10 ข้อแตกต่าง นักร้องเกาหลี VS นักร้องไทย

 เชื่อว่าวัยรุ่นชาวไทยเป็นแฟนคลับเกาหลีกันเยอะ  แต่ละคนคงมีไอดอลเกาหลีในดวงใจกันใช่มั้ยคะ ? ว่าแต่ว่า... เคยสังเกตมั้ยว่านักร้องเกาหลีกับนักร้องไทยเค้ามีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ??  ไรท์เลยลองไปนั่งรวบรวมความแตกต่างระหว่างนักร้องเกาหลีกับนักร้องไทย แล้วลองไปถามแฟนคลับเกาหลีตัวจริง ซึ่งแต่ละคนก็บอกว่า 10 ข้อต่อไปนี้นี่เป๊ะเว่อร์มากมั๊ก ! เราไปดูกันเลย

1.ดารานักร้องเกาหลีเข้าถึงตัวยากมากกกก

เกาหลี :  เปรียบประดุจเทวดา เดินห้างก็ไม่ค่อยได้ (เวลาไปเดินห้าง ต้องพรางตัวด้วยผ้าปิดปาก ) แม้กระทั่งกับแฟนคลับเกาหลีด้วยกันเองยังไม่สามารถเข้าถึงได้  สังเกต ได้ง่ายๆ ว่าไม่ว่าศิลปินจะไปไหนมาไหนก็จะมีผู้จัดการวงคอยห้อมล้อมประดุจไข่ในหิน ตลอดเวลา และถ้าหากมีแฟนคลับคนไหนกล้าเข้าไปแตะตัวศิลปินแม้แต่น้อย อาจจะโดนผู้จัดการวงลากออกไปด่าหรือเสยหน้าตรงนั้นเลยก็ได้ค่ะ (เรื่องจริงนะเออ) ดังนั้นน้องๆ จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมคนเกาหลีถึงดูคลั่งไคล้ศิลปินดาราในประเทศตัวเองกัน แบบเว่อร์ๆ ก็เพราะเค้าหาโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดยากมากๆ นั่นเองค่ะ ขนาดเป็นคนประเทศเดียวกันแท้ๆ นะเนี่ย  

[ แบบนี้ << นานๆทีค่ะ ต้องโชคดีสุดๆ  ไรท์อิจฉา!!!

ไทย : ส่วนดาราไทยนี่ โอ๊ยยยย ไปเดินพารากอนทุกรอบ ต้องได้เจอดาราทุกรอบเถอะ 555  ตามตัวกันได้ง่ายสุดๆ บางคนเจอ 10 รอบก็ขอลายเซ็นได้ 10 ครั้ง ถ่ายรูปคู่ด้วยอีก 10 ที ใกล้ชิดอินไซด์กันได้อีก

       

ดารานักร้องเกาหลีส่วนมาก ต้องดร็อปการเรียนเพื่อมาทำงานในวงการบันเทิง

เกาหลี : แม้แต่นักร้องดังๆ บางคน อายุปาไปจะ 30 ก็ยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยเลยล่ะ

ไทย :   แต่ของไทยนี่ไม่ได้เลยนะคะ ต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย ถึงจะถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีน่าชื่นชมให้กับแฟนคลับ ดังนั้นในประวัติของนักร้องเกาหลี เค้าจะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องประวัติการเรียนกันเท่าไร แต่นักร้องไทยนี่ ร่ายกันมาตั้งแต่เตรียมอนุบาลเลยว่าเรียนที่ไหน เรียนจบมหาวิทยาลัยอะไรยังไง รู้กันหมด

 

3.นักร้องเกาหลีที่เป็นกลุ่ม มักต้องอยู่หอพักด้วยกัน

เกาหลี : เพื่อ ให้สะดวกต่อการไปทำงาน เวลาไปก็จะได้กระโดดขึ้นรถพร้อมกันแล้วไปเลย ซึ่ง อาจจะมองว่าการอยู่หอพักเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ว่ามันจะมีเป็นลำดับขั้นค่ะ เช่น ใน ตอนแรกที่เดบิวต์ใหม่ๆ ยังไม่ดังมาก ก็จะได้อยู่หอพักเล็กๆ ไปก่อน แต่พอเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ได้รับรางวัลนั้นนี้ เพลงติดชาร์ทอันดับ 1 ก็อาจจะได้ย้ายไปอยู่หอพักใหม่ที่ใหญ่ขึ้น สบายขึ้น หรือถ้าใครในวงมีผลงานที่เด่นกว่าเพื่อน ก็อาจจะได้รับสิทธิพิเศษให้นอนห้องเดี่ยวเลยก็ได้

ไทย : ส่วนดาราไทยเหรอ......ก็นอนที่บ้านไงคะ 5555 แต่ว่าก็ดีนะ เพราะทำงานกลับมาเหนื่อยๆ ได้กลับมาที่บ้านเจอหน้าคนในครอบครัว เหนื่อยแค่ไหนก็หายเป็นปลิดทิ้ง  

 

ศิลปินนักร้องเกาหลีที่เป็นกลุ่ม[บอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ป] จะค่อนข้างดังกว่านักร้องที่ออกมาเดี่ยวๆ

เกาหลี : ยิ่งคนเยอะยิ่งดัง เวลาขายก็ขายเป็นแพ็ค ถ้าใครดังโดดเด่นออกมาก็จะสามารถขายเดี่ยวๆ ได้
ไทย :  ส่วนมากเพลงที่ฮิตๆติดหูเราส่วนมากมันเป็นศิลปินเดี่ยว 

นักร้องเกาหลีก่อนจะได้เดบิวต์นั้น ต้องฝึกหัดกันมานานมากกกกกกกกก  

เกาหลี : นานกันจนลืมโลกจริงๆ บางคนเป็นศิลปินฝึกหัดกันตั้งแต่ฟันแท้ซี่แรกเพิ่งขึ้น (ขนาดนั้นเลย)บางคนยาวนานเกือบ 10 ปีก็มี เช่น ซอนเย wonder girls , โจควอน 2am , เจสสิก้า snsd และในการฝึกของเค้านั้น ถึงแม้จะรอเดบิวต์เพื่อเป็นนักร้อง แต่ก็ไม่ได้ฝึกกันแค่การร้องเพลงนะคะ แต่เค้าฝึกกันหมดไม่ว่าจะเป็นทักษะการแสดง การเต้น การเป็นพิธีกร ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยเวลาเห็นนักร้องเกาหลีผันตัวไปเล่นละครแล้วเล่นออกมาได้อินมากๆ   หรือมีการจักการแข่งขันเพื่อหาวงที่จะเดบิวต์
 ไทย : ส่วนมากฝึกหัดกันแป๊บๆ ปีสองปีก็ได้ออกแล้วล่ะค่ะ เพราะส่วนมากถ้าฝึกหัดกันนานมากๆ จะกลายเป็นโดนดองไปซะมากกว่า 

WINNER  > TEAM A & TEAM B

คิมจุนมยอน  : ซูโฮ EXO
เด็กฝึกหัด 7 ปี!!!

โจควอน เด็กฝึกหัด 10 ปี!!!

คิมฮยอนอา  เด็กฝึกหัด 5 ปี!

นักร้องเกาหลีต้องมี "ลีดเดอร์" หรือหัวหน้าวงอย่างชัดเจน

เกาหลี : ซึ่งส่วนมากก็จะยกตำแหน่งนี้ให้คนที่มีอายุมากที่สุดในวงไปโดยปริยาย เช่น แทยอน snsd , อีทึก super junior , คยูริ kara เป็น ต้น ซึ่งการเป็นลีดเดอร์นั้นก็จะมีหน้าที่คอยตอบคำถามเวลาไปออกรายการต่างๆ (สมาชิกในวงมีเยอะมาก ไม่รู้จะให้ใครตอบ ดังนั้นจึงต้องมีลีดเดอร์ขึ้นมาเพื่อการณ์นี้) รวมถึงเวลาที่ในวงมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ลีดเดอร์ก็จะต้องเป็นคนหลักๆ ที่จะตัดสินใจอีกด้วย
 

ไทย :ไม่ค่อยมีตำแหน่งหัวหน้าวงที่ชัดเจนเท่าไหร่

 

7.นักร้องเกาหลี ถึงแม้อยู่คนละบริษัทคนละค่าย ก็สามารถมาร้องเพลงบนเวทีเดียวกันได้

 เกาหลี : แถมยังสนิทกันมากๆ   เพราะในรายการคอนเสิร์ตต่างๆ ในแต่ละสัปดาห์นั้น จะมีนักร้องหลายๆ ค่ายมาขึ้นเวทีเดียวกัน แถมบางครั้งยังมี special stage ด้วยการให้นักร้องต่างค่ายมาร้องเพลงด้วยกันอีกแน่ะ จึงทำให้นักร้องเกาหลีต่างค่ายหลายคู่สนิทกันมากๆ เช่น งานกีฬาสีไอดอล  หรือจะเป็น นิโคล Kara กับ คีย์ Shinee  ต่างก็เป็นเพื่อนซี้ปึ๊กมากๆๆ นั่นเอง หรือจะเป็นการร้องเพลงดูเอทในอัลบั้ม ที่ศิลปินต่างค่ายจะมาช่วยร้องคู่หรือช่วยร้องแร็พ ก็เป็นอะไรที่ปกติมากๆ สำหรับวงการบันเทิงของเกาหลี ไม่มีพรมแดนระห่างค่ายจริงๆ
  ไทย : หาโอกาสยากมากๆ ที่ศิลปินต่างค่ายจะได้มาขึ้นเวทีเดียวกัน ยกเว้นอีเวนท์พิเศษจริงๆ เช่น เพลงช่วยชาติ เพลงปลุกใจอะไรทำนองนั้นอ่ะค่ะ ถึงจะได้มาร้องเพลงด้วยกัน

ดารานักร้องเกาหลีมีแอนตี้แฟนที่น่ากลัวมาก
เกาหลี : เกลียดกันจริงจังมากถึงกับมีสมาคมแอนตี้แฟนตั้งขึ้นเป็นกลุ่มเลยทีเดียว  ถ้า นักร้องคนนั้นขึ้นมาร้องเพลงบนเวที พวกแอนตี้แฟนก็จะโห่ไล่ ทำป้ายมาด่า หรือด่าลงในอินเทอร์เน็ตที่ใช้คำหยาบคายแบบรุนแรงสุดๆ หรือบางทีก็เล่นกันถึงชีวิต เช่น กรณีของยุนโฮ ดงบังชินกิ ที่เคยเจอแอนตี้แฟนลอบทำร้ายด้วยการผสมกาวลงไปในเครื่องดื่มให้กิน จนถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว 

         ไทย : นั้น นับว่ายังโชคดีมากกว่าค่ะ ที่ไม่มีแอนตี้แฟนรุนแรงขนาดนี้ ส่วนมากก็จะเป็นแค่ด่าลงอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ไม่ถึงกับทำร้ายให้เจ็บตัวหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง 

เพลงเกาหลีส่วนมากที่ดังๆ จะเป็นเพลงเร็วมากกว่าเพลงช้า 

เกาหลี : เพลงเร็วหรือเพลงที่เป็นซิงเกิ้ลแรกนั่นเอง อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงนิยมโปรโมตกันแต่เพลงเร็ว (อาจเพราะต้องการให้นักร้องได้โชว์ความสามารถในการเต้น) แต่บางทีก็น่าเสียดาย เพราะสมมมติว่าในอัลบั้มมีทั้งหมด 10 เพลง ก็ดันโปรโมตกันแต่เพลงเร็ว 2 เพลง แรก ทั้งๆ ที่ในอัลบั้มนั้นมีเพลงช้าเพลงอื่นๆ ที่เพราะอีกเยอะมากๆๆ แต่กลับไม่ให้นักร้องมาโชว์พลังร้องเพลงช้าบ้าง รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากๆ เลย

ไทย:  เพลงที่ฮิตติดหูก็จะมีทั้งเพลงเร็วเพลงช้าสลับกันไปค่ะ โปรโมตหมดทั้งเพลงช้าเพลงเร็ว อันนี้ถือว่าเป็นข้อดีมากๆ เลยนะเนี่ย

24 มี.ค. 58 เวลา 20:55 4,712 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...