รวม 10 เรื่องแปลกๆ

 

 

 

 

 

  ศุกร์หรรษาวาไรตี้วันนี้ผมจะมาพูดถึงของแปลกๆ ( อีกแล้ว ) หลังจากที่คราวก่อนพูดถึงสถานทีท่องเที่ยวแปลกๆ วันนี้ผมจะพูดถึง คน สัตว์ สิ่งของ แปลกๆกัีนบ้าง ซึ่งผมจะจัดมา 10 อันดัีบ ในแต่ละอันดับลก็มี่ความแปลกประหลาดแตกต่างกันออกไป ในบางอันดับก็..เอิ่ม ไม่คาดคิดดว่าจะเป็นไปได้ ยังไงก็ไม่ชอเกริ่นสปอยล์ เชิญอ่านกันได้เลยครัชช

 

อันดัีบที่ 1 พ่อครับแม่ีครับ....ผมท้องครับ!!

 หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนบ้านไหนได้ยินแบบนี้จากปากของลูกชายคงหงายเงิบกันเป็นแถวเพราะว่าคงไม่มีชายคนใดท้องได้อย่้างแน่นอน แต่ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งตั้งครรภ์หรือท้องจริงๆครับแถมก่อนหน้านี้เคยมีลูกมาก่อนแล้วด้วย!!!!

 เรื่องการท้องของชายคนนี้เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน ชายคนนี้มีชื่อว่า " Thomas Beatie( โทมัส บิตตี้ )  " อายุ 34 ปีชาวอเมริกา มีร่างกายกำยำ หนวดเคราดกดำ รวมไปถึงสภาพร่างกายที่บ่งบอกได้ว่านี่คือชายแท้ๆ แต่ความจริงแล้วก่อนที่เขาจะเป็นชายกำยำเขาเคยเป็นหญิงมาก่อน แต่ไม่ใช่เพราะเขาเคยเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วตุ้งติ้งนะครับ เขาเคยเป็นสาวหรือพูดง่ายๆคือเขาเป็นหญิงสาวจริงๆ เพราะว่าแท้จริงแล้วโทมัสนั้นเป็นหญิงแปลงเพศ โดยชื่อจริงนามสกุลเดิมของเขาคือ " เทรซี่ ลากอนดิโน " เป็นสาวน้อยที่สวยมาก มีดีกรีเป็นถึงนาวงามวัยรุ่นของฮาวายเลยทีเดียวเชียว แต่ด้วยความที่อยากเป็นผู้ชาย ทำให้เขา ( หรือเธอ ) นัี้นตัดสินใจที่จะแปลงเพศเป็ยชายแท้เต็มตัว

  ส่วนสาเ้หตุที่เขายังตั้งท้องได้ทั้งๆที่แปลงเพศแล้วเป็นเพราะในการแปลงเพศนั้นไม่ได้ตัดมดลูกทิ้งไป จึงทำให้สามารถตั้งท้องได้ภายใต้ร่างกายของชายทั้งแท่ง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยมีลูกครั้งนึง แถมเป็นลูกแฝดซะด้วย เพราะได้รับสเปิร์มที่มีการนำเอามาบริจาคสำหรับคนที่มีบุตรยาก แต่การตั้งท้องของโทมัสนั้นอยุ่ในตำแหน่งที่ผิดปกติทำให้เเด็กแท้ง จึงทำให้พลาดโอกาศแรกไป

 ปัจจุบันนี้ลูกของโทมัสคงโนพอที่จะวิ่งเล่นแล้วเพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเดป็นข่าวเมื่อหลายปีก่อน  แถมอาจจะมีเบเบ๋คนใหม่แล้วก็ได้เพราะโทมัสบอกว่าหลังจากคลอดลูกคนแรกก็อาจจะมีลูกคนถัดไป    ( ข้อมูลจาก kapook.com ครับผม)

 

 

อันดับ 2 เด็กวัยรุ่นติดกัญชากับข้อหาล่วงละเมิดศพ!!!

  ฟังชื่อแล้วแปลกไหมครับ โดยเฉพาะข้อหาล่วงละเมิดศพ ผมอ่านตอนแรกกก็งงเหมือนกันว่าข้อหานี่ท่านได้แต่ใดมา 555+ แต่สรุปแล้วว่าข้อหานี้มีอยู่จริง ซึ่งคนที่โดนข้เอหน้านี้เข้าไปเป็นเด็กวัยรุ่นที่เสพติดกัญชาแต่สูบกัญชาด้วยบ้องกัญชาที่โคตรพิศดารและน่าขนหัวลุก

 เรืองนี้เกิดขึ้นในรัฐแท็กซัสครับ โดยต้นเรื่องต้นราวต่างๆมันเกิดขึ้นกลังจากที่เด็กวัยรุ่นคนเกิดปากปริออกมาว่าเขามีบ้องกัญชาทีทำจากกระโหลกมนุษย์ในระหว่างการให้ปากคำหลังจากโดนจับข้อหาย่องเบาเข้าบ้าน โดยกระโหลกอันนี้ได้มาจาการแอบไปเอามาจากหลุมศพแห่งหนึุ่งในตอนที่แอบไปขโมยของในสุสาน โดยทำร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งในตอนแรกนั้นตำรวจไม่เชื่อเรื่องนี้ ( ก็แน่นอนอยู่นะ ใครมันกล้าบ้าบินถึงขั้นเอากระโหลกคนมาทำบ้่องกัญชา ) แต่ว่าเอาเข้าจริงตำรวจกก็อาจจะเงิบไปหลายตลบเพราะหลังจากทีทำการตรวจค้นบ้านก็พบกระโหลกมนุษย์จริงๆ ยิ้งไปกว่านั้นมีการตรวจสอบพบว่ากระโหลกอันนี้เป็นของเด็กชายวัย 11 ปีที่เสียชีวสิตมาแล้วกว่า 87 ปีด้วยกัน ทำให้วัยรุ่นคนนี้โดนอีกข้อหาหนึ่งซัดเข้าไปนั่นก็คือข้อหา " ล่วงละเมิดศพ " แล้ว....ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าของกระโหลกยังคงตามหาหัวของตัวเองอยู่รึเปล่่า บรื่อออ ~

 

 

 

 

 อันดับ 3 เท้าที่หายไป...

 เรื่องนี้อาจจะแปลกและหลอนกว่าอันดัีบ 2 นะครับนะเพราะครางนี้ไม่ใช่หัว แต่เป็น " เท้า " แถมเ้ป็นเท้าที่มีรองเท้าติดมาด้วย แถมไม่ใช่แค่เท้าเดียวเพราะมีการพบกว่้า 6 ข้างเป็นอย่างต่ำ

 เท้าเหล่านี้ถูกพบในชายฝั่งของแคว้นบริติช โคลัมเบียของแคนนาดาในเดือนสิงหาคมเมื่อปี 2012 ซึ่งจำนวนที่พบนั้นมีจำนวน 6 ข้างเป้นอย่างต่ำ เรตื่องนี้ทำให้บรรดาทีมสอบสวนของโคมเบียนั้นถึงกับงงว่ามันมจากไหนและเป็นของผู่ใด๋กัน โดยเท้าแต่ละข้างนั้นจะมีร้องเท้าสวมใส่อยู่ โดยคู่แรกที่ถูกพบนั้นถูกพบที่ชายหาดในรัฐวอชิงตัน สภาพนั้นใส่รองเท้าหนังสีดำหุ้มข้อ ส่วนคู่ล่าสุึดใส่รองเท้ากีฬายี่ห้อ Balance (โห เล่นของแพงซะด้วย ) ถูกพบมาเกยอยู่ที่ปากแม่น้ำแห่งหนึ่ง ทางงใต้ของนครแวนคูเวอร์

  เท้าข้างหนึ่งที่ถูกพบในแคนนาดาเป็นของชายที่ได้หายสาปสูญไป และอีก 2 ข้างที่เหลือนั้นเป็นของคนละคนกัน ทางด้านแพทย์ได้กล่าววว่ีาเท้าที่หลุดลอบมานี้อาจจะมาจากศพที่ถูกซัดออกไปนอกชายฝั่ง อันเนืิ่้องมาจากโดนภัยพิบัติต่่างๆ หรือแม้แต่โดนฆ่าตกรรม แต่ไม่ว่าจะสาเหตุประการใดก็แปล้วแต่ บรรดาเท้าเหล่านี้ก็สร้างความหวาดผวาให้แก่นักท่องเที่ยวจนไม่กล้าลงเล่นนน้ำชายหาดนั้นกัรนเลยทีเดียว

 

 

 อันดับ 4 เดี๊ยนยังซิงนะฮะ

 คราวนี้มาดูเรื่องแปลกของสัตว์กันบ้างนะครับนะ สัตว์ที่จะกล่าวถึงคือ " ฉลาม " นั่นเองครับ ถ้า้ถามว่าฉลามตัวนี้มีความแปลกตรงไหน สามารถบินได้ เดินบนดินได้ หรือพูดได้หรือยังไง แต่ความแปลกของมันคือฉลามตัวนี้มีลูกโดยไม่ต้องผสมพันธุ์!!!

  ฉลามตัีวนี้มีชื่อว่า " Tiddit " เป็นฉลามเพศเมีย พันธุ์หลังดำ ลำตัวยาว5 ฟุต ถูกพบว่าตายอยูที่อวอเรี่ยม ในรัฐเวอร์จิเนียร์ สาเหตุมาจากการตายทั้งกลม เพราะปัญหาจาสกการตั้งท้องในเดือนตุลาคม ซึ่งสิ่งที่บอกว่าตัวเธอนั้นไม่ได้ตั้งท้องจากการผสมพันธุ์ (หรือการปฏิสนธิแบบไม่ต้องมีการผสมพันธุ์ ) มาจากการตรวจซา่กลูกปลาภายในท้องของเธอ ลูกของเธอนั้นมีขนาดยาว 10 นิ้ว แถมพัฒนาการใกล้สมบูรณ์แล้วด้วย

  ซึ่งTiddit ไม่ใช่แม่ฉลามตัวแรกที่มีการตั้งท้องโดยไม่ต้องผสมพันธุ์ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีแม่ฉลามหัวฆ้อนตัวหนึ่งเกิดกรณีเช่นนนี้เหมอืนกันในรัฐเนบราสก้า

 

 

 อันดับ 5 น้องหนูอยู่ในท้องค่ะ!

 ยังอยุ่ในเรื่องของท้องใส้นะครับ แต่คราวนี้รับรองว่าแปลกกว่าแม่ฉลามกับโทมัสแน่นอน เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกดับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่พบว่าน้องฝาแฝดของเธออยู่ในท้องของเธอ!!!!!

  เรื่องนี้เกิดขึ้่นในกรีกครับ เรื่องราวมันมีอยูว่าเด็กสาวคนหนึ่งเดินทางไปหาหมอเพราะรู้สึกปวดท้องแถมท้องของเธอก็บวมโตขึ้นเรื่อยๆ ผลการตรวจพบว่าสิ่งที่อยู่ในท้องของเธอไม่ใช่อาการบวมน้ำหรือโรคภัยใดๆ แต่มันคือ " น้อง " ของเธอเอง หลังจากนั้นก็มีการผ่าออกมาอย่างปลอดภัย

  โรคนี้คุณหมอบอกว่าเป็นโรคที่เกิดได้แค่ 1 ใน 8 คน มีชื่อโรคว่า " Vanishing Twin Syndrome " หรือที่รู้จักกันคือโรคแฝดที่ศูนหา่ย โดยลักษณะอาการคือตัวอ่อนของแฝดนั้นจะซ้อนอยู่ในตัวของคู่แฝด หรืออยุ่ในตัวของผู้เป็นแม่ในแบบที่มองไม่เห็น

 

 

 อันดับ 6 เหตุเกิดจากแม่หม้าย!!

 เรื่องนี้จะเรียกว่าแปลกหรือตลกดีก็ไม่รู้ เพราะว่าเป็นเรื่องทืี่เกี่ยวกับคู่รักสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ฝ่ายภรรยาฟ้องหย่าสามีด้วยเหตุผลที่ว่าสามีของเธอเนั้นมีชู้เป้นสาวในเกมส์

  เรื่องมันมีอยุ่ว่านาง " เอมี่ เทเลอร์  " ได้หย่ากับสามีองเธออันเนื่องมาจากว่าสามีของเธอมีความสมัพันธุ์ฉันชู้สาวกับหญิงหม้ายคนหนึุง ซึ่งความจริงแล้ว้เป็นหญิงหม้ายในเกมส์ " Second Life " หญิงหม้ายคนนี้มีประวัิติคือมีลูก 2 คน อาศัยอยู่ในรัญอาร์คันซอร์ ซึ่งเหตุผลของเอมี่คือ " ในเมื่อนอกใจกันในเกมส์ ก็เหมือนนอกใจกันในชีวิตจริง " ซึ่งเธอได้ใช้เหตุผลนี้ในการหย่าด้วย

 เอมี่นั้นแต่งงานกับสามีของเธอเมื่อปี 2005 หลังจากหย่ากันเอมี่ก็ได้พบรักครั้งใหม่ซึ่งพบกันผ่านเว็ปไซต์ ส่วนอดีตสามีของเธอก็ได้หมั้นหมายกับแม่หม้ายคนนั้น =_= ( เหล่าโอตา่คุทั้งหลายศึกษากรณีนี้ไว้เป้นตัวอยางนะครับนะ เวลามีครอบครัวแล้วก็อย่าได้ไปมีใจกับสาว 2D ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะโลลิคอนหรืออะไร เพราะไม่งั้นคุณอาจจะกลายเป็นอีก 1 รายที่เจอเรื่องแบบนีร้นะครับ แหม่ )

 

 

 

 

 

 อันดับ 7 ฟิชชิ่งคลีนนิ่งเซอร์วิส!!!

 หากใครเคยใช้บริการ "สปาปลา " หรือการทำความสะอาดlส่วตต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะมือและเท้า ด้วยฝูงปลาตัวเล็กตัวน้อยคงร้องอ๋อ เพราะเมื่องไทยบ้านเราก็มีสปาแบบนี้เหมือนกัน แต่หารู้ไม่ว่าสปาปลานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกห้ามในรัฐเท็กซัสและวอร์ชิงตัน!

  จอห์น โฮ ช่างทำผมในเวอร์จิเนียร์ได้นำเอาสปาปลามาลองใช้ในร้านตัวเอง หลังจากนั้นก็พบว่มทียอดจำนวนลูกค้าสูงถึง 5,00คนใช้บริการนี้  หลักการทำงานของสปาปลาหลายๆคนอาจจะรู้ดี คือ เอาเท้าหรือส่วนที่ต้องการของคุณจุ่มลงไปในอ่างน้ำที่มีการปล่อยปลาเอาไว้ หลังจากนั้นจะมีฝูงปลานับร้อยแห่กันมารุมตอดหรือกัดกินผิวหนังที่ตายและด้านซึ่งถือเป็นการทำความสะอาดเท้าอย่างหนึ่ง หลังช่างทำผมในร้านต่างๆก็พากันลอกเลียนแบบวิธีนี้ของโฮกันเป็นแถบๆ แต่ในเท็กซัสและวอร์ชิงตันกลับกลายเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ถึงอย่างรนั้นโฮก็ยังคงได้ชื่เสียงเพราะสปาปลาอยุ่เรื่อยๆ

 

 

 อันดับ 8 มากินไอติมนม ( คน ) กันเต๊อะ!!

  ผมเชื่อว่าหลายๆท่านๆหลายๆคนชอบกินไอสครีมหรือไอติม แต่ละคนอาจจะมีรสชาติืที่ตนเองโปรดปรานที่แตกต่างกันออกไป เช่น รสช็อกโกแล็ต รสชาเขียว บลาๆ แต่ถ้าเป็นรส " นมคน " ล่ะครับ สนใจจะรับสักถ่วยไหมครับ ???

 เรื่องนี้เป็นที่มาจากกลุ่มสิทธิืสัตว์ หรือกลุ่ม Peta ได้ส่งจดหมายถึงบริษัทไอสครีมบริษัทหนึ่งชื่อว่า " Ben & Jerry 's " โดยเนื้อความของจดหมายคือเรียกร้องให้มีการนำเอานมของคนมาใช้แทนนนมโคหรือนมวัว โดยอ้างว่้่า นมวัวนั้นเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคภูมิแพ้่กรุงเทพ ( ไม่ใช่ละ ) แต่ทางบริษัทได้กล่าวปฏิเสธ ในขณะที่พนักงานของบริษัทได้บอกว่าามันนน่าขยะแขยง

 

  ภายหลังนาย " อิงกริด นิวเคิร์ท " ประธานของกลุ่มได้ออกมาบอกว่านี่เป็นแผนในการณรงค์ เพื่อดึงความสนใจของสาธารณะชนไปยังเรื่องที่ลูกวัวถูกพรากจากแม่วัวเพื่อนำไปชำแหละเป็นเนื่อวัวส่งขาสย ส่วนแม่วัวก็จะถูกรีดนมต่อไป ( ผมว่าเป็นแคมเปญที่มีสาระมากเลยทีเดียว )

 

 

 

 

อันดับ 9 ไททันลิง!!

  ใครที่เป็นแฟนของอนิเมะและมังงะสุดโด่งดังอย่าง " Attack on Titan " หรือชื่อไทยว่า " ผ่าพิภพไททัน " หากอ่านไปถึงตอนที่ 40 กว่าๆคงร้องอ๋อ หากใครยังอ่านไม่ถึงก็ถือว่าผมสปอยล์ล่วงหน้าละกัน แต่ถ้ัาใครไม่ได้รู้จักกันอ่านผ่าานๆไปละกันนะครับนะ อิอิ

  ตามความจริงแล้วเจ้านี่ไม่ใช่ไททันลิงจริงๆหรอกครับ จริงๆแล้วมันชื่อว่ี่า " บิ๊กฟุ๊ต " เป็นสัตว์ในตำนานของแถมอมเริกา มีร่างกายเป็นเหมือนลิงแต่รูปร่างคล้ายมนุษย์ ( ผมเลยเอาไปเทียบกับไททันลิง ) แต่ยากมากที่ใครต่อใครจะได้เห็น จนวันนึง " ริค ไดเยอร์ " กับ " แม็ต วิตตัน " ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาทั้งสองได้เจอบิ๊กฟุ๊ตแ้ล้วพร้อมทั้งมีซากของสิ่งที่เขาอ้างว่าเป็นบิ๊กฟุ๊ต

 ลักษณะของมันคือมีคนรกรุงรังเหมือนลิง มีเลือดโชกทั้งตัวซึ่งอาจจะมาจากการโดนทำร้าย แต่ภายหลังก็กลายเป็นแค่เรื่องหลอกเล่นเพราะว่าทีมแพทย์ได้ตรวจพิสูจน์และยืนยันว่าแท้จริงแล้วเป็นการยำเอาเครื่องในสัตว์มายัดใา่ชุดกอริลล่ายางเท่านั้นเอง หลังจากนั้นริคกับแม็ตก็โดนไล่ตะเพิดออกจากงานตำรวจ แล้วก็ออกมาเปิดเผยว่าเขาต้องการให้มันเป็นแค่เรืท่องตลกเท่านั้น ( เป็นเรื่องตลกที่ โหดฝัด จริงๆ )

 

 

 อันดับ 10 ขายตัวพร้อมแพ็คเกจ!!!

  อันดับสุดท้ายนี่จริงๆอยากยกให้เป็นอันดับ 5 นะครับนะ เพราะว่าเรื่องนี้เกี่ยวขจ้องกับการ " ขายตัว " แต่อย่าเพิ่งเดข้าใจผิดว่าขายตัวแบบนั้นนะครับมันหมายถึงการขายตัวเองให้คนอื่นแถมไม่ได้ขายตัวเปล่ายังแถมบรรดาสวัสดิการและโปรโมชั่นต่่างๆเข้าไปด้วย

 

 ชายคนนี้มีชื่อเสียงเรียงนามว่า "  เอียน อัชเชอร์  " วัย 44 ปี มีอาชีพเป็นเซลแมนขายพรม เขาตัดสินใจประกาศขายตัวเองบนอีเบย์ ซึ่่งมีคนมาประมูลเป็นจำนวนเงินกว่า 380,000 ดอลล่า ( ตีเป็นเงินไทยได้ประมาณ 13 ล้านบาทครับ )  ซึ่งสิ่งที่จะได้ไหนั้นอย่างที่กล่าวไปข้างต้นคือมีแพ็คเกจเสริมอื่นๆอีก เช่น รถมาสด้า ซีดานย รุ่นปี 1989 บ้าน 1 หลังขนาด 3 ห้องนอน ,เจ็ทสกี 1 ลำ เป้นต้น

 

 เอียนประกาศขายชีวิตตัวเองหลฃังจากที่โดนภรรยาของเข้าทิ้งไป ส่วนเงินที่ได้นั้นในตอนแรกเอียนกล่าวว่าเขาคิดว่าจะพได้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายเขาก็บอกว่ามันเพียงพอในการสร้างชีวิตใหม่พร้อมเป้าหมาย " การเดินทางเที่ยวรอบโลก " และทำสิ้งต่างๆ 100 อย่าง ภายใน 100 สัปดาห์ ซึ่งเขามีแผนที่จะเขียนเรื่องราวต่างๆลงบล็อก

 

 

 หมดแล้วครับสำหรับ 10 อันดับเรื่องแปลก ภาค 2 ยังไงก็อ่านกันแบบบันเทิงๆนะครับนะ อย่าซีเรียสกันล่ะ เพราะว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาบ้านเราก็ร้อนระอุกันมาตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไรนะครับนะ ซึีงอาจจะสร้างความซีเรียสและความไม่สะบายใจให้หลายๆคน วันนี้ก็เลยอยากเอาเรื่องแบบนี้มาให้อ่านกันเพื่อผ่อนคลายกันขำๆกัน ยังไงก็ขอให้มีความสุขกับวันหยุึดที่จะมาถึงกันนะครับนะ ^_^

 

5 มี.ค. 57 เวลา 17:33 10,020 1 120
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...