วิธีคำนวณภาษีก่อน ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์

การจ่ายภาษีรถยนต์คือหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถยนต์ทุกคน เพราะหน่วยงานภาครัฐจะต้องนำเงินภาษีในส่วนนี้ไปใช้เพื่อการพัฒนาถนนหนทาง และสิ่งอำนวยความสะดวกบนท้องถนนต่าง ๆ ไม่ว่าจะแสงสว่างบนท้องถนน ป้ายบอกทาง ป้ายควบคุมการจราจร และอุปกรณ์อื่น ๆ ตามความจำเป็น รวมถึงการบำรุงรักษาในกรณีที่ถนนหนทางและสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ชำรุดเสียหาย หรือเสื่อมสภาพไปตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันทางกรมขนส่งได้พัฒนารูปแบบการให้บริการแก่เจ้าของรถรูปแบบใหม่ที่มีความสะดวกและรวดเร็วขึ้นผ่านระบบอินเทอร์เน็ต กลายเป็นการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ที่เจ้าของรถสามารถดำเนินการต่อภาษีได้ตลอดเวลาที่สะดวก ไม่ต้องเดินทางไปถึงกรมขนส่งให้เสียเวลา ไม่ต้องมาคอยต่อคิวเพื่อดำเนินการกับหน่วยงานราชการให้เสียเวลา อย่างไรก็ดีก่อนใช้บริการต่อภาษีรถยนต์แบบออนไลน์นั้น เจ้าของรถควรพิจารณาคำนวณ ค่าภาษีรถยนต์ ให้ดีเสียก่อนตามรายละเอียดต่อไปนี้

1. กำลังของรถยนต์ ขนาดของเครื่องยนต์ จะส่งผลต่ออัตราภาษีที่ต้องชำระ หากพิจารณาจากกำลังของเครื่องยนต์อาจระบุได้ว่าอัตราภาษีของรถยนต์ตามขนาดของรถนั้นคำนวณดังนี้รถขนาดกำลัง 1 - 600 cc คำนวณภาษีเป็น cc ละ 50 สตางค์ แต่หากกำลังรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็น 601-1800 cc อัตราการคำนวณภาษีจะคิดเป็น cc ละ 50 บาท แต่หากกำลังของรถ 1801 cc ขึ้นไป คำนวณภาษีต่อ cc เป็น cc ละ 4 บาท และประเภทรถยนต์ 4 ที่นั่งทั้งรถเก๋งและรถกระบะจะคำนวณในอัตราภาษีนี้ หรืออาจกล่าวได้ว่าหากรถมีขนาดกำลัง 3000 cc อัตราภาษีจะคิดเป็น 3 ส่วน ช่วง 600 cc แรกคิดอัตราภาษีเป็น 600 x 0.50 = 300 บาท ส่วนต่อมาระหว่าง 600 – 1800 cc หรือคิดเป็นอัตราภาษี 1200 x 1.50 = 1800 บาท และส่วนสุดท้ายคือ 1800 – 3000 cc หรือคิดเป็น 1200 x 4 = 3600 บาท ดังนั้นอัตราภาษีของรถยนต์ขนาด 3000 cc จะเท่ากับ 300 + 1800 + 3600 = 5700 บาท ซึ่งแม้ว่าการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ จะมีการคำนวณอัตราภาษีให้แล้ว แต่เจ้าของรถก็ควรตรวจสอบด้วยตนเองคร่าว ๆ ก่อนเพื่อความถูกต้อง
2. ประเภทของรถยนต์ นอกจากขนาดและกำลังของเครื่องยนต์จะส่งผลต่ออัตรา ภาษีรถเก๋ง แล้ว ประเภทของรถยนต์ยังส่งผลต่ออัตราภาษีด้วย โดยการคำนวณภาษีจะแบ่งรถออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่รถเก๋ง หรือรถกระบะขนาด 4 ประตู ภาษีรถกระบะ 2 ประตู รถบรรทุก และรถตู้ ซึ่งในการทำธุรกรรมภาษีรถยนต์แบบออนไลน์นั้นจะรองรับแค่รถยนต์ รถกระบะ และรถตู้เท่านั้น ดังนั้นเจ้าของรถจึงควรจัดเตรียมข้อมูลต่าง ๆ ของรถยนต์ให้พร้อมเพื่อให้สะดวกต่อการคำนวณอัตราภาษีที่ถูกต้องนั่นเอง
3. อายุการใช้งานของรถยนต์ การคิดอัตรา ภาษีรถยนต์ 4 ประตู นอกจากจะพิจารณาจากกำลังของเครื่องยนต์ และประเภทของรถยนต์แล้ว ยังพิจารณาจากอายุการใช้งานด้วย โดยรถที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปจะมีส่วนลดในการคำนวณอัตราภาษีรถยนต์ ตามรายละเอียดดังนี้

• รถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 6 ปี มีส่วนลดอัตราภาษี 10%
• รถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 7 ปี มีส่วนลดอัตราภาษี 20%
• รถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 8 ปี มีส่วนลดอัตราภาษี 30%
• รถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 9 ปี มีส่วนลดอัตราภาษี 40%
• รถยนต์ที่อายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี มีส่วนลดอัตราภาษี 50%

หรืออาจกล่าวได้ว่ายิ่งรถยนต์มีอายุการใช้งานเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็จะยิ่งมีอัตราส่วนลดในการเสียภาษีเพิ่มมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีในกรณีที่รถมีอายุการใช้งานมากกว่า 7 ปี เจ้าของรถจะต้องนำรถไปตรวจสภาพให้เรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถดำเนินการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ได้ เพราะจะต้องใช้เอกสารการตรวจสอบสภาพในการดำเนินการเพิ่มเติมนอกเหนือจากเอกสารเลขทะเบียน และเอกสาร พรบ.รถยนต์

การคำนวณอัตรา ค่าภาษีรถยนต์ ให้เรียบร้อยเสียก่อนดำเนินการยื่นภาษีรถยนต์ผ่านระบบออนไลน์ ก็จะช่วยให้เจ้าของรถทราบได้ว่าอัตราภาษีที่ทางระบบคำนวณให้นั้นมีความถูกต้องหรือไม่ ก่อนพิจาณาเข้าสู่ขั้นตอนการจ่ายเงิน หากพบว่าอัตราของการ ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ไม่ตรงกับที่คิดคำนวณเอาไว้ก็สามารถสอบถามที่ช่องทางการติดต่อที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของกรมขนส่งได้ในเวลาราชการ เพียงเท่านี้การยื่นภาษีรถยนต์แบบออนไลน์ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้ว