คำสาปของ"ภาพเด็กร้องไห้"

แทบไม่น่าเชื่อว่าสมัยนี้ยังมีคนที่เชื่อเรื่องคำสาปกันอยู่ และยิ่งไม่น่า เชื่อไปกันใหญ่เมื่อคนที่เชื่อเรื่องเหล่านั้นเป็นพวกฝรั่ง

       เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 1985 เมื่อหนังสือพิมพ์ "เดอะซัน" หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอังกฤษ ได้ลงบทความที่พาดหัวเรื่องว่า "คำสาปให้เพลิงไหม้ของเด็กร้องไห้"

       เนื้อหามีอยู่ว่า รอน และ เมย์ ฮอลล์ โทษว่าภาพพิมพ์ราคาถูกรูปเด็กน้ำตาไหลอาบแก้มเป็นเหตุให้ไปไหม้บ้านอาคาร สงเคราะห์ในเมืองร็อธเธอแรมที่พวกเขาอยู่มา 27 ปีแล้ว ซึ่งมีต้นเพลิงเกิดที่กระทะทอดมันฝรั่งในครัวแล้วลุกลามอย่างรวดเร็ว สิ่งที่น่าแปลกคือ แม้ชั้นล่างจะเสียหายอย่างมาก แต่ภาพเด็กร้องไห้กลับไม่เป็นอะไร ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน มันยังคงแขวนอยู่ที่เดิมท่ามกลางซากของความเสียหายที่เห็นอยู่โดยรอบ

       ปกติข่าวไฟไหม้ธรรมดาเช่นนี้จะลงได้แค่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเท่านั้น แต่เรื่องนี้ปรากฏในหนังสือพิมพ์ชั้นนำได้เนื่องจาก ปีเตอร์ น้องชายของ รอน ฮอลล์ เป็นพนักงานดับเพลิง และแจ้งว่า เขารู้มาว่ามีรายอื่นอีกหลายรายทีเดียวที่ปรากฏว่าบ้านถูกไฟไหม้เสียหายหนัก แต่ภาพพิมพ์ "เด็กร้องไห้" กลับไม่เป็นอะไรเลย

       เดอะซันได้ลงภาพ "เด็กร้องไห้" พร้อมกับคำบรรยายใต้ภาพว่า "น้ำตาสำหรับความกลัว...ภาพที่พนักงานดับเพลิงอ้างว่าถูกสาป" (ความจริงพนักงานดับเพลิงไม่ได้ใช้คำว่าถูกสาป) แต่ไม่ว่าจะอย่างไรรายงานในหน้าหนังสือพิมพ์ก็ช่วยให้เรื่องนี้น่าเชื่อถือ ไปแล้วระดับหนึ่ง

       เดอะซันยังบอกอีกด้วยว่า ภาพพิมพ์เด็กร้องไห้ที่ลงชื่อจิตรกร จี บราโกลิน นี้วางขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าของอังกฤษ โดยเฉพาะแถบย่านคนงานทางภาคเหนือ ประมาณว่ามากถึง 50,000 ภาพ และสามารถดูตัวอย่างได้จากที่แขวนไว้ตามห้องนั่งเล่นในบ้านที่มีครอบครัว แล้ว

       พอถึงวันที่ 5 กันยายน เดอะซัน ก็ลงรายงานข่าวต่อว่า "ได้รับโทรศัพท์จนสายแทบไม่ว่าง จากบรรดาท่านผู้อ่านที่อ้างตัวว่าตกเป็นเหยื่อของคำสาปของเด็กร้องไห้...พวก เขาต่างกลัวว่าจะเคราะห์ร้ายเพราะมีภาพพิมพ์เด็กที่มีน้ำตาแอบแก้มอยู่ใน บ้านของพวกเขา"

       หนังสือพิมพ์ใช้คำว่า "คำสาป, เคราะห์ร้าย, น่ากลัว, อาถรรพ์ ฯลฯ" เพื่อให้เชื่อมโยงกับเรื่องเหนือธรรมชาติที่ผู้อ่านมักจะเชื่อตามอยู่แล้ว

       ไม่เพียงแค่นี้ ผู้อ่านที่ชื่อ โดร่า แมนน์ จากมิทแชม เชอเรย์ บอกว่า บ้านเธอถูกไฟไหม้หลังจากซื้อภาพพิมพ์นั่นมาได้แค่หกเดือนเท่านั้น เธอบอกอีกด้วยว่า "ภาพทั้งหมดของดิฉันถูกทำลายหมด ยกเว้นภาพเด็กร้องไห้ภาพเดียว

       แซนดร้า เคสก์ แห่งคิวเบิร์น ยอร์คเชียร์เหนือ บอกว่า น้องสะใภ้และเพื่อนอีกคนต่างได้รับความเดือดร้อนจากไฟไหม้หลังจากที่พวกเธอ ได้ภาพพวกนั้นมา

       อีกครอบครัวหนึ่งจากนอตติ้งแฮมโทษภาพพิมพ์ว่าเป็นต้นเหตุให้เพลิงไหม้ ทำให้พวกเขาต้องไร้บ้าน ไบรอัน ปาร์ค ที่เมียและลูกทั้งสามต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะสำลักควัน พบว่าภาพเด็กร้องไห้ไม่เป็นอะไรเลย มันยังคงแขวนอยู่ที่ผนังห้องนั่งเล่นที่ไหม้ไปจนดำ เขาจึงต้องทำลายมันทิ้ง


 

เรื่องมีเข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมกับรายละเอียดใหม่ ๆ ที่ดูจะสนับสนุนความคิดที่ว่าการครอบครองรูปภาพพวกนี้จะทำให้ผู้เป็นเจ้าของ ต้องเสี่ยงกับไฟไหม้หรือบาดเจ็บหัส 

       สตรีผู้หนึ่งจากกรุงลอนดอนกล่าวว่าเธอเห็นภาพวาดเด็กร้องไห้ของเธอแกว่งไป แกว่งมาบนผนัง ส่วนอีกผู้หนึ่งจากเพนตันบอกว่า บุตรชายวัย 11 ปีของเธอถูกขอเกี่ยวไอ้จู๋หลังจากที่เธอซื้อภาพนี้มา

       นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ยังลงจดหมายของนางโรส ฟาร์ริงตัน ที่ส่งมาจากเมืองเพรสตัน เล่าว่า "นับแต่ดิฉันซื้อมันมาเมื่อปี 1959 ลูกชายของฉันสามคนและสามีของดิฉันได้เสียชีวิตกันไปหมด ดิฉันมักสงสัยว่า หรือมันจะมีคำสาป"

       อีกคนเล่าว่า เธอพยายามทำลายภาพพิมพ์สองภาพโดยเอาไปเผาไฟ แต่กลับต้องตกใจเมื่อพบว่ามันไม่ไหม้ไฟ ปอล คอลเลียร์ พนักงานรักษาความปลอดภัยได้ลองพิสูจน์สิ่งที่เธอพูด เขาโยนภาพที่เขามีอยู่เข้ากองไฟ แต่ถึงแม้จะทิ้งมันไว้เป็นชั่วโมง มันก็ไม่มีแม้แต่รอยถูกไฟเลีย

       เขาบอกกับเดอะซันว่า "มันน่ากลัวจริง ๆ ไฟไม่อาจแตะต้องมันได้ ผมเชื่อจริง ๆ ว่ามันต้องมีอาถรรพ์ เรารู้สึกเสี่ยงเป็นสองเท่าที่เรามีมันถึงสองรูป เราจึงตัดสินใจกำจัดมัน"

       อลัน วิลกินสัน หัวหน้าสถานีดับเพลิงที่ร็อธเธอแรม ได้ค้นรายละเอียดจากที่จดบันทึกไว้พบว่าไฟไหม้ที่เกี่ยวข้องกับ "รูปเด็กร้องไห้" ย้อนหลังไปถึงปี 1973 มีจำนวนรวมแล้วถึง 50 ราย แต่ก็ไม่พบว่ามีอะไรเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติ ส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทของคนแทบทั้งสิ้น


 


26 ก.ย. 53 เวลา 14:46 6,503 10 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...