หนุ่มเดนมาร์กพาแฝดสมองพิการพิชิตไตรกีฬาสำเร็จ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก TeamTvilling

          พีเดอร์ มอนดรัพ หนุ่มสมองพิการวัย 34 ปี จากเดนมาร์ก กลายเป็นบุคคลพิการด้วยอาการนี้คนแรกของโลกที่พิชิตภารกิจไตรกีฬามาราธอนได้สำเร็จ โดยได้ตัวช่วยดีเยี่ยมคือ สตีน มอนดรัพ น้องชายฝาแฝด ร่วมลงแข่งขัน พากันไปจนเข้าเส้นชัยพร้อมกัน

          โลกของคนพิการที่ไม่สามารถบังคับร่างกายของตัวเองให้เคลื่อนไหวได้อย่างใจ แค่ช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวันให้ได้ก็ลำบากมากแล้ว แต่ พีเดอร์ มอนดรัพ (Peder Mondrup) หนุ่มสมองพิการวัย 34 ปี ได้ลิ้มรสความรู้สึกยามที่ได้วิ่งผ่านเข้าสู่เส้นชัยในการแข่งขันมาราธอน และกลายเป็นบุคคลสมองพิการคนแรกที่สามารถพิชิตไตรกีฬามาราธอนได้ แต่นั่นก็ต้องขอขอบคุณบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของเขาด้วย นั่นคือ สตีน มอนดรัพ (Steen Mondrup) พี่ชายฝาแฝดผู้ร่วมลงแข่งขันด้วยกัน ผู้เป็นทั้งคนว่ายน้ำ ปั่น และวิ่ง พาพีเดอร์ไปข้างกายด้วยไม่ห่าง

          เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ เผยในรายงานเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ว่า สตีนลงว่ายน้ำโดยผูกเชือกที่ล่ามแพยางของพีเดอร์ไว้กับตัว จากนั้นเขาอุ้มพี่ชายออกจากแพยางลงนั่งในที่นั่งพิเศษที่อยู่ด้านหน้าจักรยานแล้วปั่นออกไป ก่อนจะออกวิ่งสู่เส้นชัยโดยเข็นรถเข็นของพีเดอร์ไปด้วย แล้ววิ่งเข้าเส้นชัยพร้อมรอยยิ้มบนในหน้าและคาดว่าพี่ชายของเขาเองก็คงจะยิ้มอยู่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ได้เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ๆ แต่ทั้งสตีนและพีเดอร์ได้รับเสียงเชียร์ดังยิ่งกว่าใคร ๆ ความพยายามร่วมกันตลอดการแข่งขันทั้ง 15 ชั่วโมง 32 นาที 48 วินาที ส่งผลให้พีเดอร์เป็นบุคคลผู้พิการสมองคนแรกที่สามารถพิชิตการแข่งขันไตรกีฬาไอรอนแมน โคเปนเฮเกน (Ironman Copenhagen) ได้

สตีนและพีเดอร์เป็นฝาแฝดซึ่งคลอดก่อนกำหนด 3 เดือน สตีนโชคดีที่ร่างกายแข็งแรง ทว่าพีเดอร์ขาดอากาศหายใจนานเกินไป ทำให้เกิดอาการสมองพิการ (Cerebral Palsy) จนระบบสั่งการเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติ และต้องใช้ชีวิตบนรถเข็นเรื่อยมา ทว่านอกจากความผิดปกติด้านการเคลื่อนไหว พีเดอร์ไม่มีปัญหาเรื่องพัฒนาการด้านอื่น ๆ เขายังได้พูดให้กำลังใจและให้ความรู้เกี่ยวกับผู้ป่วยที่เผชิญโรคเช่นเดียวกับเขามาโดยตลอด และในการร่วมแข่งขันไตรกีฬาร่วมกับน้องชายในครั้งนี้ ก็ได้ทำให้เขาได้ลิ้มรสประสบการณ์อีกรูปแบบหนึ่ง ที่ตัวเขาคงลุกขึ้นมาทำด้วยตัวเองคนเดียวไม่ได้แน่ ๆ

"นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าได้กลายเป็นตัวเองในแบบที่ผมอยากเป็นมาตลอด" พีเดอร์ กล่าว หลังได้เข้าสู่เส้นชัย

สตีนและพีเดอร์เริ่มเข้าร่วมการแข่งขันแบบฮาล์ฟมาราธอน (half matathon) มาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว แต่คราวนี้เป็นการแข่งขันเต็มรูปแบบครั้งแรก ซึ่งการได้เข้าแข่งขันในกีฬาที่พิชิตข้อจำกัดตัวเองแบบนี้ นอกจากจะได้กระตุ้นให้คนเห็นความสำคัญและศักยภาพของผู้ป่วยโรคสมองพิการอย่างพีเดอร์แล้ว สองพี่น้องฝาแฝดยังรู้สึกดีที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งคู่ได้เปิดเว็บไซต์ teamtvilling เป็นแหล่งบันทึกเรื่องราวการแข่งขันและให้ผู้คนเข้าไปติดตามพวกเขาได้ โดยทั้งคู่ได้เขียนแนะนำตัวเองไว้ในเว็บไซต์ว่า "อย่างที่ใคร ๆ ชอบพูดกันว่า สตีนมีขาและพีเดอร์ก็มีมันสมอง ฉะนั้นพวกเราจึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการแข่งขันไตรกีฬาด้วยแรงใจอันแรงกล้าครับ"