สื่อนอกเผย “สุดยอดกลโกง 5 วิธี ที่มิจฉาชีพนิยมใช้หลอกล่อนักท่องเที่ยวในไทย

The Hindu สื่อข่าวของอินเดีย ได้เสนอข่าวเชิงวิพากษ์วิจารณ์การท่องเที่ยวไทยว่า แม้จะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยกว่า 20 ล้านคน แต่มิจฉาชีพที่แฝงมา ก็ส่งผลต่อประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักของนักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกลวง

 

ทั้งนี้ The Hindu ยังได้รวบรวม สุดยอดกลโกง 5 วิธี ที่นิยมใช้หลอกล่อนักท่องเที่ยวในไทย หวังเตือนให้นักท่องเที่ยวระวังไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพพวกนี้ด้วย ดังนี้

 

 

1. ตุ๊กตุ๊กมหาภัย ที่ตระเวนหลอกนักท่องเที่ยวว่า พระบรมมหาราชวังปิดให้บริการ แล้วหลอกว่าจะพาชมสถานที่อื่นๆ แบบฟรีๆ แทน เมื่อนักท่องเที่ยวหลงกล ก็พาไปยังร้านขายเครื่องประดับราคาแพง ที่คุณภาพไม่ค่อยเหมาะสมกับราคานัก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงพยายามจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการตั้งศูนย์ร้องเรียนขนาดเล็กรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวรวมถึงช่วยติดต่อร้านที่จำหน่าย เพื่อขอรับเงินคืนแบบเต็มจำนวนให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย

 

2. ค่าเสียหายเจ็ตสกีพัง ประโยคหากินสุดคลาสสิกของร้านให้เช่าเจ็ตสกีที่มีเจตนาไม่บริสุทธิ์ซึ่งพบมากบริเวณชายหาดท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพัทยาและภูเก็ต โดยจะขอขอหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นๆ ของนักท่องเที่ยวไว้เป็นมัดจำ แต่หลังจากนักท่องเที่ยวนำเจ็ตสกีมาคืนแล้ว ก็จะกล่าวหาว่า นักท่องเที่ยวทำเจ็ตสกีเสียหายต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ทางร้าน พร้อมขู่ว่าจะแจ้งตำรวจด้วย ทั้งๆ ที่เจ็ตสกีก็เสียหายมาก่อนให้เช่าแล้ว

 

 

3.รถไฟเต็มแล้ว ไปรสบัสดีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำบริเวณสถานีรถหัวลำโพง โดยจะมีเอเย่นต์ผีแสดงตัวว่าจะช่วยจัดการจองตั๋วรถไฟให้นักท่องเที่ยว แล้วบอกว่ารถไฟเต็ม จากนั้นจึงพยายามหลอกล่อให้นักท่องเที่ยวซื้อตั๋วรถบัสที่ตนเองนำมาจำหน่ายแทน

 

4.ตีน่าเศร้าเล่าความเท็จ มิจฉาชีพพวกนี้จะพยายามทำตัวใสซื่อ แอบมาตีสนิทแล้วหลอกถามล้วงข้อมูลจากนักท่องเที่ยว จากนั้นจะแกล้งตีซี้ว่าเพื่อนฝูงหรือญาติกำลังเดินทางไปยังเมืองที่นักท่องเที่ยวอยู่ พอนักท่องเที่ยวตายใจก็จะเริ่มบรรยายความรันทดหดหู่ หรือโรคร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตแล้วตีเนียนขอเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาทันที

 

5.โชว์ฟรีแต่มีชาร์จ สถานบันเทิงยามค่ำคืนหลายแห่งในไทยมักโฆษณาว่ามีการโชว์รูปแบบต่างๆ ฟรี ถ้านักท่องเที่ยวคนใดหลงเข้าไป อาจจะลมจับจากค่าอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีราคาแพงกว่าปกติหลายเท่าตัว ชนิดที่ว่าชาร์จเพิ่มกว่า 10 เท่าเลยทีเดียว

 

 

ทางด้าน ณัฐนันท์ ใจซื่อ เจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายของศาลคดีท่องเที่ยว ได้ชี้แจงว่า ไทยพยายามลดปัญหาการหลอกลวงที่เกิดขึ้น ด้วยการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบถึงอาชญากรรมประเภทนี้ และเร่งดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ผู้กระทำความผิดด้วย

ข้อมูลจาก: posttoday
ภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...