อิ่มบุญไหว้พระ “4 วัดงาม” เมืองสามอ่าว

เขาช่องกระจก บนเขาประดิษฐานองค์เจดีย์และรอยพระพุทธบาท         “ประจวบคีรีขันธ์” ได้ชื่อว่าเป็น “เมือง 3 อ่าว” เพราะตัวอำเภอที่ทอดยาวติดทะเลอ่าวไทยนั้นเป็นที่ตั้งของ 3 อ่าวสำคัญคือ “อ่าวน้อย” “อ่าวประจวบคีรีขันธ์” และ “อ่าวมะนาว” ซึ่งนอกจากประจวบฯจะเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ได้รับความนิยมแล้ว ที่เมืองสามอ่าวนี้ยังมีวัดงามหลายแห่งที่น่าไปชม ไปกราบไหว้และทำบุญกัน ดังที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้ 4 วัดด้วยกัน 
  เจดีย์สีทองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนเขาช่องกระจก         ชมวิวงามบนเขาช่องกระจก “วัดธรรมิการาม”
       
       “เขาช่องกระจก” เป็นภูเขาขนาดย่อมๆ ที่เป็นดังสัญลักษณ์ของเมืองประจวบฯ ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ บริเวณอ่าวประจวบฯ เขาช่องกระจกเป็นส่วนหนึ่งของวัดธรรมิการาม บนยอดเขาประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง อีกทั้งยังมีองค์เจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาทรงประกอบพิธีบรรจุพร้อมทั้งทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ไว้ตั้งแต่ปี 2501 
  มองลงมาด้านล่างเห็นวัดธรรมิการาม         
  เห็นทิวทัศน์เมืองประจวบฯและท้องทะเลงาม         นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดจำนวน 396 ขั้น ไปกราบรอยพระพุทธบาทพร้อมทั้งสักการะพระบรมสารีริกธาตุได้อย่างสะดวกเพราะทางวัดทำบันไดคอนกรีตขึ้นไปสู่ยอดเขาอย่างดี แต่ต้องระวังฝูงลิงแสมหลายร้อยตัวที่อาศัยอยู่บนภูเขาและมักจะมานั่งอยู่ตามขั้นบันไดคอยมองว่ามีนักท่องเที่ยวคนไหนถือของกินขึ้นมาบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วลิงเขาช่องกระจกจะไม่ก้าวร้าวมากนัก
       
       และนอกจากจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาช่องกระจกแล้ว ยังจะได้ชมวิวทะเลและเมืองประจวบฯ ในมุมที่งดงามมากอีกด้วย มองไปเห็นสะพานปลาทอดยาวไปในทะเล และเกาะเล็กเกาะน้อยในอ่าวประจวบฯ มองเห็นวัดธรรมิการามที่อยู่เบื้องล่างตีนเขา และตึกรามบ้านช่องผู้คนเมืองประจวบอีกด้วย 
  อุโบสถวัดอ่าวน้อย         ไหว้พระนอนในถ้ำที่ “วัดอ่าวน้อย”
       
       “อ่าวน้อย” เป็นอ่าวเล็กๆ ทางตอนเหนือของอ่าวประจวบฯ เป็นชุมชนหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบ ในอ่าวน้อยมีวัดสำคัญคือ “วัดอ่าวน้อย” หรือ “วัดถ้ำพระนอน” ที่งดงามไม่เป็นรองใครด้วยอุโบสถไม้สักทองทั้งหลัง โดดเด่นด้วยพญานาค 9 เศียร 2 ตน ที่เลื้อยล้อมตัวโบสถ์ไว้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน มีภาพแกะสลักไม้ลอยตัวเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ 
  พระนอนองค์ใหญ่ภายในถ้ำ         
  พระนอนองค์เล็กนอนตะแคงซ้าย         อีกทั้งที่วัดอ่าวน้อยยังมี “ถ้ำพระนอน” ที่ตั้งอยู่ด้านบนเขา ทางวัดได้ทำทางเดินบันไดให้ขึ้นไปชมอย่างสะดวก ภายในถ้ำมีพระนอนขนาดใหญ่ 2 องค์ องค์แรกประดิษฐานอยู่บริเวณปากถ้ำ เป็นพระนอนตะแคงขวา มีความยาว 20 ม. ส่วนอีกองค์หนึ่งอยู่ลึกเข้าไปภายใน เป็นพระนอนตะแคงซ้ายมีความยาว 14 เมตร ข้อมูลของทางวัดกล่าวว่าเป็นพระนอนที่นี่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นศิลปะร่วมสมัยอู่ทอง-รัตนโกสินทร์ อายุราว 300-500 ปี
       
       ใครที่จะเข้าไปชมภายในถ้ำ ทางวัดได้จัดเตรียมตู้สำหรับหยอดเหรียญ 10 บาทไว้ด้านหน้าทางเข้าถ้ำ เมื่อหยอดแล้วไฟภายในถ้ำจะติดเป็นเวลา 10 นาที ทางเดินภายในถ้ำไม่วกวนซับซ้อนแต่ก็ควรถือไฟฉายติดมือเข้าไปด้วยเพื่อความมั่นใจ (ทางวัดเตรียมไฟฉายไว้ให้บริเวณทางเข้า) 
  หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดคลองวาฬ (องค์กลางด้านบนสุด)         ไหว้หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ชมภาพจิตรกรรมในหลวงชิ้นงาม ที่ “วัดคลองวาฬ”
       
       "วัดคลองวาฬ" ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไม่ไกลจากกองบิน 5 ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างมาก่อนที่จะเป็นเมืองคลองวาฬ ในวัดแห่งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่ วิหารหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐาน “หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่วัด นอกจากนั้นภายในยังมีพระพุทธรูปสำคัญหลายองค์ ไม่ว่าจะเป็น พระเศรษฐีนวโกฏิ พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงพระพุทธคุณด้านความร่ำรวย นอกจากนั้นก็ยังมีองค์จำลองของหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อวัดไร่ขิง หลวงพ่อวัดเขาตะเครา เป็นต้น 
  พระพิฆเนศปางประทานทรัพย์         
  ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปในหลวงและพุทธชาดก         นอกจากนั้น ในวิหารยังมีรูปหล่อของพระพิฆเนศที่ได้ชื่อว่าเป็นพระพิฆเนศปางประทานทรัพย์ที่งามที่สุดในภาคใต้ อีกทั้งยังมีรูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกมากมาย เช่น หลวงพ่อโต พรหมรังสี หลวงพ่อสด หลวงพ่อเงิน หลวงปู่ศุข เป็นต้น
       
       และที่ไม่ควรพลาดชมก็คืออุโบสถหลังใหญ่ ซึ่งเป็นอุโบสถหลังใหม่สร้างในปี 2534 ภายในมีพระพุทธชินราชมุนีศรีประจวบเป็นพระประธาน แต่สิ่งที่โดดเด่นในอุโบสถแห่งนี้ก็คือภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่งดงามยิ่งนัก โดยจิตรกรได้วาดรูปในหลวงในพระอิริยาบถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในขณะที่พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเสด็จเยี่ยมประชาชน หรือขณะที่กำลังทรงงานในพระหัตถ์ถือแผนที่ บริเวณผนังอุโบสถด้านล่างข้างหน้าต่างวาดเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนบริเวณผนังด้านบนเรื่องราวพุทธชาดกงดงามไม่แพ้กัน 
  ไม่ควรพลาดชมภาพจิตรกรรมที่วัดคลองวาฬ         
  อุโบสถไม้ตาลอันงดงามแห่งวัดอ่างสุวรรณ         กราบหลวงปู่ไทร ชมโบสถ์ไม้ตาล ที่ “วัดอ่างสุวรรณ”
       
       อีกหนึ่งวัดงามที่แม้จะไม่ได้อยู่ในอำเภอเมืองประจวบ แต่ก็โด่งดังจนต้องนำมากล่าวถึง ก็คือ “วัดอ่างสุวรรณ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดหนองหอย” ในอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วัดแห่งนี้มีเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของประเทศตรงที่อุโบสถทั้งหลังทำมาจากไม้ตาล ต้นไม้ที่มีลำต้นสูงผอมเพรียว แถมเนื้อไม้ยังมีเสี้ยนเยอะอีกด้วยนั้น แต่แท้จริงแล้วต้นตาลเป็นไม้เนื้อแข็งสามารถนำมาสร้างบ้านหรือทำเฟอร์นิเจอร์ได้สวยงามไม่น้อย เพราะมีลวดลายของเสี้ยนไม้สวยงาม โดยไม้ตาลที่ใช้สร้างต้องเป็นไม้ตาลอายุ 70-100 ปี เพราะเนื้อไม้จะมีความแข็งแรงทนทาน มดปลวกไม่มากิน และใช้เฉพาะส่วนแก่นตาลที่แข็งที่สุด โดยโบสถ์หลังนี้ใช้ไม้ตาลกว่า 10,000 ต้น และใช้เวลาสร้างกว่า 7 ปี เลยทีเดียว 
  หลวงปู่ไทร เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านในแถบนั้น         
  ลวดลายของพื้น ผนัง และบานหน้าต่างที่ทำจากไม้ตาล         อุโบสถของวัดอ่างสุวรรณแห่งนี้แม้จะไม่ใหญ่โตแต่ก็งดงามแปลกตา โดยผู้ริเริ่มสร้างโบสถ์ไม้ตาลคือ “พระครูผาสุกวิหารการ” หรือพระอาจารย์สมพงษ์ อัคคปัญโญ ท่านเจ้าอาวาสวัดอ่างสุวรรณ ภายในอุโบสถใช้เสาไม้ตะเคียนเป็นโครงสร้าง และใช้ไม้มะหาดเป็นเสาต้นกลาง ส่วนพื้น ผนัง และลวดลายประดับที่แกะสลักตกแต่งไว้ตามหน้าบัน ชายคา และซุ้มประตูหน้าต่างล้วนทำจากไม้ตาลทั้งสิ้น
       
       นอกจากนั้น ภายในอุโบสถยังมีพระพุทธรูปองค์สำคัญที่เป็นที่เคารพศรัทธาของคนในละแวกนี้ คือ “หลวงปู่ไทร” พระพุทธรูปยืนเก่าแก่ซึ่งแกะสลักจากไม้ไทร อายุกว่า 200 ปี ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถด้านหน้า ว่ากันว่าท่านศักดิ์สิทธิ์นัก มักมีผู้นำพวงมาลัยดอกไม้มาถวาย และมาปิดทองที่องค์พระกันเป็นประจำ
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...