การปิดล้อมที่ยาวนานที่สุดในยุคในประวัติศาสตร์สงครามของญี่ปุ่นการปิดล้อมวัดฮงอันจิ ซึ่งกินเวลานานถึง 5 ปี

การปิดล้อมที่ยาวนานที่สุดในยุคในประวัติศาสตร์สงครามของญี่ปุ่น คือการปิดล้อมวัดฮงอันจิ ซึ่งกินเวลานานถึง 5 ปี แต่ถ้าจะนับการการเผชิญหน้ากับนิกายวัดฮงอันจิ จะกินเวลานานถึง 10 ปี (ค.ศ. 1570 - 1580) เป็นศึกที่ยาวนานที่สุดของปีศาจสงครามโอดะ โนะบุนะงะ แถมยังปราบไม่ได้เด็ดขาดอีกด้วย ต้องทำสัญญาสงบศึกเรื่องถึงจะจบได้



ใครไม่มีพื้นประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นต้องเท้าความก่อนว่า โนะบุนะงะเป็นขุนศึกยุคเซงโงะกุ หรือยุคสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่น มีปณิธานแรงกล้าที่จะรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว แต่ศัตรูของโนะบุนะงะมีทั้งพวกขุนศึกเจ้าแคว้นด้วยกันเอง และสถาบันทางศาสนา ที่มีทั้งบารมี (ทหาร) มีทั้งที่ดิน (เงิน) และมีเลกวัด (คน) โนะบุนะงะต้องปราบวัดเหล่านี้เพื่อยึดที่ดินและกำลังคน วัดเหล่านี้ยังเป็น "วิปฝ่ายค้าน" ของพันธมิตรต้านโนบุนะงะอีกด้วย เช่น วัดบนเขาฮิเอซัง ที่คอยให้ที่หลบซ่อนฝ่ายตรงข้าม ทั้งยังมีกองทัพทหารพระ โนบุนะงะจึงจัดการเผาเรียบตายไป 4000 กว่ารูป/คน



โนะบุนะงะเผาวัดฮิเอซังแล้วก็หันมาจัดการศัตรูตัวฉกาจคือพวกนิกายฌิน หรือนิกายโจโดฌินฌู (สัตยสุขาวดี ) มีศูนย์กลางที่วัดฮงอันจิ ปัจจุบันคือที่ตั้งของปราสาทโอซาก้า

 


แต่การกำจัดนิกายนี้ไม่ง่าย เพราะมีฐานกำลังเป็นพวกไพร่ หรือสามัญชนกระจายอยู่ทั่วประเทศ ต่างจากนิกายเทนไดบนภูเขาฮิเอซัง ที่เป็นนิกายของพวกชนชั้นสูงที่ถูกโนะบุนะงะกำราบจนหงอแล้ว ส่วนพวกสามัญชนชอบคำสอนนิกายสุขาวดี เพราะเข้าใจง่าย นักบวชเป็นพวกติดดิน และมีองค์กรที่ช่วยปลดปล่อยพวกนี้จากการเป็นทาสติดที่ดิน สลัดตัวอำนาจกดขี่ของพวกขุนศึก นิกายนี้มีการเคลื่อนไหวทั่วประเทศ แต่มีศูนย์กลางวัดฮงอันจิ มีเจ้านิกายคือท่านโคสะ หรือเคนเนียว



เคนเนียวว่ายังไง สาวกก็ว่าตาม นับถือกันว่าเป็นนิรมานกายของพระอมิตาภพุทธเจ้ามาโปรดกันเลยทีเดียว

แม้วัดฮงอันจิถูกปิดล้อม เคนเนียวแค่ส่งสาสน์ไปแคว้นต่างๆ พวกสาวก หรือ มอนโต (แปลว่าศิษย์ หรือ สาวก) ก็จะรวมพลังการมาช่วย เรียกว่าขบวนการอิกโก อิกกิ แม้จะเป็นแค่ไพร่แต่ทัพใหญ่อย่างโนบุนะงะยังพ่ายมาแล้ว ในรอบ 10 ปีของการปิดล้อมนิกายวัดฮงอันจิ โนะบุนะงะช้ำมาไม่รู้กี่ครั้ง ผิดกับการเผาวัดฮิเอซังแค่คืนเดียวก็เรียบร้อย



บางคนให้ภาพพวกมอนโต หรือ อิกโก มอนโต (เอกปณิธานศิษย์) เป็นพวกคลั่งศาสนา แต่ในทางสังคมแล้วพวกนี้เป็นขบวนการลุกขึ้นต่อสู้กับการกดขี่ โดยใช้หลักศาสนาพุทธที่จับต้องได้ (หรือพุทธศาสน์เพื่อการปลดปล่อย) มีวัดเป็นศูนย์กลางสังคมต่างจากนิกายอื่นๆ ที่วัดเป็นแขนขาของศักดินาเจ้าที่ดิน



ช่วงนั้นนิกายฌินไม่ได้รับการยอมรับนัก ถูกโจมตีว่าบิดเบือนพระธรรมวินัย ถึงกับแก้ไขให้นักบวชมีครอบครัวได้ แต่ชาวบ้านชอบเพราะนิกายนี้สอนว่าไม่ต้องปฏิบัติธรรมชั้นสูง หรือเข้าถึงสมเด็จใหญ่ๆ โตๆ ไม่ต้องบวชพระ แค่ท่อง นโม อมิตาพุทธๆ ก็ไปสุขาวดีหรือแดนพระนิพพานได้



เวลาโนะบุนะงะจะโจมตีวัดใหญ่ๆ จะอ้างว่า ทำเพื่อชำระพระศาสนาให้จำเริญสถาพร ก่อนที่จะทำศึกกับวัดฮงอันจิ ก็ประกาศตนเป็นผู้พิทักษ์ศาสนา (โกะโฮ) ส่วนเคนเนียวก็บอกว่าโนะบุนะงะเป็นพวกมารศาสนา (โฮเตกิ) และเรียกร้องให้บรรดาศิษย์สละชีวิตเพื่อปกป้องนิกาย สรุปแล้วอ้างศาสนาทั้งคู่



โนะบุนะงะไม่ได้สู้กับศาสนาพุทธ (ที่บิดเบือน) แต่สู้กับอุดมการณ์ทางการเมืองที่แพร่กระจายเหมือนไฟลามทุ่ง ดังนั้นเลยรบไม่ชนะสักที มิพักจะเอ่ยถึงการจับตัวเคนเนียวที่ปักหลักในวัดนานเป็นปีๆ ก็มีคนมาช่วยตลอด อย่าว่าแต่พวกไพร่เลย พวกซามูไรและขุนนางก็แอบเป็นสาวกนิกายนี้ ถึงกับหักหลังพันธมิตรโนะบุนะงะด้วยซ้ำเพราะศรัทธาในนิกายมีอำนาจเหนือบารมีทางการเมือง



หลังจากปิดล้อมวัดนาน 5 ปี ทำศึกยืดเยื้อ 10 ปีกับลัทธินี้ เคนเนียวก็ยอมสงบศึกกับโนะบุนะงะ โดยมี "ผู้ใหญ่"ช่วยไกล่เกลี่ย เคนเนียวจึงอพยพออกไปจากวัดฮงอันจิ ไปแล้วก็ยังเผาวัดทิ้ง โนะบุนะงะเลยไม่ได้ทั้งวัด ทั้งเจ้าอาวาส และสาวกยังอยู่ในเงื่อนไขนิรโทษกรรมอีกด้วย เรียกว่าโนะบุนะงะแพ้ก็ว่าได้ เพราะนิกายนี้ยังมั่นคงแถมยืนยงจนถึงปัจจุบัน มีสาวกมากเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น


สุดท้ายนิกายที่ถูกล่าวหาว่าบิดเบือนกับเจริญขึ้นๆ แต่นิกายดั้งเดิมที่ "ถูกต้อง" กลับเรียวลงๆ นี้่เป็นเรื่องพึงสังวรโดยแท้ นั่นเพราะเดินหมากผิดในทางการเมือง

ส่วนโนะบุนะงะ ทำการเผาวัดฆ่าพระ ปิดล้อมพุทธสถาน ข่มขู่สถาบันศาสนา ชีวิตวนเวียนกับศาสนาในทางแปลกๆ สุดท้ายลูกน้องยังหักหลัง ถูกล้อมฆ่าที่วัดฮอนโนจิ ตายในวัดนั่นเอง นับว่า Ironic เหลือเกิน



หากจะให้วิเคราะห์ความล้มเหลวในการปิดล้อมนิกายฌินของโนะบุนะงะ

1. โนะบุนะงะอ้างว่าการกำราบวัดต่างๆ เพื่อปกป้องพระศาสนา แต่ตัวเองกดขี่พุทธศาสนาอย่างหนัก เผาสถาบันหลักอย่างวัดบนเขาฮิเอซัง ส่งกำลังไปปิดล้อมภูเขาพุทธสถานโคยะซัง ที่ให้ที่พักพิงฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นเหตุผลของการปราบรามจึงฟังไม่ขึ้น ผู้คนล้วนทราบดีว่าทำไปเพื่อเหตุผลทางการเมือง

2. พันธมิตรทางการเมืองเพื่อต่อต้านโนะบุนะงะมองว่าวัดฮงอันจิเป็นใบบุญ (เรื่องกำลังคนชาวพุทธ) และศูนย์รวมจิตใจ (ในทางการเมือง) เมื่อถูกล้อมพวกศัตรูจึงพร้อมจะช่วยเหลือด้วยการเปิดศึกอีกแนวหนึ่งเพื่อตัดกำลังโนบุนะงะ

3. โนะบุนะงะไม่เข้าใจว่านิกายฌินแทรกซึมไปถึงไขกระดูกของตัวเอง ภายนอกเหมือนเป็นนิกายของพวกไพร่ที่ถูกกล่อมจนคลั่งศาสนา แต่จริงๆ มีพวกขุนนางนับถือเป็นจำนวนมากหากเก็บงำไว้ แม้แต่มือขวาของตัวเองก็มิวาย เมื่อโนะบุนะงะถูกลอบสังหาร ขุนศึกคู่ใจคือโทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ ครองอำนาจแทน แม่ของฮิเดะโยโชินับถือท่านเคยเนียวมากถึงขนาดกราบเท้าได้ เมื่อสิ้นเจ้านายฮิเดะโยชิเองเป็นคนเชิญท่านเคนเนียวกลับมาจากลี้ภัย แล้วถวายวัดให้ใจกลางเมืองหลวงกันเลยทีเดียว

4. อีกฝ่ายพร้อมจะถอยทัพหากเข้าตาจน แต่ไม่ได้เป็นการถอยแบบหมดรูปหากไม่ได้บีบโนะบุนะงะจนหมดท่าเช่นกัน และอาจกลับมาอีกครั้ง เพราะรู้ดีว่าแม้วัดจะถูกบุกแต่รากฐานที่แท้จริงไม่ได้ถูกทำลาย นั่นคือศรัทธาของบรรดาศิษย์นั่นเอง อีกทั้งกลุ่มการเมืองเบื้องหลังก็พร้อมจะสนับสนุนเสมอหากมีโอกาส ท่านเคนเนียวถึงจะถูกบีบให้ลี้ภัย แต่สุดท้ายก็ตายทีหลังโนบุนะงะ แถมยังได้เชิญเข้ามาตั้งลัทธิในเมืองหลวงอีกต่างหาก

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...