึง 5 ปี

          6. ในน้ำลายที่คู่รักแลกเปลี่ยนกันระหว่างการจูบ ประกอบไปด้วย ไขมัน เกลือแร่ และโปรตีน

          7. ระหว่างการจูบ ร่ายกายจะผลิตสารที่มีฤทธิ์ในการเสพติดมากกว่ามอร์ฟีน 200 เท่า จึงทำให้อีกฝ่ายรู้สึกมีความสุขเหมือนกับการทานยากล่อมประสาท

          8. ริมฝีปากของเรามีความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้ามากกว่านิ้วถึง 200 เท่า

          9. การจูบช่วยป้องกันฟันผุ เพราะตอนที่กำลังจูบนั้นต่อมน้ำลายจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ระดับของน้ำตาล และความเป็นกรดของน้ำลายลดลงสู่ภาวะปกติ

          10. การจูบทำให้เกิดการนับถือตัวเอง เพราะการที่ใครอยากมอบบรอยจูบให้กับเรา ย่อมหมายถึงเรามีคุณค่าต่อเขา ซึ่งจะทำให้รู้สึกดี