คาวบอยบนจอหนัง

 

ผมเป็นอีกคนหนึ่ง ครับที่โตขึ้นมาในยุคที่โทรทัศน์เพิ่งจะเข้ามามีบท
บาททดแทนวิทยุในฐานะสื่อสาระและบันเทิงประจำบ้าน ตอนผมเป็น
เด็กเริ่มดู โทรทัศน์เป็นนั้น ทีวีในกรุงเทพฯยังมีแค่ 2 ช่องเป็นขาวดำ
ออกอากาศในวัน ธรรมดาตั้งแต่ประมาณ 4 หรือ 5 โมงเย็นไปถึงสัก
สองยามเท่านั้น เสาร์อาทิตย์เพิ่มรอบเช้าตั้งแต่ประมาณ 10 โมงจน
ไปต่อรอบเย็น

รายการ บันเทิงทางทีวีในยุคนั้นก็หนีไม่พ้นหนังและละคร เช่นเดียว
กับยุคทีวีสี 6 ช่อง 24 ชั่วโมง ไม่รวมเคเบิลทีวีอย่างเดี๋ยวนี้ ที่ต่างกัน
ก็คือว่าหนังทีวี ส่วนใหญ่เป็นหนังฝรั่ง มีหนังซามูไรญี่ปุ่นแซมนิดหน่อย
(ซึ่งผมขออนุญาตไม่พูดถึงนะครับเพราะดูไม่น่าจะเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง
ที่ จะคุยกันวันนี้นัก) แรกๆก็มีความยาวแค่ตอนละครึ่งชั่วโมง มีโฆษณา
แต่ไม่ มหาโหดขนาดลุกไปอาบน้ำสระผมแล้วค่อยกลับมาดูต่อยังทัน
อย่างทุกวันนี้ หลังจากนั้นจึงขยายเป็นตอนละ 1 ชั่วโมง และกลาย
เป็นหนังสีไปในที่สุด

 

หนังฝรั่งทางทีวีเมื่อผมเป็น เด็กนั้นแน่นอนครับว่าเป็นหนังคาวบอยลูกทุ่งตะวันตกเสียมาก ผมเลยถือโอกาส
ใช้เรื่องหนังนี้รื้อฟื้นอดีตนำทางย้อนไปสู่ยุคคาวบอยเสียก่อนเป็นการอุ่น เครื่อง รวมทั้งชวนท่านผู้อ่านที่ชอบปืน
ยุคคาวบอยนี้สนุกสนานไปกับ เรื่องต่างๆทั้งจริงและไม่จริงในหนัง เรื่องเกี่ยวกับเจ้าของปืน และเกล็ดเล็กๆ
น้อยๆที่น่าสนใจไปด้วยพร้อมๆกัน ผมเชื่อครับว่ามีแฟนปืนหลายท่านที่ชอบดูหนังคาวบอยมาตั้งแต่เด็กๆ
และ ชอบดูลีลาของตัวเอกเจ้าของปืนในหนังด้วย ตัวเอกในหนังเหล่านี้หลายเรื่องอ้างอิงถึงบุคคลจริงในประวัติ
ศาสตร์ที่มีชีวิตโลดโผนตื่นเต้นเร้าใจน่าติดตามยิ่งกว่านิยายเสียอีก

หนัง คาวบอยทางทีวีสมัยนั้นสร้างลอกเลียนออกมาแข่งกันเป็นรุ่นๆ รุ่นแรกๆมักเป็นแบบฮีโร่เก่งคนเดียว หลาย
เรื่องอ้างอิงถึงตัวจริงในประวัติศาสตร์อย่างที่กล่าวไปแล้ว เช่นเรื่อง The Life and Legend of Wyatt Earp ที่
Hugh O'Brian รับบทบาทเป็น Wyatt Earp รูปร่างหน้าตาในหนังสำอางค์เกลี้ยงเกลาหล่อเฟี้ยวไม่เหมือนกับ
ตัวจริงสักนิดเดียว อีกเรื่องที่ฮิตพอๆกันคือ Bat Masterson แสดงโดย Gene Barry ซึ่งก็หล่อแซงตัวจริงอีก
เหมือนกัน แถมมีการชักดาบออกมาจากไม้เท้าประจำตัวได้ด้วย แต่สมัยนั้นเรื่องเหมือนไม่เหมือนดูจะไม่สำคัญ
นักหรอกครับ ส่วนใหญ่ต้องหล่อไว้ก่อน แล้วก็เน้นในเรื่องของธรรมะต้องชนะอธรรมเป็นหลัก จนนายอำเภอ
Wyatt Earp กลายเป็นฮีโร่ของเด็กผู้ชายในสมัยนั้นกันอย่างแพร่หลาย (รวมทั้งผมด้วย) ส่วน Bat Masterson นั้น
ในประวัติจริงก็เคยทำงานเป็นผู้ช่วยนายอำเภอของ Wyatt Earp คอยปราบปรามเหล่าร้ายที่เมือง Dodge City
ด้วยกันมาก่อน และหลังจากที่ Wyatt ย้ายไปทำมาหากินเปิด Saloon อยู่ที่ที่เมือง Tombstone และทำหน้าที่มือ
กฎหมายไปพร้อมกัน ก็ได้ชักชวนให้ Bat ตามไปเป็นหุ้นส่วนด้วยอยู่ระยะหนึ่ง

         

ไวย์แอท เอิร์บ ในทีวีแสดงโดย ฮิวก์ โอ ไบรอัน

       

ไวย์แอท เอิร์บ ตัวจริงเมื่ออายุ 21

     

โคลท์บันไลน์ สั่งทำพิเศษ ปืนคู่ใจไวย์แอท

 

ถึงตรงนี้มีสิ่งน่าสนใจอย่าง หนึ่งเกี่ยวกับมือปืนตะวันตกสองคนนี้ที่แตกต่างไปจากมือปืนรายอื่นๆ คือทั้งคู่มีชีวิต
อยู่ไปจนเลยยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งพวกเราทราบกันดีว่าตอนนั้นในอเมริกามีรถยนต์ขี่แทนม้ากันทุกแห่งหน
อาวุธ ปืนทั้งสั้นและยาวก็มีการพัฒนารูปแบบและเทคโนโลยีเลยไปอีกขั้นหนึ่ง ถึงเวลานี้ทั้งคู่ตัดสินใจเลิกดวล
ปืนกับผู้ร้ายไปแล้ว โดย Wyatt Earp ในวัย 60 กว่า หันไปทำมาหากินเกี่ยวกับการค้าขายที่ดิน ก่อนขยับขยายไป
ทำ เหมืองแร่ ตามด้วยขุดน้ำมันในรัฐ California จนแก่ตายไปเมื่ออายุ 81 ปีที่เมือง Los Angeles ส่วน Bat
Masterson นั้น หลังจากเป็นหุ้นส่วนเปิดบ่อนร่วมกับ Wyatt Earp ที่เมือง Tombstone อยู่ระยะหนึ่งก็แยกตัวไป
ทำมาหากินที่อื่น กับรับหน้าที่มือกฎหมายของรัฐ Colorado ไปด้วย แต่ในที่สุดก็เบื่อหน่ายกับชีวิตที่ต้องเสี่ยง
ตายอยู่ตลอดเวลา หันไปใช้ชีวิตเป็นบรรณาธิการข่าวกีฬาให้กับหนังสือพิมพ์ New York Morning Telegraph ที่
New York แทน และป่วยตายไปเมื่ออายุ 68 สรุปได้ว่าทั้ง 2 คนนี้ตายเองด้วยเหตุธรรมชาติ ไม่เหมือนกับมือปืน
ดังๆรายอื่นๆส่วนใหญ่มักตายตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 40 และตายในลักษณะที่เขาใช้สำนวนว่า Died with his boots on
ก็คือเป็นไข้ โป้งถูกคนอื่นยิงตายข้างถนนบ้างในบาร์เหล้าหรือในบ่อนบ้างนั่นแหละครับ ไม่มีโอกาสนอนตายบน
เตียงให้สบายๆหน่อยโดยไม่ต้องใส่รองเท้า

Wyatt Earp นั้นถือว่าเป็นตำนานอมตะและพระเอกตลอดกาลของผู้นิยมหนังคาวบอยและชื่นชอบ ชีวิตลูกทุ่งตะวันตก
มีการนำเรื่องของมือปืนหนวดงามหนังเหนียวคงกระพันรายนี้มาทำเป็นภาพยนต์จอ เงินมากมายหลายเรื่อง บาง
เรื่องที่ดังมากๆก็มีฉายในบ้านเราด้วย ผมเชื่อว่าคอหนังคาวบอยทั้งหลายคงจำเรื่อง Gunfight at OK Corral ที่
นำมาฉายในเมืองไทยเมื่อสัก 30 ปีก่อน มี Burt Lancaster แสดงเป็น Wyatt Earp (ที่ไม่มีหนวดอีกเหมือนกัน)
ล่าสุด เมื่อ 6-7 ปีก่อนนี้เองก็มีเรื่อง Tombstone เล่นโดย Kurt Russel ตามมาติดๆด้วยเรื่อง Wyatt Earp เล่นโดย
Kevin Costner ที่ถือได้ว่าเป็นภาพยนต์อัตตชีวประวัติของ Wyatt Earp ที่สมบูรณ์ใกล้เคียงความจริงที่สุด ทั้ง 2
เรื่องใหม่นี้ผู้สร้างพยายามแต่งหน้าแต่งตา ติดหนวดและจัดเครื่องแต่งกายให้เหมือนตัวจริงในยุคนั้นอย่างเต็มที่
รวม ทั้งวิธีการพกและใช้ปืนในการดวลและล่าเหล่าร้ายกันจริงๆด้วย ถือเป็นหนังที่ดูมันส์ทีเดียว แถมยังมีแก๊กตลก
ให้ฮาได้อีก อย่างเช่นในเรื่อง Tombstone ที่ Val Kilmer เล่นเป็น Doc Holliday หมอฟันนักพนันผู้จงรักภักดีต่อ
Wyatt Earp ที่มีความสามารถพิเศษแม่นทั้งปืนและมีด (ทั้งๆที่ป่วยเป็นวัณโรคแถมด้วยพิษสุราเรื้อรัง) แสดงลีลา
ควงจอกเหล้า แทนปืนเยาะเย้ยคู่ปรับคือ Johnny Ringo ให้ได้อึ้ง นับได้ว่าเป็นฉากคลาสสิคฉากหนึ่งทีเดียว

ส่วน Bat Masterson นอกจากที่เป็นหนังทีวีแล้ว ผมยังนึกไม่ออกว่ามีใครนำไปสร้างเป็นตัวนำในหนังเรื่องอื่นอีก
เท่าที่เห็นก็มีอยู่หน่อยหนึ่งในเรื่อง Wyatt Earp ช่วงที่เป็นผู้ช่วยอยู่ที่เมือง Dodge City แต่โดยรวมๆนอกจากเป็น
มือปืนที่ต้องถือไม้เท้า (ตามประวัติบอกว่าเพราะเคยถูกยิงกระสุนเจาะเข้าที่สะโพกจากการดวล ทำให้ต้องถือไม้
เท้าช่วยให้เดินถนัดขึ้น และใช้ฟาดกบาลเหล่าร้ายควบไปกับการใช้ปืนด้วย แต่ไม่ใช่เอาไว้ชักดาบอย่างในหนัง)
แล้ว บทบาทและสีสันโดยรวมในฐานะของมือปืนตะวันตกคงไม่ตื่นเต้นเร้าใจเท่ากับราย อื่นๆ จึงไม่เป็นที่สนใจ
ของนักสร้างหนังมากนัก

         

แบท แมทเทอร์สัน ตัวจริง

       

แบท แมทเทอร์สัน ในทีวี

หนังคาวบอยทางทีวีที่อ้างอิง ตัวจริงตามประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่อง The Legend of Jesse James
แสดงโดย Chris Jones ในบทของ Jesse James และ Allen Case ในบทของ Frank James หนังพยายาม
วาดภาพของพี่น้อง Frank และ Jesse ในลักษณะของผู้บริสุทธิ์แต่ถูกอำนาจรัฐกลั่นแกล้ง ต้องกลายเป็นพวก
นอกกฎหมายออกมาสร้างความยุติธรรมเองด้วยการปล้นคนรวยมาช่วยคนจน ในความเป็นจริงแล้ว Jesse
James จะเป็นพระเอกหรือผู้ร้ายกันแน่คงหาข้อยุติได้ยาก เพราะไม่เหมือนกับ Wyatt Earp ที่ไม่เคยปล้นใคร มีแต่
คอยไล่จับโจรปล้นม้าปล้นวัวเป็นหลัก (แต่ที่จริงก็เป็นเจ้าของบ่อนและเป็นนักพนันตัวยงคนหนึ่งเหมือนกันนะครับ
ตรง นี้น่าคิดเหมือนกัน) ที่แน่ๆถ้าใช้ศัพท์สมัยใหม่ก็ต้องบอกว่า Jesse James เป็นอาชญากรตามหลักนิติศาสตร์
ส่วนหลักรัฐศาสตร์ที่ทางการสมัยนั้นใช้ก็คือจับตายลูกเดียวโดยไม่ต้องรอทำ ประชาพิจารณ์

แต่ Jesse ก็ไม่ได้ตายด้วยมือกฎหมาย กลับตายเพราะถูกญาติทรยศชื่อ Bob Ford แอบยิงข้างหลังเพื่อเอาเงิน
รางวัลค่าหัว ในหนังทั้งจอแก้วและจอเงินอื่นๆทุกเรื่องจะพิถีพิถันกับ climax ในฉากจุดจบของ Jesse James นี้
เป็นพิเศษ โดยตามเหตุการณ์จะเดินเรื่องว่า Jesse ตัดสินใจเลิกปล้นฆ่า และปลูกบ้านใหม่เตรียมใช้ชีวิตอย่าง
สงบอยู่กับลูกเมีย วันหนึ่ง Bob Ford ทำทีเป็นมาเยี่ยม ขณะที่ Jesse กำลังปีนเก้าอี้แขวนรูปติดข้างฝา หันหลัง
ให้ก็ถูก Bob ยิงเข้าที่หัวอย่างเลือดเย็นโดยไม่รู้ตัว Jesse เลยต้องจบชีวิตแบบที่เรียกว่า Died with his boots on
เสียตั้งแต่อายุเพิ่งจะ 35 หลังจาก Jesse ถูกญาติตัวเองทำวิสามัญไปแล้ว Frank ผู้พี่ชายซึ่งเคยกอดคอกันร่วม
เป็น ร่วมตายในการปล้นและดวลกับพวกมือปราบด้วยกันมาตลอดก็คงจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เลยตัดสินใจเข้ามอบ
ตัวกับทางการ หลังจากถูกพิพากษาและปล่อยตัวแล้ว ก็ออกมาทำงานเป็นยามเฝ้าประตูโรงละครแห่งหนึ่งในเมือง
St Louis ไปจนบั้นปลายของชีวิต

     

เจสซี่ เจมส์

         

ปืนโคล์ท พีซซเมคเกอร์คู่มือของบ็อบ ฟอร์ด
ที่ยิงเจสซี่ เจมส์

หนังเกี่ยวกับ Jesse James ส่วนใหญ่เป็นหนังโรง สร้างออกมาหลาย version มากครับ รวมกันแล้วตั้ง 30 กว่า
เรื่อง ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งคือเรื่อง The Long Riders สร้างเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว หนังไม่ได้เน้นที่พี่น้องตระกูล
James อย่างเดียว แต่เน้นบทบาทของพี่น้องตระกูล Younger อันประกอบด้วย Cole Bob และ Jim สามคนนี้
เป็นทั้งญาติและสมุนคู่ใจของ Jesse ที่ออกปฏิบัติการเคียงบ่าเคียงไหล่กันตลอด จนในที่สุดคนหนึ่งตายและอีก
สอง คนเจ็บหนักและถูกจับหลังจากการปล้นธนาคารที่ เมือง Northfield ในรัฐ Minnesota เพราะพลาดท่าถูกพวก
นักสืบ Pinkerton และทางการสืบรู้แผนปล้นเสียก่อนจนสามารถวางกำลังรับมือไว้โดยไม่ต้องล่อเข้า มาให้ติดกับ
หนังเรื่องนี้มีเก๋อีกอย่างคือดารานำที่แสดงเป็นพี่น้อง ตระกูล Younger ทั้งสามคนจะเป็นดาราที่ใช้นามสกุล
Carridine เหมือนกัน นำโดย David (จำพระเอกเรื่องกังฟูทางช่อง 3 ได้ไหมครับ) อีก 2 คนถ้าจำไม่ผิดก็เป็น Robert
กับ Kieth และเช่นเดียวกันดาราที่เล่นเป็น Jesse กับ Frank James ก็ต้องนามสกุลเดียวกันด้วย ได้แก่ James กับ
Stacy Keach

 

ประกาศจับพี่น้อง ตระกูล ยังเกอร์

     

ปืนโคล์ท .44 คู่มือของ โคล ยังเกอร์

 

หนังทีวียุคต่อมาก็เปลี่ยน เป็นใช้วิธีปั้นตัวพระเอกขึ้นมาเองโดยอิงความเกี่ยวข้องกับบุคคลในยุคนั้น เช่นเรื่อง
Colt .45 นำแสดงโดย Wayde Preston ในบทบาทหลานของ Samuel Colt ผู้ผลิตปืนลูกโม่ยอดนิยมในสมัยนั้น
ที่ฉาก หน้าเป็นเซลส์แมนตระเวนไปทั่วดินแดนตะวันตกเพื่อขายปืน Colt แต่ฉากหลังเป็นสายลับรัฐบาลคอยกำจัด
พวกอิทธิพล (หนังเรื่องนี้ถือโอกาสเอาปืน Colt รุ่น Peacemaker มาโฆษณาใหม่ด้วยครับ แม้จะช้าไปเกือบร้อยปี
ก็ตาม) บางเรื่องมีการปั้นตัวเอกกันขึ้นมาเองเป็นตุเป็นตะไม่อ้างอิงถึงใครทั้งสิ้น เช่นเรื่อง Have Gun Will Travel
แสดงโดย Richard Boone ในบท Paladin นักสืบเอกชนที่ปกติพักโรงแรมใช้ชีวิตหรูหราอยู่ใน San Francisco
แต่รับสืบคดีความทั่วราชอาณาจักรในดิน แดนที่ยังต้องตัดสินปัญหากันด้วยปืน ทุกครั้งที่ออกปฏิบัติการจะต้อง
แต่งชุดคาวบอยสีดำทั้งชุด (ไม่รู้ว่าได้อิทธิพลมาจากเรื่องเสือใบกับโจรเชิ้ตดำหรือเปล่า) แล้วก็มีเรื่อง Gunsmoke
หรือควันปืน มี James Arness เล่นเป็นนายอำเภอ Matt Dillon แห่งเมือง Dodge City (ที่ไม่เคยเจอะเจอกับ Wyatt
Earp เลยทั้งๆที่อยู่เมืองเดียวกัน) หนังเรื่องนี้ฮิตติดเรทติ้งทางทีวีและทำสถิติหนังทีวีที่ฉายหลายตอนติดต่อ กันนาน
ที่สุดในอเมริกา จนมีการนำชื่อหนังไปตั้งเป็นชื่อถนนสายเมนในเมือง Dodge City ปัจจุบันว่า Gunsmoke
Boulevard หลังจากที่มีถนนชื่อ Wyatt Earp Boulevard อยู่ก่อนแล้ว

     

Wayde Preston ในเรื่อง Colt 45

หลายเรื่องมีการนำมาสร้างใหม่ อีกครับ อย่างเช่น Maverick มือปืนนักเล่นไพ่โป๊กเกอร์ไหวพริบดีที่ไม่ชอบการ
ดวลปืนหากไม่จำเป็น ซึ่งเมื่อ 5-6 มานี้ก็สร้างเป็นหนังใหญ่โดย Mel Gibson เล่นเป็น Maverick ส่วน James
Garner ที่เป็น Maverick ตัวจริงในยุคทีวีหนนี้ข้ามไปเล่นเป็นพ่อของ Maverick แทน อีกเรื่องหนึ่งที่เพิ่งเอามา
ทำใหม่ปีสองปีนี่เองคือเรื่อง The Wild Wild West ซึ่งเรื่องเดิมทางทีวีนั้นก็สร้างเป็นหนังคาวบอยในบรรยากาศ
แบบ James Bond กึ่ง fantasy อยู่แล้ว ต่างกันที่ตัวพระเอก Jim West สมัยทีวีเป็นคนขาวเล่นโดย Robert
Conrad ซึ่งก็บู๊พอๆกันแต่ไม่ตลกร้ายเท่า Wil Smith

หนังบางเรื่องก็เน้นจุดขายนอกเหนือไปจากตัวพระเอกแล้วยัง มีการแต่งเติมเพิ่มสีสัน (หรือโม้นั่นแหละครับ)
เกี่ยวกับปืนคู่ใจหรือฝีมือการยิงปืนของพระเอกเข้าไปให้ดูแล้วมันส์ในอารมณ์ มากขึ้นไปอีก อย่างเช่นเรื่อง
Wanted Dead or Alive หรือในภาษาไทยว่าไอ้ปืนโต ที่พระเอกคือ Steve McQueen รับบท Josh Randall นัก
ล่าเงินรางวัลที่พกปืนวินเชสเตอร์คานเหวี่ยงตัดลำกล้องตัดพานทายออกติดเอว ไว้ใช้แทนปืนสั้น หรือเรื่อง The
Rifleman ในภาษาไทยว่าสุภาพบุรุษปืนยาว พระเอกคือ Chuck Conners เล่นเป็น Lucus McCain พ่อหม้าย
ลูกติดเจ้าของไร่ที่รัวปืนวินเชสเตอร์คานเหวี่ยงยิงกับเหล่าร้ายได้เร็วกว่า ตบปืนสั้นเสียอีก ท่านใดเคยเอาปืนคาน
เหวี่ยงไปตัดเล่นเป็นไอ้ปืนโต หรือเอาปืนคานเหวี่ยงไปโมดิฟายลงแข่งชนะ Rapid Fire มาแล้วละก็ลองเล่าสู่
กันฟังบ้างสิครับ

นอกจากนี้ก็มี หนังอีกหลายเรื่องที่ทำตามๆกันออกมาในลักษณะของชีวิตครอบครัวใหญ่กับการผจญ ภัยในทุ่ง
กว้าง อย่างเรื่อง The Virginian เรื่อง The High Chaperral เรื่อง The Big Valley แต่เรื่องที่ฮิตที่สุดและดังไป
จน ถึงอำเภอปากช่องทุกวันนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่อง Bonanza นะครับ เพลงไตเติ้ลยังติดหูอยู่จนทุกวันนี้ และอีก
เรื่องหนึ่งที่ไม่พูดถึงเลยคงจะไม่ได้ ก็คือเรื่อง Rawhide จำได้ไหมครับ เสียงแซ่ เสียงฝูงวัว Rolling Rolling
Rolling แล้วก็ Clint Eastwood ตอนนั้นเพิ่งจะเล่นหนังคาวบอยเป็นครั้งแรกยังรับบทเป็นลูกหาบอยู่เลย แต่
ก็เริ่มฉายแววให้เห็นแล้วว่าต่อไปจะ ต้องดังแน่

                                           

รวมดาราหนังคาวบอยทีวี (สังเกตเข็มขัดปืนแบบฮอลีวูด ดีไซน์)

     

Have Gun Will Travel

   

มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ พูดถึงนะครับ จำไม่ได้เลยบ้าง จำได้ลางๆบ้าง หลายท่านอ่านแล้วอาจจะนึกออกหรือจำได้
มากกว่าที่ผมเล่าไปแล้วเสียอีก แต่มาถึงตรงนี้ก็คิดว่าบรรยายมามากพอแล้ว สมควรที่จะมาดูรูปกันบ้างว่าทั้งคนและ
ปืนหน้าตาเป็นอย่างไร ฉบับต่อไปหากยังไม่เบื่อ ผมจะคุยต่อถึงชีวิตของมือปืนตัวจริงทั้งหลายทั้งที่เอ่ยถึงไปแล้วและ
รายดังๆอื่นๆที่ยังไม่ได้เอ่ยถึงอีกหลายคน กับรายละเอียดของปืนคู่มือที่พกติดตัวหรือใช้กันเป็นประจำจนกลายเป็น
ตำนานกันอีกทีนึง ทั้งนี้คุณธัชรวี นักทดสอบปืนผู้เชี่ยวชาญทั้งปืนรุ่นจ๊าบและรุ่นเดอะทุกประเภท รับปากมาว่าจะหา
ของจริง (หรืออย่างน้อยก็เหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะหาได้) มาทดสอบรายงานผลให้แฟนๆของ Thailand Outdoor
ได้ติดตามกันด้วย อย่าพลาดนะครับ

   

มาแชล์ต่อ ศักดิ์
สิงหาคม 2544

     

ตีพิมพ์ครั้งแรก ในนิตยสารกันส์เวิล์ด ฉบับที่ 43ประจำเดือน มีนาคม 2544

 
#คาวบอย
Messenger56
ผู้กำกับภาพ
สมาชิก VIPสมาชิก VIP
14 มิ.ย. 53 เวลา 15:10 4,518 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...