บอร์ด
กระทู้: 5 สาเหตุของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่ควรรู้ 

โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน” ภัยเงียบใกล้ตัวที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปยิ่งต้องดูแลเอาใจใส่เรื่องของสุขภาพเป็นพิเศษ อีกทั้งต้องหมั่นค่อยสังเกตตัวเองว่ามีอาการผิดปกติอะไรบ้างเกิดขึ้น หากมีอาการเจ็บหรือแน่นหน้าอก จุกเสียดบริเวณลิ้นปี่ เหนื่อยง่ายขณะออกแรง เหนื่อย เพลีย และหมดสติ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการดังกล่าวเพื่อรักษาได้อย่างตรงจุด สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุของโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันว่าเกิดจากอะไรบ้าง หากพร้อมแล้วมาสำรวจตัวเองว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ 

โรคกล้ามเนื้อหัวใจ

พันธุกรรม

โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่สามารถเกิดการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หากบุคคลในครอบครัวของคุณมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจแล้วละก็ ควรดูแลตัวเองและหมั่นตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น

 

อายุ

อายุที่เพิ่มขึ้นระบบภายในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงรวมไปถึงเรื่องของสุขภาพ ทำให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเพศชายหรือหญิงมีโอกาสเป็นได้เช่นกัน 

 

โรคประจำตัว

โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน และไขมันในเลือดสูงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ค่อนข้างสูง เพราะทั้ง 5 โรคดังกล่าวส่งผลต่อภาวะหลอดเลือดตีบแข็ง อุดตัน และหัวใจขาดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักโดยตรง 

 

การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 

การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำนวนมากส่งผลให้เกิดความเสี่ยงเส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตันที่สมองและหัวใจได้สูง  

 

ไม่ออกกำลังกายและพักผ่อนไม่เพียงพอ 

ไม่ออกกำลังกายและพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ไม่สะดวก ทำให้การเผาผลาญพลังงานน้อยลงส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันจนเกิดเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน 

 

ถึงแม้ว่าโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจะมีความน่ากลัวและอันตราย แต่หากรู้สาเหตุดูแลตัวเองอยู่ตลอดเวลา พร้อมหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงจะที่ก่อให้เกิดโรคดังกล่าว เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยให้คุณห่างไกลโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ไม่ยาก แต่ในกรณีที่คุณมีอาการเจ็บหน้าอก ตาพร่ามัว มีอาการชา อ่อนแรงทั้งแขนขา ปวดศีรษะขั้นรุนแรง รวมไปถึงทรงตัวไม่ได้ เดินเซ อย่าชะล่าใจปล่อยปละเลยเด็ดขาด ให้รีบเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อหาทางรักษาไม่ให้ลุกลามไปมากกว่าเดิม เพราะอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนอันตรายให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลข้างต้นที่ทางเราได้กล่าวไปนั้นหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ผู้อ่านได้รู้ถึงสาเหตุและที่มีที่ไปของอาการดังกล่าวไม่มากก็น้อย ทั้งนี้เพื่อให้ใครหลายคนตระหนักถึงโรคกล้ามเนื้อหัวใจและหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย 

12 ก.ย. 62 เวลา 16:36 361