อ.เจษฎา แจงปมพยาธิตัวจี๊ด ความร้อนฆ่าไม่ตาย ที่แท้ไม่ใช่แบบนั้น


 


          พยาธิตัวจี๊ด ภัยร้ายที่ซ่อนตัวในปลาไหล ที่แม้แต่ความร้อนหรือกระบวนการย่อยอาหารยังฆ่าไม่ตาย ด้าน อ.เจษฎา แจงแล้ว ไม่เป็นความจริง

          ปลาไหล นับเป็นหนึ่งในสัตว์ที่นิยมนำมาปรุงอาหารทานกันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ไม่ว่าจะไทย จีน ฟิลิปินส์ อินโดนีเซีย รวมถึงญี่ปุ่น และอีกหลาย ๆ ประเทศ อย่างไรก็ตามหนึ่งในสิ่งที่ผู้บริโภคหลายคนไม่เคยตระหนักเลยก็คือ "ตัวอันตราย" ที่แฝงอยู่ในปลาชนิดนี้ ดังที่เว็บไซต์ vdoobv.com ได้นำมาเตือนภัยให้เราได้ทราบกัน 
 


 


             สำหรับตัวอันตรายที่แฝงอยู่ในปลาไหลนั้นก็คือ พยาธิตัวจี๊ด (Gnathostomiasis) ซึ่งแม้ว่าจะดูเหมือนไม่อันตราย แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นอันตรายมากกว่าที่เราคิดไว้นัก โดยพยาธิตัวจี๊ดนี้เป็นพยาธิที่มองเห็นด้วยตาได้ แถมยังไม่สามารถฆ่าให้ตายได้ง่าย ๆ แม้จะนำมาผ่านกระบวนการปรุงสุกด้วยความร้อนหลายต่อหลายครั้ง หรือแม้แต่ผ่านกระบวนการบดย่อยภายในร่างกายของคน และนั่นจึงเป็นที่มาของความน่ากลัวหากเราเผลอบริโภคชิ้นปลาที่มีปรสิตชนิดนี้ปะปนลงไป 

             แต่หากจะเอ่ยให้เห็นลอย ๆ เราคงนึกภาพไม่ออก ลองมาดูการทดลองให้เห็นกันชัด ๆ เลยดีกว่าเจ้าพยาธิเหล่านี้จะสามารถรอดชีวิตจากกระบวนการย่อยในกระเพาะอาหารของคนได้หรือไม่ 

             โดยเริ่มแรกผู้ทดลองได้นำชิ้นปลาที่มีพยาธิมาปั่นรวมกับน้ำ เพื่อแทนกระบวนการบดเคี้ยวในการบริโภคของมนุษย์ จากนั้นก็เติมของเหลวที่ประกอบไปด้วย เอนไซม์เปปซิน กรดไฮโดรคลอริก และน้ำ เพื่อแทน gastric juice หรือของเหลวที่เยื่อบุกระเพาะอาหารสร้างออกมา สิ่งที่ได้ในบีกเกอร์ก็คือสภาพของชิ้นปลาที่จะไหลลงไปอยู่ในกระเพาะอาหารจำลอง
 


 


             จากนั้นผู้ทดลองก็เทสิ่งที่ได้ทั้งหมดลงในภาชนะที่มีอุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิเท่ากับภายในร่างกายของมนุษย์ ตั้งทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง (เพราะในกระบวนการย่อยอาหารทั่วไปน้ำย่อยของมนุษย์จะใช้เวลามากที่สุด 4 ชั่วโมงในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์) และหยิบภาชนะดังกล่าวมาคนให้เข้ากันทุก 10 นาที แทนการทำงานภายในกระเพาะอาหาร
 


 


             เมื่อเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง ก็ได้เวลานำของเหลวดังกล่าวมาส่องผ่านกล้องจุลทรรศน์ ก่อนที่เราจะพบสิ่งที่ชวนสะพรึง เมื่อพยาธิขนาดใหญ่นั้นยังคงอยู่ดีไม่บุบสลาย บ้างมีก็สีเหลือง บ้างก็สีขาวใส และยังแหวกว่ายอยู่ในของเหลวดังกล่าวได้สบาย ๆ เห็นอย่างนี้แล้วแทบไม่อยากจะคิดเลยว่านี่คือสิ่งที่หลงเหลืออยู่ภายในท้องของเรา หากบริโภคชิ้นปลาที่มีพยาธิลงไป 
 


 


             ขณะที่แพทย์เปิดเผยว่า พยาธิตัวจี๊ดที่อยู่ในปลาไหลนี้มีขนาดเล็กมากเมื่อดูด้วยตาเปล่า โดยอาจมีความยาวเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น สำหรับอาการของผู้ที่เป็นโรคพยาธิตัวจี๊ดก็มีหลากหลายตามอวัยวะที่พยาธิไชไป หากเป็นที่ผิวหนัง เราอาจเห็นเป็นรอยแดงอยู่ที่ผิวหนัง แต่หากเป็นที่อวัยวะสำคัญอื่น ๆ อย่างสมอง หัวใจ หรือปอดแล้วละก็ เรียกว่าอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต จนผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ของเจ้อเจียง ประเทศจีน ยกให้พยาธิตัวจี๊ดเป็นหนึ่งในพยาธิที่อันตรายที่สุดเลยทีเดียว

             ทั้งนี้มีรายงานการพบผู้ป่วยโรคพยาธิตัวจี๊ดส่วนใหญ่อยู่ในแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อันเดีย บังกลาเทศ รวมถึงปากีสถาน ขณะที่เซี่ยงไฮ้ได้เริ่มหยุดนำเข้าปลาไหลจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์แล้วตั้งแต่ปี 2554

             ขณะเดียวกัน นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า พยาธิตัวจี๊ดนั้น สามารถฆ่าได้ด้วยการทำให้อาหารสุก ซึ่งข่าวในเรื่องนี้นั้น เขาพูดถึงปัญหาพยาธิจากปลาไหลที่กินดิบ ไม่ใช่ที่กินสุก

สำหรับข้อความเพิ่มเติม มีดังนี้

             ...แต่พยาธิตัวจี๊ดนั้นสามารถฆ่าได้ด้วยการทำอาหารให้สุกได้ครับ ดังนั้น ถ้าจะกินข้าวหน้าปลาไหล ก็ต้องทำให้มั่นใจว่าปิ้งย่างจนสุกก่อนนะครับ

             ข่าวเรื่องนี้ CCTV ของทางการจีนก็พูดถึงปัญหาพยาธิจากปลาไหลที่กินดิบ ๆ ไม่ใช่ที่กินสุกครับ...


 

 


 

 

 

 



ภาพจาก  vdoobv.com

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...