10 อันดับพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก

 

 

 

 

 

 

อันดับที่ 10

      ได้แก่ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ครองราชย์มาแล้ว 23 ปี เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ปัจจุบันของประเทศญี่ปุ่น และเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 125 ตั้งแต่โบราณกาลของญี่ปุ่น ในปัจจุบันนี้พระองค์เป็นพระประมุขเพียงพระองค์เดียวในโลกที่ทรงดำรงพระ อิสริยยศเป็น สมเด็จพระจักรพรรดิ ในญี่ปุ่น การเอ่ยถึงพระจักรพรรดิ จะเรียกพระนามของพระองค์โดยตรงไม่ได้ เช่นเดียวกับในประเทศไทย แต่จะเอ่ยถึงพระองค์ว่า เทนโน เฮกะ หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิ และรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตจะเรียกว่า ยุคเฮเซ หลังจากที่สิ้นยุคของพระองค์แล้ว เราก็อาจจะขนานพระนามพระองค์ว่า จักรพรรดิเฮเซ

 

อันดับที่ 9

         ได้แก่ กษัตริย์มัสวาติที่ 2 แห่งประเทศสวาซิ แลนด์ ครองราชย์มาแล้ว 26 ปี ทรงมีพระชนมพรรษา 39 พรรษา พระองค์ถือครองทรัพย์สมบัติประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ และเป็นที่ทราบกันว่าทุกปีพระองค์จะทรงเลือกพระมเหสีองค์ใหม่ เช่นเมื่อปีที่แล้วก็ทรงให้สตรี 2 หมื่นคนที่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์มายืนเรียงแถวเพื่อทรงเลือก แต่โดยรวมแล้ว พระองค์มีมเหสี 13 องค์ แต่ละองค์จะสร้างวังให้อยู่ ไม่ปะปนกัน ส่วนกษัตริย์ที่ยังโสดคือเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก พระองค์ทรงได้รับฉายาว่า "เจ้าชายเพลย์บอย" ทรงครองอาณาจักรโมนาโก ซึ่งมีพื้นที่ขนาดเท่าสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ก ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระบิดาที่สวรรคตในปี 2005

อันดับที่ 8

          ได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ครองราชย์มาแล้ว 32 ปี เบียทริกซ์ วิลเฮลมินา อาร์มการ์ด เจ้าหญิงแห่งเนเธอร์แลนด์ เจ้าหญิงแห่งออเรนจ์-นัสเซา เจ้าหญิงแห่งลิปเปอ-บีสเตอร์เฟลด์ พระราชสมภพ 31 มกราคม พ.ศ. 2481) ทรงเสวยราชสมบัติสืบต่อเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 252

อันดับที่ 7

         ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปน ครองราชย์มาแล้ว 36 ปี เป็นพระมหากษัตริย์สเปน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี และได้เสร็จขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) ตามกฎหมายที่นายพลฟรันซิสโก ฟรังโกได้ตราขึ้นไว้ สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน คาร์ลอสที่ 1 ทรงเป็นหนึ่งในราชสันตติวงศ์ในสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราช อาณาจักร (ราชวงศ์ฮาโนเวอร์) พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส (ราชวงศ์บูร์บง) จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (ราชวงศ์ฮับส์บูร์ก) และกษัตริย์ราชวงศ์ซาวอยแห่งอิตาลีอีกด้วย สมเด็จพระราชาธิบดีฆวน คาร์ลอสที่ 1 ได้อภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีโซเฟีย

อันดับที่ 6

          ได้แก่ สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ ครองราชย์มาแล้ว 38 ปี ทรงเป็นประมุของค์ปัจจุบันแห่งราชอาณาจักรสวีเดน เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1946 ทรงเป็นพระโอรสในเจ้าชายกุสตาฟ อดอล์ฟ มกุฏราชกุมารในขณะนั้นและเจ้าหญิงซิบิลลาแห่งแซ็กซ์-โคบูร์กและก็อตธา เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งสวีเดนเมื่อวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 1973 

อันดับที่ 5

          ได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ครองราชย์มาแล้ว 40 ปี สมเด็จพระราชินีนาถฯ มิได้ทรงมีฐานะเป็นผู้สืบราชบัลลังก์โดยกำเนิด เนื่องจากกฎมณเฑียรบาลในสมัยนั้นมิได้อนุญาตให้พระราชธิดาขึ้นครองราชย์ได้ ซึ่งถ้าเป็นไปตามกฎหมายเดิมแล้ว รัชทายาทลำดับแรกจนกระทั่งได้มีการแก้ไขกฎมนเทียรบาลใหม่ในวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1953 ซึ่งอนุญาตให้พระราชธิดาขึ้นครองราชย์ได้ เจ้าหญิงมาเกรเธอในขณะนั้นจึงทรงมีฐานะเป็น Tronfølgeren หรือผู้สืบราชบัลลังก์ เจ้าหญิงมาเกรเธอทรงศึกษาระดับอุดมศึกษาทางด้านโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ระหว่างปีค.ศ. 1960-1961 ทางด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยอาร์ฮุสระหว่างปี ค.ศ.1961-1962 และที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ในปีค.ศ. 1963 ทางด้านเศรษฐศาสตร์ที่โรงเรียนเศรษฐศาสตร์ ณ กรุงลอนดอนในปี ค.ศ. 1965 เจ้าหญิงมาเกรเธอทรงอภิเษกสมรสกับ อ็องรี-มารี-ฌ็อง อ็องดร์ เดอ ลาบอร์ด เดอ มงต์เปอซา (Henri-Marie-Jean André greve de Laborde de Monpezat) นักการทูตชาวฝรั่งเศส ซึ่งภายหลังได้สถาปนาเป็นเจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก เนื่องจากเป็นพระสวามีในมกุฎราชกุมารีแห่งเดนมาร์ก ทั้งสองพระราชองค์มีพระราชโอรส 2 พระองค์ คือเจ้าชายเฟรเดอริก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์กองค์ปัจจุบัน และเจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์ก เจ้าหญิงมาเกรเธอเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระราชินีนาถมาเกรเธที่ 2 แห่งราชอาณาจักรเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1972 ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชบิดา

อันดับที่ 4

      ได้แก่ สุลต่านคาบูส์ บิน ซาอิด แห่งโอมาน ครองราชย์มาแล้ว 41 ปี

อันดับที่ 3

         ได้แก่ สุลต่านฮัจยี ฮาสซานาล โบลเกียห์ สุลต่านแห่งบรูไนพระชนมพรรษา ครองราชย์มาแล้ว 44 ปี มีทรัพย์สิน 22 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นครองราชย์เป็นสุลต่านองค์ที่ 29 แห่งราชวงศ์บรูไนเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา ทรงรับมรดกตกทอดจากราชวงศ์ที่มีอายุยืนนานมา 600 ปี ทรงเป็นนายกรัฐมนตรี, รมว.กลาโหม, รมว.คลัง และผู้นำศาสนาด้วยพระองค์เอง ประเทศนี้มีน้ำมันและแหล่งแก๊สธรรมชาติ, สะสมเพชรนิลจินดาระดับเยี่ยม พระองค์ทรงเป็นนักกีฬาโปโลด้วย

 

อันดับที่ 2

        ได้แก่ ควีนอลิซาเบธที่ 2 ครองราชย์มาแล้ว 60 ปี เพิ่งจะผ่านมาไม่นานสำหรับพระราชพิธีเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และถือว่าเป็นกิจกรรมขบวนเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหานคร ลอนดอน มีเรือต่างๆเข้าร่วมในขบวน 1,000 ลำ ไม่ว่าจะเป็นเรือยนต์ เรือลากจูง เรือดันเคิร์กที่เคยอพยพทหารอังกฤษจากยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็อยู่ในขบวนด้วย

อันดับที่ 1

            ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช พระองค์ทรงเป็นพระมหามหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของโลก นั้นคือ 66 ปี และทีมงาน toptenthailand ทุกคนขอให้พระองค์ทรงอยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...