ตัดเหงือก ผ่าตัดเหงือก เพื่อรอยยิ้มใหม่ มั่นใจกว่าเดิม




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ wittyfemale สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

          นับเป็นปัญหาที่น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวนะคะ สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากอย่าง การมีเหงือกที่ค่อนข้างใหญ่หรือเยอะ จนทำให้บางคนถึงกับเสียบุคลิกและรู้สึกไม่มั่นใจ ไม่กล้าหัวเราะหรือพูดกับใครได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากกลัวว่าเวลาพูดหรือยิ้มแล้วเหงือกจะโผล่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สาว ๆ หลายคนสนใจการศัลยกรรมตัดเหงือก เพื่อช่วยลดขนาดเหงือกให้ดูเล็กลง และคืนความมั่นใจให้รอยยิ้มดูสวยมั่นใจได้อีกครั้ง แต่ทว่าการผ่าตัดเหงือกนั้นจะเห็นผลชัดเจนมากน้อยแค่ไหน หรือน่ากลัวอย่างที่คิดไว้หรือเปล่า วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมตัดเหงือกและกระดูกเหงือก จาก คุณ wittyfemale สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาฝากสาว ๆ ที่กำลังสนใจการทำศัลยกรรมประเภทนี้กันด้วย ว่าแต่ผลลัพธ์ของเธอจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น เราไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย

 



          สวัสดีค่ะทุกคนนี่เป็นการรีวิวครั้งแรก กรุณาดูเพื่อความบันเทิงนะคะ อย่าหาสาระมากมาย เพราะอาจจะไม่ค่อยมี 5555 คือเราเป็นคนที่ยิ้มแล้วจะเห็นเหงือกเยอะมากกกก จนทำให้แบบไม่มั่นใจเลย เวลาถ่ายรูปก็จะแบบยิ้มไม่ให้เห็นฟันตลอด เวลาหัวเราะนี่แบบ เอิ่ม คือบานมากอ่ะค่ะ แม่จะเตือนตลอดว่าอย่ายิ้มเยอะ คือเซ็งอ่ะ บอกเลย
 

อันนี้คือรูปก่อนตัดเหงือกนะคะ อาจจะดูไม่ค่อยชัดขอโทษนะคะ เพราะหารูปยากมาก 
ปกติจะไม่ค่อยยิ้มเห็นฟัน

 




          เราก็เลยสนใจอยากตัดเหงือกก็เลยหาข้อมูลจากรีวิวคนอื่นตามปกติ ดูรีวิวเยอะมากคิดอยู่นานเพราะว่ากลัวมาก กลัวเจ็บ กังวล วิตกทุกอย่างว่างั้นเหอะ เพราะดูรีวิวบางอันแบบเลือดนองจะเป็นลม ก็เลยหาดูที่แบบตัดใช้เหงือกแบบใช้เลเซอร์ หรือแบบมีดไฟฟ้าที่มันจะไม่ค่อยมีเลือด

          หลังจากนั้นก็เลยตัดสินใจที่จะทำตั้งใจว่าจะทำแบบเลเซอร์ก็เลยโทรนัดจะเข้าพบ ปรึกษาคุณหมอ พอโทรไปนัดคุณหมอไม่ว่างเลย ต้องรอคิวอีก  1 เดือน รอจนลืม...

          พอมาถึงวันที่หมอนัดซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ก็เข้าไปพบคุณหมอ คุณหมอก็ให้ยิ้มแบบเต็มที่ เอาแบบเต็มที่เลยนะ ยิ้มแบบหัวเราะเลย เราก็จัดให้ค่ะตามหมอสั่ง หมอก็บอกว่า อื้ม... หมอว่าน่าจะตัดออกได้สัก 2-3 มิลลิเมตร เอาออกสัก 10 ซี่ เพราะเป็นคนยิ้มกว้างจนเห็นฟันข้างใน แต่ต้องตัดกระดูกด้วยนะ  เราก็ ห๊ะ !!!!! อะไรนะคะตัดกระดูก คือหนูกลัวอ่ะค่ะ คือหมอบอกว่าถ้าไม่ตัดเหงือกมันก็มีโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิม เพราะมันยังมีฐานให้เกาะอยู่ เราก็เลยถามว่าจะเจ็บไหมคะ หมอบอกไม่เจ็บหรอก ตัดกระดูกหรือไม่ตัดก็เหมือนกันเพราะใช้ยาชา เราก็เลยตัดสินใจ เอ้า..ทำก็ทำ คุณหมอก็เลยนัดให้มาผ่าตัดเดือนหน้า เราก็เลยดีใจมีเวลาทำใจอีก 1 เดือน ชิล ๆ

          แต่พอวันจันทร์โทรมาบอกเราว่า วันพรุ่งนี้คุณหมอมีคิวว่างมีคนไข้ยกเลิกนัด น้องจะทำเลยไหมค่ะ เอ่อ.. คือพี่คะ มันเร็วไปไหม เราก็เลยแบบบอกเค้าไปว่า เดี๋ยวขอคิดแป๊บ และก็เลยตอบตกลงไปค่ะ 55555 เพราะคิดว่าจะช้าหรือเร็วก็เจ็บเหมือนกัน

          วันที่หมอนัดผ่าตัด ตอนแรกหมอจะทายาชาให้ก่อนที่จะฉีดยาชาค่ะ เราก็เลยไม่รู้สึกเจ็บตอนฉีดยาชา ดีใจมาก คือฉีดเยอะมากนับไม่ถ้วน จะรู้สึกว่ามีอะไรมาจิ้มแต่ไม่เจ็บค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็ใช้มีดไฟฟ้าค่อย ๆ ตัดไปที่เหงือก จะได้กลิ่นแบบไหม้ ๆ เหมือนหมูไหม้ค่ะ นั่นคือเหงือกเรานั่นเอง และก็ถึงตอนตัดกระดูกต้องเปิดเหงือกขึ้นไปก่อน เพื่อที่จะตัดกระดูกค่ะ มันเป็นอุปกรณ์แบบคล้ายเอาไว้กรอฟันมั้งนะ ไม่แน่ใจเพราะไม่เห็นค่ะ แต่มากรอที่กระดูกเหงือกอ่ะค่ะ คือแบบหัวสั่น 555 เสียงมันจะเข้าไปรบกวนโสตประสาทสมองนิดหน่อย แต่ในขณะทำไม่เจ็บเลยนะคะ ขอบคุณผู้คิดค้นยาชา มันมหัศจรรย์มากจริง ๆ และถ้าเริ่มรู้สึกเจ็บให้ยกมือหมอจะฉีดยาชาเพิ่มให้  และพอมาถึงขั้นตอนการเย็บเราก็แอบมองลอดผ้าปิดหน้าก็จะเห็นคุณหมอดึงด้ายไปมา เย็บเสร็จก็เสร็จละค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หมอก็จะเอากระจกมาให้เราดูว่าพอใจไหม เราถามว่ามีเลือดเยอะไหมคะ คือกลัวไม่อยากดู คุณหมอบอกว่าก็จะมีเลือดซึม ๆ บ้าง แต่อีกแป๊บเดียวก็จะหาย

          อันนี้คือรูปหลังทำเสร็จแบบใหม่ ๆ เลยนะคะ คือแอบน่ากลัวนิดนึง เพราะคุณหมอไม่ได้แปะกัมให้ หมอบอกว่าไม่ต้องแปะดีกว่าจะหายเร็วก็เลยตามนั้นค่ะ ถามว่าเห็นแล้วกลัวไหม ตอบเลยว่ากลัวค่ะ
 






          จะเห็นว่าเหมือนมันจะน่ากลัวและจะเจ็บ ขอบอกเลยว่ามันเจ็บน้อยกว่าที่เห็นมากค่ะ คือไม่เจ็บเลย เราคิดว่าคืนแรกจะต้องปวดแน่เลย ปรากฏว่าไม่เลยค่ะ รู้สึกปวดนิดเดียวก็กินยาแก้ปวดทุก 4 ชั่วโมง เรากินไปแค่ 2 รอบเองค่ะ เพราะมันไม่เจ็บและไม่ปวด

          การดูแลหลังทำคุณหมอบอกว่าให้บ้วนปากก่อน 2-3 วันแรก คุณหมอให้น้ำยาบ้วนปากมาค่ะ และก็ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ส่วนฟันล่างก็แปรงฟันได้ตามปกติค่ะ


          อันนี้ประมาณ  3 วันหลังทำค่ะ ที่เห็นดำ ๆ นี่คือรอยไหมนะคะ ก็กินได้นะคะ แต่ต้องระวังนิดหน่อย อย่ากินของเย็นมาก-ร้อนมาก ของเผ็ดนี่งดก่อนนะคะ
 



          รูปนี้ประมาณ 5 วัน ค่ะ คือแผลหายเกือบหมดและค่ะ กินได้ตามปกติเลยค่ะ ที่เห็นดำ ๆ นี่คือไหมนะคะ
 



          พอครบ 10 วัน เราไปเอาไหมออก ปกติหมอนัด 7 วันให้ไปเอาออก พอดีเราไม่ว่าง ตอนเอาไหมออกนี่ชิลเว่อร์
 



 

          รูปตอนเอาไหมออกเรียบร้อยแล้วค่ะ


          โดยส่วนตัวเรานะคะแนะนำค่ะ ถ้าใครอยากทำจะบอกว่ามันไม่เจ็บเลย เหมือนจะน่ากลัวตอนฟังชื่อว่าตัดเหงือกตัดกระดูก เรามียาชาช่วยค่ะ เราประทับใจคุณหมอมาก คุณหมอน่ารักมากค่ะ มือเบามาก หลังทำเหงือกเราช้ำน้อยมาก แผลหายเร็ว เย็บสวย ตัดเหงือกให้โค้งพอดีกับฟันเรา ชอบมากค่ะ ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ

          สุดท้ายแล้ววว ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยื่ยมชมการแชร์ประสบการณ์ตัดเหงือกของเรา คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ กับคนที่อยากทำนะคะ มีอะไรติชม หรือแนะนำได้เลยนะค่ะ ขอบคุณค่า
 



          นับว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับสาว ๆ ที่มีปัญหาเหงือกใหญ่อยู่ไม่น้อยทีเดียว เพราะนอกจากการทำศัลยกรรมตัดเหงือกและการตัดกระดูกเหงือกจะช่วยลดหรือแก้ไขปมด้อยอย่างการมีเหงือกใหญ่ได้แล้ว ยังช่วยเปลี่ยนรอยยิ้มของคุณให้สวยมีเสน่ห์ขึ้นได้ เรียกได้ว่าอย่างกับสร้างรอยยิ้มใหม่ขึ้นมาใหม่เลยล่ะ ว้าว...งานนี้สาว ๆ ก็เตรียมยิ้มกว้างได้อย่างเต็มที่แล้วล่ะสิ ^_____^

#ตัดเหงือก
Lost City
เจ้าของบทประพันธ์
สมาชิก VIPสมาชิก VIPสมาชิก VIP
23 ม.ค. 57 เวลา 21:36 3,961
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...