Akrit Jaswal ศัลยแพทย์เด็กชาวอินเดีย ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก

Akrit Jaswal เป็นชาวอินเดีย และได้รับการขนานนามว่า เด็กผู้ชายที่ฉลาดที่สุดในโลก เพราะมี IQ ถึง 146 และได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในเด็กที่มีอายุเท่า ๆ กัน

 

 

ในปี 2000 เมื่อมีอายุเพียง 7ขวบ เขาได้ทำการรักษาคนไข้คนแรกที่บ้านของเขาเอง คนไข้เป็นเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ มีฐานะยากจนไม่มีเงินพอที่จะไปหาหมอได้ มือของเธอถูกไฟลวกทำให้นิ้วมือกำแน่นติดกัน

 

ในตอนนั้นยังไม่ได้เรียนแพทย์อย่างเป็นทางการและยังไม่มีประสบการณ์ในการผ่า ตัดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เขาก็สามารถทำให้นิ้วมือของเด็กหญิงคลายออกมาได้และใช้มือได้เป็นปกติอีกครั้ง

 

 

ปัจจุบัน Akrit กำลังเรียนปริญญาตรีวิทยาศาสตร์อยู่ที่ Chandigarh College ด้วยวัยเพียง  13  ปี และเป็นนักศึกษาที่อายุน้อยที่สุดที่มหาวิทยาลัยอินเดียเคยรับเข้าเรียน  ไอ คิวสูงถึง  146  และได้รับการยกย่องว่า  เขาเป็นเด็กที่ฉลาดที่สุดสำหรับ เด็กในวัยเดียวกันในอินเดีย   ประเทศที่มีประชากรเป็นพันล้านคน

 

แม่ของเขากล่าวว่า “ตอนที่เขาอายุได้เพียง  2  ขวบ เขาเรียนเร็วมาก หลังจากสอนไห้เขาจำตัวอักษรได้หมด  เราก็เริ่มไห้เขาผสมคำ  แล้วเขาก็เริ่ม เรียนเขียนทันที ”

 

นอกจากนี้ในวัยนั้น เขาได้เริ่มอ่านนวนิยายของเช็คสเปียร์แล้ว  พร้อมๆ กับการสะสมหนังสือเรียนด้านการแพทย์  เขาเริ่มเข้าโรงเรียนตอนอายุ  5 ขวบ แต่  1 ปีให้หลังเขาได้กลายเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและคณิตศาตร์ไห้กับนักเรียนที่อายุ มากกว่าเขาถึง  10 ปี

 

 

Akrit เข้าเรียนใน Punjab University ตอนอายุได้ 11 ขวบ แล้วในปีนั้นเองเขาก็ได้รับเชิญไห้ไปแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆที่ Imperial College  ในลอนดอนเพื่อการทดสอบไอคิวและเพื่อการวิจัย

 

Akrit กล่าวว่าเขามีความคิดมากมายด้านการแพทย์  แต่ตอนนี้เขากำลังมุ่ง เน้นในเรื่องการพัฒนาด้านการรักษาโรคมะเร็ง  เขาบอกว่าเขาเคยเห็นคนป่วยโรค มะเร็งเป็นจำนวนมากต้องนอนรอความตายอยู่ข้างถนน  เพราะไม่มีเงินเข้าไปรักษา ในโรงพยาบาล  และไม่มีที่ที่จะไห้พวกเขาอยู่  เขาต้องการใช้สติปัญญาที่มี อยู่ได้บรรเทาความเจ็บปวดของผู้ป่วยเหล่านั้น

 

“ฉันรู้สึกเศร้าใจมากเมื่อเห็นพวกเขาต้องทุกข์ทรมาณ”  และสิ่งนี้นี่เอง ที่บันดาลไห้เขาเรียนแพทย์  และเรียนเกี่ยวกับโรคมะเร็งตอนนี้อกฤษกำลัง ศึกษาด้าน  สัตวศาสตร์  พฤกษศาสตร์  และเคมีไปควบคู่กัน  เขาหวังว่าเขาจะ ได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซักวันหนึ่ง

 

 

ที่มา: surat924

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...