นิทานสีขาว : ช็อกโกแลต

 

 

 

 

 

       บั๊ดเป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ อายุ 10 ขวบ วันหนึ่งป้าของบั๊ดมาเยี่ยมครอบครัวของบั๊ดที่บ้าน ป้าเพิ่งไปเที่ยวต่างประเทศมาจึงซื้อของมาฝาก พ่อ แม่ และบั๊ดมากมาย แต่ที่บั๊ดเห็นแล้วตาลุกวาวคือช็อกโกแลตแท่งโตที่ป้าบอกว่าเป็นยี่ห้อที่อร่อยที่สุดของประเทศนั้น
       
       ความจริงบั๊ดเป็นเด็กเอื้อเฟื้อคนหนึ่ง แต่ครั้งนี้เขาเลือกที่จะเก็บช็อกโกแลตไว้กินคนเดียว เพราะเป็นสิ่งที่เขาชอบมาก ดังนั้นเมื่อป้ากลับไปแล้วบั๊ดจึงคว้าช็อกโกแลตแล้ววิ่งเข้าไปในห้องนอนของตัวเองทันทีโดยที่พ่อและแม่ไม่ทันได้สังเกตเห็น
       
       'เอาเข้ามากินในห้องอย่างนี้ไม่มีใครแย่งเราได้ เราจะได้กินช็อกโกแลตแท่งนี้ให้เต็มที่ไปเลย' บั๊ดพูดกับตัวเองด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง
       
       บั๊ดลงมือแกะห่อช็อกโกแลตพลางจินตนาการถึงรสชาติเข้มข้นหวานมันที่กำลังจะแตะลิ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงร้อง เรียกชื่อเขาดังมาจากหน้าบ้าน
       
       "บั๊ด บั๊ด ยู้ฮู! บั๊ด"
       
       เสียงเรียกแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเพื่อน ๆ ของเขาเอง พวกนั้นคงชวนไปเตะฟุตบอลเหมือนทุกวัน แต่วันบั๊ดแสร้งทำหูทวนลมเสีย เพราะเขาอยากกินช็อกโกแลตมากกว่าออกไปวิ่งเล่น
       
       "บั๊ด บั๊ด เฮ้! บั๊ด อย่ามาทำไก๋ เรารู้นะว่านายอยู่บ้าน นั่นไง รองเท้านายวางอยู่นั่น เราเห็นนะเพื่อน"
       
       เพื่อนของบั๊ดฉลาดเป็นกรด บั๊ดจึงต้องวางช็อกโกแลตแล้ววิ่งไปที่หน้าต่าง
       
       "โทษทีเราหลับอยู่ พวกนายมีอะไรหรือเปล่า" บั๊ดชะโงกหน้าออกไปถามจึงได้รู้ว่าเพื่อน ๆ มากันหลายคนทีเดียว เพื่อนคนที่ตะโกนเรียกบั๊ดตอบว่า
       
       "จะมีอะไรล่ะ ก็มาชวนไปเตะบอลน่ะสิ นายนัดพวกเราเองนะ จำไม่ได้รึไง"
       
       "วันนี้เราไปไม่ได้แล้ว พวกนายไปเล่นกันก่อนเถอะ"
       
       "ทำไมล่ะ"
       
       "เรา..." บั๊ดคิดคำแก้ตัว "อ้อ ใช่แล้ว เราต้องทำการบ้าน"
       
       "การบ้านอะไร" เพื่อนอีกคนถามขึ้น บั๊ดจึงได้รู้ว่ามีคนที่เรียนห้องเดียวกันกับเขาปะปนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย บั๊ดตกใจ "ไม่มีสักหน่อยนี่นา" เพื่อนห้องเดียวกันคนนั้นหันไปพูดกับคนอื่น ๆ แล้วเด็กชายที่ตะโกนเรียกบั๊ดจึงร้องถามบั๊ดว่า
       
       "เฮ้ บั๊ด นายเป็นอะไรกันแน่..หรือว่าพ่อซื้อเกมใหม่มาให้แล้วแอบเล่นคนเดียว..ดีล่ะ พวกเราจะขึ้นไปบุกห้องนอนเพื่อเล่นเกมสุดมันนั้นด้วย"
       
       'ถ้าพวกนี้มาเห็นช็อกโกแลตเรา เราก็จำต้องแบ่งให้ แล้วจะเหลือกินเองสักเท่าไรล่ะ' สมองของบั๊ดคิดเรื่องช็อกโกแลตขึ้นมาทันที แล้วปากเขาก็ร้องขึ้นเร็วเท่าความคิดว่า
       
       "ไม่มี ๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้น เอาล่ะ ๆ เราจะลงไปเดี๋ยวนี้ พวกนายรออยู่ตรงนั้นแหละ"
       
       พูดจบบั๊ดก็วิ่งกลับมาที่เตียงนอนแล้วเอาช็อกโกแลตที่แกะค้างไว้แต่ยังไม่ได้กินแม้แต่น้อยซุกไว้ใต้ผ้าปูที่นอน เพราะเป็นที่ที่เขาแน่ใจว่าจะปลอดภัยจากมนุษย์ทุกคนในโลก จากนั้นจึงวิ่งลงไปหาเพื่อน ๆ ที่รออยู่ด้านล่าง
       
       เด็ก ๆ เล่นฟุตบอลกันตั้งแต่บ่ายถึงเย็นจึงชวนกันเลิก วันนี้ทุกคนยังไม่กลับบ้านของตัวเองทันที แต่กลับชวนกันไปเล่นที่บ้านของบั๊ดต่อ บั๊ดซึ่งมีใจพะวงถึงแต่ช็อกโกแลตใต้ผ้าปูที่นอนอยู่ตลอดเวลาจำต้องตอบรับคำขอของเพื่อน ๆ อย่างเสียไม่ได้

ปกติเวลาบั๊ดชวนเพื่อน ๆ มาเล่นที่บ้าน เขาจะพาเพื่อน ๆ ขึ้นไปเล่นบนห้องนอน แต่วันนี้บั๊ดไม่เอ่ยปากชวนใครขึ้นไปบนห้องนอนของเขาเลย ดีที่แม่ของบั๊ดทำขนมอบไว้จึงนำขนมอบและน้ำหวานมาให้บั๊ดและเพื่อน ๆ กินกันอย่างอิ่มหนำสำราญ ทุกคนสนุกสนานเฮฮายกเว้นบั๊ด แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็น
       
       'เมื่อไรเจ้าพวกนี้จะกลับไปเสียทีนะ เราเสียเวลาอยู่กับพวกมันมาทั้งวันแล้ว เราอยากกินช็อกโกแลตของเราเสียที' บั๊ดคิดซ้ำไปซ้ำมาด้วยความหงุดหงิด
       
       กระทั่งถึงเวลาอาหารเย็น เด็ก ๆ จึงขอตัวกลับบ้าน บั๊ดดีใจมากแต่ต้องเก็บซ่อนอาการไว้ ครั้นเพื่อน ๆ กลับไปจนหมดแล้ว บั๊ดจึงรีบวิ่งขึ้นบันไดแต่สวนกับพ่อที่เดินลงมา และถามบั๊ดว่า
       
       "ลูกเห็นช็อกโกแลตที่ป้าซื้อมาฝากบ้างไหม เห็นป้าบอกว่าอร่อยนักหนา พ่อก็เลยจะชิมดูเสียหน่อยว่ารสชาติเป็นอย่างไร แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอสักที"
       
       บั๊ดอึก ๆ อัก ๆ เพราะไม่ค่อยอยากแบ่งช็อกโกแลตให้ใคร แต่เมื่อเป็นพ่อก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้นเขาจึงพาพ่อไปที่ห้องนอนและเปิดผ้าปูที่นอนออก ทันทีที่ได้เห็นของวางอยู่ สองพ่อลูกร้องออกมาด้วยความตกใจ
       
       ช็อกโกแลตแท่งนั้นยังวางอยู่ที่เดิม แต่ไม่อยู่ในสภาพที่จะกินได้อีกต่อไป เนื่องจากกองทัพมดได้จัดการกัดกินช็อกโกแลตแท่งนั้นจนกลายเป็นรูพรุนไปเสียทั้งแท่ง พ่อของบั๊ดจึงต้องเอาช็อกโกแลตแท่งนั้นไปทิ้งถังขยะก่อนจะมาสอบถามความจริงจากบั๊ดซึ่งทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
       
       เมื่อรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว พ่อก็พูดกับบั๊ดว่า "เพราะลูกแกะซองช็อกโกแลตทิ้งไว้ มดจึงได้กลิ่นและไปบอกเพื่อน ๆ ของมันให้มากินช็อกโกแลตด้วยกัน นั่นเป็นเพราะพวกมันไม่หวงสิ่งดี ๆ ไว้กับตนเพียงตนเดียว แต่รู้จักแบ่งปันสิ่งดี ๆ นั้นให้กับเพื่อน ๆ ของมันด้วย มดทุกตัวจึงได้กินช็อกโกแลตอร่อยแท่งนี้อย่างมีความสุข แต่สำหรับลูก ลูกคิดแต่จะกินให้อร่อยคนเดียว อยากมีความสุขเพียงคนเดียว สุดท้ายลูกก็จะไม่เหลืออะไรอย่างนี้เอง จำไว้นะ สิ่งดี ๆ มีไว้แบ่งปัน มิใช่เก็บไว้กับตัวเอง"
       
       บั๊ดปล่อยโฮด้วยความเสียใจที่ตัวเองตระหนี่ไม่รู้จักแบ่งปันสิ่งดี ๆ เพื่อคนอื่น จึงต้องเสียช็อกโกแลตไปทั้งหมด ต่อไปนี้เขาจะทำตัวเสียใหม่อย่างที่พ่อสอน
       
       พ่อกอดบั๊ดและปลอบเขาอย่างอ่อนโยน
       
       บทสรุปของผู้แต่ง
       
       เพียงแค่แบ่งปันสิ่งดี ๆ ที่เรามีอยู่แล้วให้คนอื่นบ้าง ไม่ต้องมากมาย แบ่งให้เขาเท่าที่เราจะให้ได้ และเพียงพอที่จะทำให้เราเห็นรอยยิ้มสวย ๆ และได้ยินเสียงหัวเราะดัง ๆ ของเขาก็พอ
       
       การแบ่งปันอาจจะทำให้เราเหลือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขน้อยลง แต่จะเพิ่มกลิ่นแห่งความสุขให้อบอวลอยู่ในโลกมากขึ้น และเราเองก็จะ ได้รับความสุขเพิ่มขึ้นอีกจากเรื่องดี ๆ ที่เราทำลงไป ก็เหมือนเวลาเราเล่าเรื่องตลกให้ใครฟังนั่นล่ะ เราไม่ได้ต้องการเงินทองจากเขาสักหน่อย เราแค่อยากให้เขายิ้มหรือหัวเราะไปกับเรื่องที่เราเล่า แค่นั้นเองที่เราอยากเห็น และแค่ได้เห็นก็ทำให้เรามีความสุขได้แล้ว

 

เครดิต : ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

ซ้ำขออภัยค่ะ  

ที่มา: manager.co.th
27 ต.ค. 56 เวลา 17:12 3,984 80
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...