บอร์ด
กระทู้: โอมิครอน เข้ามา ธุรกิจท่องเที่ยวจะไปรอดมั้ย แล้วรัฐบาลจะเข้ามาช่วยอะไรบ้าง

ตอนนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจกันมาก สำหรับไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่เจอในไทยบ้างแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ เพราะไม่ใช่แค่ผลร้ายต่อร่างกายอย่างเดียว แต่กลับกระทบเศรษฐกิจอย่างมหาศาล จากที่ได้มีความหวังกันบ้างในปีหน้า กลับกลายเป็นชะงักช้าไปอีก นักท่องเที่ยวที่เป็นความหวังก็หดลงทันที หลังจากการประกาศของนายกฯ ที่ปิดการรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่ม

และเห็นภาพมากยิ่งขึ้นจาก “ผศ.ดร.สันติ ชัยศรีสวัสดิ์สุข” ศูนย์ศึกษาพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มองว่า หากโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ระบาดในไทยจะเกิดผลกระทบแน่นอนต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการคาดหวังกับการท่องเที่ยวมากเกินไป ซึ่งต่อให้ไม่มีประเด็นโควิดสายพันธุ์นี้ ยังมองไม่เห็นจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากอย่างที่คาดหวังเดือนละ 1 แสนกว่าคน หรือ 10 เดือน มีนักท่องเที่ยว 1.5 ล้านคน เพราะคนที่เดินทางเข้ามาไม่ใช่นักท่องเที่ยว แต่เป็นตัวเลขของคนเดินทางเข้ามาเท่านั้น

 

ในกรณีเลวร้ายหากโอมิครอน เข้ามาในไทย จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าไปอีก และช้ากว่าคนอื่น อย่างขณะนี้เวียดนามไปไกลกว่าไทย และการฟื้นตัวช้าของไทยมีนัยมาก นั่นหมายถึงจะมีคนจนเพิ่มมากขึ้น จากเดิม 4 ล้านคน ขยับมาเป็น 9.6 ล้านคน ตามตัวเลขของธนาคารโลก หากคุมโอมิครอนไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะไทย จะทำให้เปิดประเทศไม่ได้ 100% และคนไม่อยู่ในอารมณ์ในการท่องเที่ยว

เมื่อคนกังวลไม่เดินทางยิ่งทำให้ไทยรับผลกระทบ เพราะรอแต่ให้คนเดินทางเข้ามา เมื่อคนไม่เข้ามาจะทำให้คนจนเพิ่มมากขึ้น และรัฐจะทนไหวหรือไม่ ในการแจกเงินต่อไป ทั้งโครงการคนละครึ่ง หรือเราเที่ยวด้วยกัน ต้องใช้เงินเพิ่มเติมลงไปอีก และจากที่กู้ไป 5 แสนล้าน ไม่ได้รวมอยู่ในนี้ เพราะต้องไปช่วยเอสเอ็มอี แต่หากเจอปัญหาไปต่อไม่ไหว กลายเป็นว่าเติมเงินเท่าไรก็ไม่พอ

เพราะฉะนั้นแล้วการคาดการณ์จีดีพีปีหน้า จะโต 4% จะไม่มีทางเกิดขึ้น หรืออย่างแบงก์ชาติประเมินไว้ที่ 3% และหากไทยไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ก็จะเห็นจีดีพีโต 3% เท่านี้ตลอดไป 20 ปี ทั้งๆ ที่โควิดเป็นตัวผลักดันให้ต้องทำอะไร แต่ไทยไม่ขยับในทิศทางที่จะพัฒนาขึ้น รอแต่การท่องเที่ยว ซึ่งต่อให้การท่องเที่ยวกลับมา ก็จะไม่เหมือนเดิมมีตัวเลขนักท่องเที่ยวปีละ 38-40 ล้านคน

“เพราะธุรกิจท่องเที่ยวไม่ปรับเปลี่ยน เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวไปเมืองหลักเลย แล้วเมืองรองจะไปอย่างไร และกิจการที่ป้องกันความสุ่มเสี่ยง แทบไม่มี จากนโยบายแบบผิวๆ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน หากโอมิครอนระบาด คิดว่าจีดีพีปีหน้า โตไม่ถึง 1.5% โดยเฉพาะครึ่งปีหลังน่ากลัวมาก เพราะไตรมาส 1-2 ยังพอมีโมเมนตัม”

ได้อ่านแล้วเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากว่าเราจะอยู่รอดผ่านพ้นช่วงวิกฤตแบบนี้กันได้อย่างไร ก็ต้องรอรัฐบาลต่อไปว่าจะมีนโยบายเยียวยาอะไรออกมาช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยวที่เป็นธุรกิจหลักของประเทศบ้าง

อ้างอิงจากบทความ https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/22545

26 ธ.ค. 64 เวลา 23:54 333
โพสต์โดย

cookiemania


เด็กกองถ่าย