ทุ่งนาขั้นบันไดในยูนนาน เทือกเขาเทียนซานในซินเจียง มรดกโลกทางธรรมชาติลำดับที่ 31

ทุ่งนาขั้นบันได ประเทศจีน

มหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันเกิดจากอารยธรรมโบราณที่สืบทอดต่อมาอย่างยาวนานของชาวจีนท้องถิ่น ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2013 จากองค์การยูเนสโก

 

ทุ่งนาขั้นบันไดฮาหนี (Hani Rice Terraces/ 哈尼梯田) ขนาด 13,190 เฮกเตอร์ ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกเขตหงเหอ เมืองหยวนหยาง มณฑลอวิ๋นหนันทางภาคตะวันตกกเฉียงใต้ของจีน มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ซ่อนเร้นกลิ่นอายวัฒนธรรมการดำรงชีวิตของชาวจีนพื้นถิ่น ที่ทำการเพาะปลูกแบบขั้นไดตามลักษณะของภูมิประเทศ

ความสวยงามของภูมิทัศน์โดยรอบ และสะท้อนวัฒนธรรมวิถีชีวิตของเกษตรกรจีน

โดยในกระทู้พันทิพที่คุณ โรตีกล้วยไข่ไม่ใส่นมข้น ได้ลงไว้เมื่อ 18 มกราคม 2558 พาเราไปสัมผัสกับมนต์ขลังของหมู่บ้านฮาหนีและทุ่งนาแห่งนี้ครับ

 

บนเทือกเขาแห่งนี้ มีนาขั้นบันไดหลายจุดด้วยกัน แต่ละจุดมีความสวยงามอลังการแตกต่างกันไปคนละแบบ

 

น้ำในนาขั้นบันไดจะสะท้อนสีของท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตลอดทั้งวัน ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก น้ำจะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ในขณะที่ตอนกลางวัน น้ำจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าครามตามท้องฟ้านั่นเอง

 

เมืองหยวนหยาง เป็นเมืองที่ตั้งบนเขาสูง อากาศจึงค่อนข้างสบายตลอดปี ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนของทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองนี้เป็นจำนวนมาก

 

เดินเลาะตามหมู่บ้าน ฮานิ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยทุ่งนาขั้นบันได

 

ระหว่างทางเดิน สามารถพบเห็น หมุดำ (คุโรบุตะ- -? ) เป็นสิบๆ ตัว และ เป็ด ไก่ ตัวอ้วนพี

 

 

แหล่งน้ำธรรมชาติของชาวบ้าน สามารถตักดื่ม ล้างผัก กันได้เลย หมุ่นอเมริกาขอกรองดื่มด้วยคะ เขาลองเอาเครื่องวัดน้ำมา ปรากฏ บริสุทธิ์ ดื่มได้จ้า

 

คุณ A Year of Slow ได้อธิบายประสบการณ์ครั้งเดินทางไปยูนาน ตอนที่ 2 ว่า

หยวนหยาง หรือเมืองแห่งนาขั้นบันไดทางตอนใต้ของยูนนานนี้ เกิดจากน้ำมือมนุษย์ที่ใช้เวลาสร้างมานานหลายร้อยปี หยวนหยางในปัจจุบันมีส่วนที่เป็นหยวนหยางเก่าและหยวนหยางใหม่ ส่วนที่เราไปคือหยวนหยางเก่า ตั้งอยู่บนเขาสูง เป็นที่อยู่ของชนเผ่าฮานี ชนเผ่าฮานีนี้ในอดีตอยู่อาศัยทางตอนเหนือของยูนนาน แต่ด้วยความที่รบไม่เก่ง จึงถูกพวกมองโกลรุกราน ถอยร่นลงมาเรื่อยๆ จนลงมาถึงทางใต้ของยูนนาน และหนีขึ้นไปอยู่อาศัยบนเขาสูง จึงรอดพ้นจากการรุกรานของศัตรู ชาวฮานีคิดหาวิธีทำการเกษตรบนเขาที่ลาดชันด้วยการทำนาขั้นบันได โดยเริ่มทำกันมาตั้งแต่เมื่อหลายร้อยปีก่อน จนปัจจุบันเทือกเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยนาขั้นบันไดขนาดใหญ่หลายจุด บางจุดมีขั้นบันไดถึงกว่า 3,000 ขั้นด้วยกัน

จุดชมวิวปากเสือ (Laohuzui) จุดนี้ต้องเดินไกลสักหน่อย แต่รับประกันว่าเมื่อไปถึงแล้วจะรู้สึกคุ้มค่าเหนื่อยเป็นที่สุด ที่จุดชมวิวปากเสือนี้ เรามองเห็นหุบเขาขนาดใหญ่ ด้านล่างเป็นนาขั้นบันไดกว้างหลายพันไร่ ชาวนาปลูกพืชผักชนิดต่างๆเป็นสีสันสวยงาม ส่วนใหญ่เป็นพืชที่เลี้ยงในน้ำ เพราะฤดูนี้เป็นฤดูที่ชาวนาใส่น้ำไว้เต็มนาขั้นบันได ว่ากันว่าฤดูนี้แหล่ะที่หยวนหยางสวยที่สุด เพราะน้ำในนาขั้นบันไดจะสะท้อนสีของท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตลอดทั้งวัน ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก น้ำจะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ในขณะที่ตอนกลางวัน น้ำจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าครามตามท้องฟ้านั่นเอง

ธรรมชาติและทัศนียภาพของที่นี่สวยงามเกินกว่าที่ฉันจะสามารถจินตนาการได้หากไม่ได้มาเห็นกับตาตนเอง ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของ Aldous Huxley นักเขียนชื่อดังผู้เขียนนิยายคลาสสิคอย่าง Brave New World ที่กล่าวไว้ว่า “To travel is to discover that everyone is wrong about other countries.” หรือการท่องเที่ยวทำให้เราค้นพบว่าทุกคนมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับประเทศอื่น บางทีสิ่งที่เราได้อ่านได้ฟังเกี่ยวกับประเทศต่างๆนั้นอาจจะจริง และบางทีมันก็อาจจะไม่จริง แต่ความสนุกมันอยู่ตรงที่เรามีสิทธิ์เดินทางไปพิสูจน์ความจริงด้วยตัวของเราเองมากกว่า

A Year of Slow

ที่มา: https://www.facebook.com/livelylifegazine/photos/a.504867646370415.1073741838.257221694468346/504867679703745/?type=3&theater

http://pantip.com/topic/33116329

https://ayearofslow.com/tag/นาขั้นบันไดหยวนหยาง/

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...