บอร์ด
กระทู้: AOT โชว์เที่ยวบินฟื้นตัวชัดเจน 33% ปีหน้ารับรู้รายได้คิงเพาเวอร์

ข้อเท็จจริงอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบ หรืออาจไม่ได้นึกถึงคือ ตามสัญญาสัมปทาน ทอท. ที่ประมูลดิวตี้ฟรีในสนามบิน ทอท. มีหน้าที่จะต้องทำให้ผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการสนามบินเยอะๆ ก็คือก่อนประมูลเขาจะมีตัวเลขประมาณการไว้ ว่าภายในระยะเวลาแต่ละปี หรือระยะเวลาสัมปทาน จะมีผู้โดยสารเข้ามาใช้สนามบินเท่าไหร่ ก็เพื่อให้ผู้เข้าประมูลได้เอาจำนวนนี้ไปคำนวณศักยภาพของตนเอง ว่าจะสามารถจ่ายค่าตอบแทนผลประโยชน์ให้กับ ทอท. ได้ปีละเท่าไหร่

 

แต่เมื่อโควิดเข้ามา ก็มีเหตุที่ทำให้ผู้โดยสารไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เท่ากับว่า ทอท.เอง ก็ไม่สามารถทำให้สนามบินมีผู้โดยสารได้เท่ากับจำนวนที่ให้ไว้ ณ ตอนประมูล ส่วนสาเหตุก็อย่างที่เราทราบกันดีนั่นแหละ

แลเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่ดิวตี้ฟรีที่ชนะการประมูล นั่นก็คือ คิงเพาเวอร์ จะให้มีรายได้ ศักยภาพที่จะทำกำไรก็ลดลง แทบจะไม่ต้องมาอธิบายกันให้ยุ่งยากด้วยซ้ำไป ในเมื่อ ทอท. ไม่สามารถทำได้ คิงเพาเวอร์ขายของไม่ได้ โอกาสที่คิงเพาเวอร์จะต้องออกจากการดำเนินธุรกิจในสนามบินก็มีมากใช่ไหม

แต่พอมองในมุม ทอท. ถ้าให้คิงเพาเวอร์ออกจากสนามบิน แล้วมีการประมูลใหม่ ใครจะอยากมาประมูล?? เชื่อได้เลยว่าคงไม่มีใครกล้าให้ผลตอบแทน ทอท. เท่ากับสัญญาเดิมที่คิงเพาเวอร์ประมูลแน่ๆ ก็สถานการ์เป็นเช่นนี้ ทอท. จึงเลือกที่จะเยียวยาคิงเพาเวอร์ และร้านค้าในสนามบิน เพื่อให้ทุกคนอยู่เหมือนเดิม มันก็น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ตอนที่ไม่มีผู้โดยสารทุกคนก็ขาดรายได้ ทอท. ก็มีหน้าที่เยียวยา ถ้าสถานการณ์กลับมาดีขึ้น ก็แค่กลับไปตามสัญญาผลตอบแทนเดิมแค่นั้นเอง

และในเมื่อสถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้นตามข่าว ก็เป็นไปได้อย่างสูงที่สถานการณ์ทุกอย่างทั้ง ทอท.เอง คิงเพาเวอร์ ผู้ประกอบการในสนามบิน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศ จะกลับมาแข็งแรงได้เหมือนเดิมอีกครั้ง แต่อาจจะไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่อย่างน้อย มันก็ดีขึ้นกว่าเดิมแหละหน่า

AOT ผู้โดยสาร-ปริมาณเที่ยวบินฟื้นตัวต่อเนื่อง เป้าผู้โดยสารปี 2565 รวม 45.6 ล้านคน ฟื้นตัว 33%ปริมาณเที่ยวบินฟื้น 45% ขณะที่ปี 2566 ผู้โดยสารโตโดด 95.70 ล้านคน ฟื้น 68% เที่ยวบินฟื้น 74% ก่อนกลับสู่ปกติ 141.51 ล้านคน ปี 2567 นักวิเคราะห์มองเป็นสัญญาณบวก เตรียมรับรู้รายได้ค่าเช่าพื้นที่คิงเพาเวอร์ใหม่ปี 2566

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า คณะกรรมการบริษัท เมื่อวันพุธที่ 22มิถุนายน 2565 ที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานการจัดทำประมาณการการจราจรทางอากาศฉบับใหม่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยใช้ฐานผู้โดยสารที่เกิดขึ้นจริงในปี 2565 ประกอบกับข้อมูลการขอจัดสรรตารางการบินฤดูหนาวในเดือนตุลาคม 2565 (ฤดูกาลท่องเที่ยวปีงบประมาณ 66) ที่ยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเที่ยวบินจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อใช้ประกอบการดำเนินงาน

โดยบริษัทคาดว่า ในปีงบประมาณ 2564/2565 สิ้นสุดกันยายน 2565 จะมีผู้โดยสารรวม 45.60 ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 12.53 ล้านคน, ในประเทศ 33.07 ล้านคน ฟื้นตัวประมาณ 33% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561/2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19และมีปริมาณเที่ยวบินรวม 402,970 เที่ยวบิน ฟื้นตัวประมาณ 45% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561/2562

 

สำหรับปีงบประมาณ 2565/2566 ทอท.คาดว่าจะมีผู้โดยสารรวม 95.70ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 48.48 ล้านคน, ในประเทศ 47.22 ล้านคน ฟื้นตัวประมาณ 68% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561/2562 และปริมาณเที่ยวบินคาดว่ามีจำนวนรวม 664,796 เที่ยวบิน ฟื้นตัวประมาณ 74% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ 2561/2562

 

โดยทั้งปริมาณผู้โดยสารจะฟื้นตัวใกล้เคียงกับปีงบประมาณ 2561/2562 ได้ในปีงบประมาณ 2566/2567 ที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารรวม 141.51ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 84.90 ล้านคน, ในประเทศ 56.61 ล้านคน และคาดว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินรวม 892,414 เที่ยวบิน

อย่างไรก็ตาม การทบทวนประมาณการปริมาณการจราจรทางอากาศยังคงมีหลายปัจจัยสำคัญที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ นโยบายการเปิดประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีน โอกาสการกลับมาระบาดของโรคโควิด-19สายพันธุ์ใหม่ หรือโรคระบาดอื่น ๆ ตลอดจนผลกระทบของสงครามรัสเซียยูเครนเป็นสำคัญ

 

ขอบคุณเนื้อหาข่าว

https://thunhoon.com/article/257559

27 มิ.ย. 65 เวลา 00:23 603
โพสต์โดย

eikillman


เด็กกองถ่าย
กระทู้ล่าสุดของ eikillman