วิเคราะห์เทคนิคลับ ‘ดาวินชี’ ที่ใช้สร้าง “รอยยิ้มที่จับต้องไม่ได้” ในภาพ ‘โมนาลิซา’

https://www.meekhao.com/history/mystery-of-monalisa-smile-solved

เป็นปริศนามาหลายร้อยปีสำหรับรอยยิ้มของ “โมนาลิซา” ภาพวาดสตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก เนื่องจากผู้ที่พบเห็นต่างก็บรรยายถึงรอยยิ้มลึกลับของเธอแตกต่างกันไป และความจริงได้เปิดเผยแล้ว! หลังจากค้นพบว่าวิธีการเดียวกันนี้ได้ถูกใช้ในภาพวาดสตรีเก่าแก่อีกหนึ่งภาพของดาวินชีเช่นกัน

ภาพเขียน “โมนาลิซา” อาจเป็นภาพของ ‘รอยยิ้มปริศนา’ ที่โด่งดังที่สุดของจิตรกรเอก “ลีโอนาร์โด ดา วินชี” แต่จริงๆ แล้วภาพโมนาลิซานั้นไม่ได้เป็นภาพสตรีพร้อมรอยยิ้มลึกลับภาพเดียวที่เขาวาดขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญได้ค้นพบและศึกษาอีกหนึ่งภาพวาดจากยุคเรเนสซองส์ “La Bella Principessa” ที่ถูกวาดขึ้นมาในศตวรรษที่ 15 ก่อนภาพโมนาลิซา เพื่อไขความลับเกี่ยวกับเทคนิคที่ดาวินชีใช้ในการสร้างรอยยิ้มของพวกเธอ ซึ่งเทคนิคที่เขาใช้ทำให้ภาพเหล่านี้สามารถหลอกตาของผู้ชมได้ถ้าหากมองในระยะที่แตกต่างกันไป วิธีการก็คือเขาใช้การผสมและเกลี่ยสีลงไปที่มุมปาก โดยเทคนิคนี้มีชื่อว่า “sfumato” 

รอยยิ้มของโมนาลิซาเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “รอยยิ้มที่จับต้องไม่ได้” เพราะเมื่อเราโฟกัสไปที่ส่วนอื่น เราจะเห็นเหมือนกับว่าเธอกำลังยิ้ม แต่เมื่อมองไปที่ปาก จะพบว่าเธอไม่ได้กำลังยิ้มอยู่เลย ดังนั้นรอยยิ้มของเธอจึงไม่สามารถมองเห็นได้แบบตรงๆ “เนื่องจากรอยยิ้มจะหายไปทันทีที่เราพยายามจะ ‘จับ’ มัน เราจึงเรียกมันว่า ‘รอยยิ้มที่จับต้องไม่ได้’” Alessandro Soranzo และ Michelle Newberry แห่งมหาวิทยาลัย Sheffield Hallam เขียนไว้ในวารสารงานวิจัย

พวกเขาจึงทำการทดสอบว่า จริงๆ แล้วรอยยิ้มของพวกเธอเปลี่ยนแปลงไปจริงหรือไม่!? โดยการให้ผู้ทดลองหลายคนมองภาพโมนาลิซาและ La Bella Principessa ในระยะห่างที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีภาพวาด Portrait of a Girl ในยุคเดียวกันซึ่งถูกวาดในปี 1470 โดย Piero del Pollaiuolo

ผลการทดลองพบว่าเมื่อเห็นภาพชัดเจนน้อยลง ภาพโมนาลิซาและ La Bella Principessa จะดูเหมือนกำลังยิ้มชัดเจนขึ้น แต่ไม่เป็นอย่างเดียวกันนี้สำหรับภาพ Portrait of a Girl 

จึงสามารถสรุปได้ว่า รอยยิ้มในภาพวาดของดาวินชีจะปรากฎได้เมื่อผู้ชมไม่ได้ ‘โฟกัส’ ไปที่ริมฝีปากของพวกเธอ

นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังได้ทำการทดลองอีกอย่างหนึ่งเพื่อคลี่คลายข้อสงสัยว่า รอยยิ้มที่ลวงตานั้นเกิดขึ้นจากดวงตาหรือริมฝีปาก พวกเขาทำการคาดตาและปาก พบว่าเมื่อปิดปากรอยยิ้มลึกลับนั้นหายไป แต่เมื่อปิดตาก็ยังพบรอยยิ้มปริศนานี้อยู่

ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่ออีกว่าเป็นความตั้งใจของดาวินชีในการสร้างรอยยิ้มที่จับต้องไม่ได้นี้ และไม่น่าจะเกิดจากความบังเอิญแต่อย่างใด Soranzo ให้สัมภาษณ์ว่า “ดาวินชีเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิค จึงเชื่อได้ว่าเขาน่าจะตั้งใจสร้างรอยยิ้มปริศนาที่ลวงตาผู้ชมนี้ขึ้นมา”

และพวกเขายังเชื่อว่าดาวินชีค้นพบและใช้เทคนิคนี้มาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของเขาเองในการสร้างสรรค์ผลงาน เช่น Virgin of the Rocks ในปี 1483

ว่ากันว่าภาพ La Bella Principessa เป็นภาพของเด็กสาวอายุ 13 ปีที่ชื่อ Bianca Sforza บุตรสาวของ Ludovico Sforza ดยุคแห่งมิลาน ซึ่งจะต้องแต่งงานกับผู้บัญชาการกองทัพมิลาน แต่เธอได้เสียชีวิตลงเพียงหนึ่งเดือนหลังแต่งงานเนื่องจากเกิดสภาวะการตั้งครรภ์นอกมดลูก จึงทำให้สีหน้าและรอยยิ้มของเธอลึกลับซับซ้อนเกินกว่าเด็กสาวธรรมดาทั่วไป

Michael Pickard แห่งมหาวิทยาลัย Sunderland ได้ทำการวิเคราะห์งานของดาวินชีว่า “เขาทำงานและใช้ชีวิตร่วมกับชนชั้นสูงแห่งมิลานในขณะนั้น เขาจึงน่าจะรับรู้และตระหนักถึงความเจ็บปวดรวดร้าวของเด็กสาวที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความใสซื่อบริสุทธิ์และเยาว์วัยเนื่องจากชะตากรรมและการแต่งงานที่รอพวกเธออยู่” จึงเป็นไปได้ว่า ลีโอนาร์โด ดา วินชี ตั้งใจที่จะซ่อนรอยยิ้มของพวกเธอไว้ และนำเสนอมันออกมาในรูปแบบของการที่ “จับต้องไม่ได้” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ความรู้สึกภายนอกและภายในที่ขัดแย้งกันเด็กสาวในยุคนั้น

ที่มา: dailymail

#รอยยิ้ม
THEPOco
Associate Producer
สมาชิก VIPสมาชิก VIPสมาชิก VIP
12 มี.ค. 60 เวลา 02:51 3,987
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...