7 เมืองในหมอก ทะเลหมอกรายรอบสวยดั่งแดนสวรรค์

 

หากใครอยากสัมผัสกับทะเลหมอกบ้างสักครั้ง เรามีสถานที่มาแนะนำกันค่ะ จะสวยงามต่างกันอย่างไรไปชมเลย 

ทะเลหมอก ดินแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่อยากเดินทางไปพบ แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่างอาจทำให้ใครหลายคนไม่ได้เจอกับวิวทะเลหมอกอย่างตั้งใจ เพราะต้องขึ้นอยู่กับช่วงเวลา อากาศ ปัจจัยที่พอเหมาะพอเจาะ บางคนไปครั้งแรกเจอเลย บางคนไปหลายครั้งถึงเจอ ไม่ว่าจะอย่างไรนักท่องเที่ยวหลายคนก็จะพยายามไปจนได้เห็นกับตาสักครั้ง แค่นี้ก็ทำให้หายเหนื่อยได้แล้ว ^_^ หากใครอยากสัมผัสกับทะเลหมอกบ้างสักครั้ง เรามี 7 เมืองในหมอก มาแนะนำกันค่ะ จะสวยงามต่างกันอย่างไรไปชมเลย 
 
เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี
ที่อยู่ : ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี



เขาช้างเผือก เป็นชื่อของยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงาม น่าตื่นตา จนทำให้นักเดินป่าทั่วไทยทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ปรารถนาจะได้มาพิชิตสักครั้งหนึ่งในชีวิต  เมื่อขึ้นไปถึงจุดชมวิว จะพบกับความงามของทัศนียภาพที่สวยงาม ของทิวเขาที่สลับซับซ้อน เมื่อครั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก จะสวยงามมาก 

ก่อนถึงจุดหมาย ไฮไลท์อยู่ที่นักเดินทางจะต้องเผชิญหน้ากับ “สันคมมีด” สันหินแคบราว 1 เมตรที่สองข้างทางเป็น เหวลึกที่ต้องไต่เชือกขึ้นไปทีละคน และในวินาทีที่เมฆหมอกไหลเข้ามาระหว่างช่องเขา ทำให้นักเดินทางจะรู้สึกเสมือน กำลังเดินอยู่บน “สะพานเมฆ” ที่ทอดยาวสู่ฟากฟ้า ปลายทางนั้นคือมหัศจรรย์ที่คุ้มค่า สามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทาง 360 องศา ทั้งเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทัศนียภาพฟากฝั่งประเทศพม่า และในวันที่อากาศดีอาจเห็นได้ไกลถึง ทะเลอันดามัน 

นับเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัยนิยมไปเที่ยวกัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมไปได้ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ การไปเที่ยวที่นี่ ต้องเตรียมตังให้พร้อมโดยเฉพาะน้ำดื่ม เพราะบนเขา ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก นักเดินทางต้องเตรียมไปเอง เขาช้างเผือก มีลานกางเต็นท์ตามจุดต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใด้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด 

ภูห้วยอีสัน
ที่อยู่ : ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย


ภูห้วยอีสัน เป็นจุดพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้แบบกว้างไกลสุดตา ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกสุด Unseen ที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของหนองคาย ที่นี่ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถส่วนตัวขึ้นไปข้างบน โดยจะมีบริการให้เช่ารถอีแต๋นเพื่อขึ้นไปบนภู ราคาค่ารถคนละ 50-60 บาท แล้วแต่ตกลงกัน 

ระหว่างเส้นทางสามารถชมทะเลหมอกได้ประมาณ 3 จุด โดยแต่ละจุดจะมีมุมมองที่สวย งามแตกต่างกันช่วงเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เวลา 05.30 น.- 08.00 น. 

หากมองจากยอดภูห้วยอีสันสามารถมองเห็นเกาะแก่งของแม่น้ำโขงซึ่งหากวันใดที่สายหมอกบางเบาก็จะสามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์สีทองในยามเช้าสะท้อน ไปยังพื้นน้ำได้อย่างชัดเจน เมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ ส่องแสงจ้ามากขึ้นวินาทีอันแสนวิเศษก็ปรากฏเบื้องหน้า หมอกขาวๆ ที่เรารอคอยมาทั้งคืนค่อยๆ ลอยมาทีละนิด จนรวมกันเป็นทะเลหมอกที่ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรรู้แต่ว่าสวยไม่แพ้ที่ไหนที่เคยไปมา

ช่องเย็น - ภูสวรรค์  อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
ที่อยู่ : อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร-อ.แม่วงก์ อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์



ช่องเย็น - ภูสวรรค์ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายกันอยู่ตามเทือกเขาถนนธงชัยลดหลั่นลงมาจนถึงพื้นราบ ประมาณ 40-50 ลูก ยอดที่สูงที่สุดคือ ยอดเขาโมโกจู สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,964 เมตร เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารต้นกำเนิดของลำน้ำแม่วงก์ โดยมีค่าเข้าอุทยานฯ คนละ 40 รวมกับค่ารถยนต์เข้าไปอีก 30 บาท และที่นี่จะมีกฏข้อห้ามต่างๆไว้ให้นักท่องเที่ยวที่จะมาเข้าชมต้องทำตามด้วย 

ช่องเย็นจะเหมาะสำหรับมาชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม รวมทั้งจุดชมวิวใกล้เคียงก็ยังดูพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส  จากลานกลางเต้นท์และมุมชมวิวของช่องเย็น ไม่ไกลกันนัก ถ้าเดินไปหลังจุดบริการนักท่องเที่ยว จะมีทางขึ้นไปภูสวรรค์ระยะทางยาว 300 เมตร 

การเดินทางไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และไปช่องเย็นนั้น โดยรถยนต์ส่วนตัว หากเริ่มจากจังหวัดนครสวรรค์จะใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ถึงแยกโค้งวิไล บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 307+500 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1242 (ผ่านอำเภอปางศิลาทอง) ไปประมาณ 40 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1072 ไปอีก 10 กิโลเมตร จะพบสี่แยกคลองลาน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1117 ถนนคลองลาน-อุ้มผาง ประมาณ 15 กิโลเมตร

จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านพักโซนที่ 1 (โซนที่ทำการอุทยานแห่งชาติ) และเป็นเส้นทางไปบ้านพักโซนที่ 2 (โซนช่องเย็น) แต่ระหว่างการเดินทางให้เลี้ยวตามข้อมูลที่บอก อย่าหวังดูหมายเลขถนน เพราะบางทางแยกจะไม่มีป้ายหมายเลขถนนบอก และหากไปไม่ถูก หรือจะแจ้งการเดินทางล่วงหน้าเพื่อจองที่พักให้ติดต่อที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โทรศัพท์ 09 0457 9291 


ดอยอ่างขาง
ที่อยู่ : ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่




ดอยอ่างขาง หรือ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง มีความสูงจากระดับน้ำทะ 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาวเพื่อสร้างรายได้ มีพันธุ์ไม้ผลเมืองหนาวกว่า 12 ชนิด ผักเมืองหนาวกว่า 60 ชนิด และไม้ดอกเมืองหนาวมากกว่า 20 ชนิด จำหน่ายผลิตผลที่ปลูกในโครงการให้แก่นักท่องเที่ยวตามฤดูกาล

ดอยอ่างขาง มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี เนื่องจากอยู่ในหุบเขา โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม อากาศจะเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง (แม่คะนิ้ง) นักท่องเที่ยวควรเตรียมเครื่องกันหนาวมาให้พร้อม เช่น เสื้อกันหนาว หมวก ถุงมือ ถุงเท้า มาให้พร้อม สถานที่น่าสนใจบนดอยมีหลายแห่ง พร้อมจุดชมวิวที่สวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในดงดอกไม้กลางหุบเขา นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสอากาศหนาวและถ่ายภาพกันอย่างไม่ขาดสาย แต่การเดินทางค่อนข้างคดเคี้ยวคนขับรถต้องมีความชำนาญเป็นอย่างมาก

การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเซีย) หลังจากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปยังพิษณุโลก ต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 11 ถึงเชียงใหม่ ระยะทาง 695 กม. หรือจากนครสวรรค์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านกำแพงเพชร ไปเชียงใหม่ ระยะทาง 696 กม. จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) กม.ที่ 137 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านยางที่ตลาดแม่ข่า เข้าไปอีก 25 กม. เป็นทางลาดยางสูงและคดเคี้ยวต้องใช้รถสภาพดีและมีกำลังสูง 


ดอยเสมอดาว
ที่อยู่ : ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน



ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน โดยเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าท่ามกลางทะเลหมอกที่สวยงามแห่งหนึ่ง และยังสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำน่านที่ทอดยาวในหุบเขา รวมทั้งเห็นยอดผาชู้ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า 

นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาพักค้างแรมที่ ดอยเสมอดาวแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นลานกว้างตั้งอยู่บนเขา สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว้างไกล และที่สำคัญจุดนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถชมผาหัวสิงห์ ที่ตระหง่านเป็นจุดเด่นบนดอยเสมอดาวแห่งนี้ 

ม่อนกิ่วลม  อุทยานแห่งชาติแม่เมย
ที่อยู่ : อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่เมย ต.แม่สอง-ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก




ม่อนกิ่วลม อีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามของอุทยานแห่งชาติแม่เมยตั้งอยู่ในบริเวณแนวตะเข็บชายแดนด้านตะวันตกของไทยติดต่อกับประเทศพม่า สูงจากระดับน้ำทะเลราว 900 เมตร  ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าและชมพระอาทิตย์ตกดินได้ เดินทางสะดวกรถยนต์สามารถเข้าถึงได้ 

ม่อนกิ่วลม มีความพิเศษกว่าจุดอื่นๆตรงที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ทั้งสองทิศทาง คือทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมขึ้นมากางเต้นท์นอนรอชมพระอาทิตย์ขึ้น โดยทางอุทยานแห่งชาติแม่เมยมีบ้านพักและลานกางเต้นท์เตรียมไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่เมย อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก โทร 0 5551 9644-45 


ภูชี้ฟ้า
ที่อยู่ : บ้านร่มฟ้าทอง ต.ปอ อ.เทิง จ.เชียงราย  




ภูชี้ฟ้า เป็นจุดสูงสุดของวนอุทยานภูชี้ฟ้า เป็นจุดชมทิวทัศน์ชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่สวยงามที่สุดของเชียงราย อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นยอดเขาที่แหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,628 เมตร เมตร โดยมีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ทุกๆ ปีจะมีผู้มาท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดเชียงรายและต่างจังหวัดมาเที่ยวชมสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน - กุมภาพันธ์) 

การเดินทาง 
ใช้เส้นทางเชียงราย-เทิง ระยะทาง 64 กิโลเมตร และจากเทิง-บ้านปี้ ระยะทาง 6 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1155 ผ่านบ้านปางค่า บ้านเชงเม้ง เป็นทางลาดยาง ถึงภูชี้ฟ้าระยะทาง 42 กิโลเมตร หรือใช้ทางหลวงหมายเลข 1021 สายเทิง-เชียงคำ-บ้านฮวก ก่อนถึงเชียงคำ 6 กิโลเมตร มีทางแยกไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกภูซาง อีก 19 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่อไปยังภูชี้ฟ้าอีก 30 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถนำรถไปจอดไว้ที่ลานจอดรถวนอุทยานภูชี้ฟ้าแล้วเดินเท้าไปจุดชมวิวประมาณ 700 เมตร 
cr.edtguide

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...