-3 ปีที่เปลี่ยนไป ห ลั ง แ ต่ ง ง า น กับ คุณ

 

 

 

 

 

 

นำมาจากเวปพันทิบจากห้องสวนลุมพินีของคุณ Oohopank13 

 

 เพิ่งครบรอบแต่งงานไปเมื่อวันก่อน

กลับไปดูรูปงานแต่งงานของเรา /ที่โอแอบไปซ่อนไว้ลึกสุดใจเห็นแล้วต้องตะลึงกับตัวเอง 

 

โอ้ววว นี่เราเหรอเนี่ย ........สามีเรารักเราลงเหรอตอนนั้น

ตัวเองยังไม่อยากดูสารรูปตอนนั้นเลย แต่สามีกลับรัก และดูแลเราไม่ว่าเราจะเปลี่ยนไปแค่ไหน

 

เห็นภาพแล้วตะลึงมั้ยค่ะ

 

 

 

หากยังไม่เห็นถึงความอวบอ้วน....

ขอพลีชีพเลยแล้วกัน ตอนแต่งงาน เหมือน shrek and fiona  ขาดแค่ทาตัวเขียวๆ

 

 

 

 

ภาพงานแต่ง ควรเป็นควาทรงจำไม่รู้ลืม

ซึ่งโอก็ลืมไม่ลงเหมือนกัน.... ลืมไม่ได้เลยว่าแอบเอาไปซ่อนไว้ไหน จะมีใครเห็นป่าว เก็บๆ

 

ตอนนั้นอ้วนมาก หนักซัก 80 โล ได้ 

 

เพิ่งเรียนจบ ป.โท  ก็เริ่มอ้วนแล้ว เนื่องจากเครียด เขียน thesis 

เครียดไปกินไป  หม่ำๆ

 

พอเรียนจบก็ได้ทำงาน ใกล้กับแฟน โอ้ยความสุข ชวนกันกิน

จน นน. ทะลุเพดาน เกินคำว่าอวบไปมากโข

 

ทุกอย่างสมบูรณ์ไปหมด โดยเฉพาะไขมัน 

 

ถึงเวลาต้องแต่งงาน ก็คิดจะลด...แต่ในใจคิดว่า มันไม่ทันหรอก

ก็ไปเข้าครอสลดน้ำหนักของสถาบันชื่อดัง

 

มันก็ลดลงนะคะ สักสองสามโล แต่ก็กินเข้าไปเหมือนเดิม เลยไม่ได้ผลเท่าไหร่

 

ตอนนั้นกระจกยังไม่อยากส่อง เสื้อผ้าไม่อยากหาใหม่เลย หาไซส์ยากมาก

แต่ก็พยามให้ความมั่นใจกับตัวเองว่า อย่างน้อยชั้นก็มีคนรัก  มีคนขอแต่งงานด้วย

ซึ่ง....ในใจลึกๆเรา มันมีความไม่มั่นคงซ่อนอยู่

 

แฟนจะรักเรามั้ย .....เวลาแฟนมองผู้หญิงอื่น มันบั่นทอนจิตใจ

ถึงแม้เค้าจะมองแค่ผ่านๆ

 

แต่เราซิ...ตัวเองยังไม่อยากมองเลย ยัยอ้วนอึ่ง

 

เมื่อก่อนโอก็ไม่ได้อ้วนขนาดนี้ค่ะ

 

ตอนเรียนโท... ตอนเริ่มจีบกันใหม่ๆ โอก็แค่อวบๆ นน.ประมาณ 50 kg

หนุ่มๆเพียบ ด้วยความอัธยาศัยดี คุยง่าย ลั่นล้า

 

พอคบกับแฟน ก็บินไปบินมาเชียงใหม่กรุงเทพ

ขาไปเนี่ยไม่เท่าขากลับ  บินไปที หอบ นน. กลับมาด้วยเดือนละสองโล

คือเจอหน้ากัน ชวนกันกินอย่างเดียว 

 

พอมาเจอ thesis เครียดๆ นอนดึก ก็ยัดทุกอย่างลงปาก จนกลายสภาพมาเป็นอย่างงี้

จาก นน.50 กระฉูดมา 80 Kg ใช้เวลาเพียงปีกว่าๆ

อิคุณแฟนก็น่ารัก บอก อ้วนไม่เป็นไร พี่ยศรักหนูโอเสมอ

เหอๆ....

 

อ้วนจนชนิดว่าพี่สนิทเค้าทักว่าหนูไปกินรถถังมาเหรอ

พ่อแม่ตะลึง เงียบ....ลูกตรูเปลี่ยนไป ฮ่าๆ 


 

จากนั้นก็พยามลดนน. แต่ไม่จริงจังเหมือนเคย

นึกในใจ เลิกกับแฟนง่ายกว่ามั้ย ยังไงเค้าก็ชวนเรากินตลอด

แต่ด้วยความที่เค้าเป็นคนดีมากกกกก เอาใจเราสุดๆ มันก็รักอะนะ 

 

 

โอเคยลดความอ้วนมาหลายวิธี ทั้งถูกทั้งผิด

 

ตอนป.ตรี ก็กินยาลดความอ้วนของคุณหมอ

มันก็ผอมลงจริงๆ ผอมเหลือ 45 kg เพรียวมาก

แต่ผลที่ตามมาของมันคือใจสั่น ไม่มีสมาธิ โทรม เริ่มร้องไห้ เริ่มฟุ้งซ่าน

พอผอมได้ที่ ก็คิดว่าพอแล้ว...เลิกกินยา

แล้วมันก็กลับมา   นน. เด้งไปที่ 60kg

 

เรียนต่อโทได้สักพัก....โดนแฟนเก่านอกใจ 

นน. ก็ลดเหลือ 55 Kg /ต้องขอบคุณมันที่ออกไปจากชีวิตชั้น Thank you so much

 

เจอแฟนคนปัจจุบัน ก็ยังคงอวบนิดๆ แต่เริ่มตั้งใจลดนน. กินน้อยลง วิ่ง ออกกำลัง 

นน. เหลือ ห้าสิบ กำลังดี ไม่กินยาลดความอ้วนใดๆ  เพราะเรียนหนัก ต้องทำเลป ใจสั่นไม่ได้ ล่องลอยไม่ได้

พอมีแฟนคนนี้ก็อ้วนมาเรื่อย อย่างที่บอก เจอหน้าก็กินตับ เอ้ย กินข้าวนอกบ้านกันตลอด

 

ถามแฟนกี่ที รักเค้ามั้ย เค้าก็บอกว่ารัก

มันเป็นคำเดียวที่หล่อเลี้ยงให้เรายังมีความมั่นใจ ภูมิใจในตัวเองได้บ้าง

ขอบคุณที่เคียงข้างกันเสมอ   

 

จุดเปลี่ยนของการลดนน. หลังแต่งงาน คือการดัดฟันคะและใจเรานี่แหละสำคัญที่สุด

 

ธรรมดาหลังแต่งงานแล้วเราก็อยากมีลูก

แต่ก่อนมีลูกเราต้องดูแลตัวเอง เตรียนมความพร้อมก่อน

ไปเช็คเลือด เช็คสุขภาพ แล้วก็พอจะรู้ตัวว่า ความอ้วนทำให้ฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าเพศหญิง

การตกไข่ หรือประจำเดือนจะมาไม่ปรกติ ไม่เสม่ำเสมอ เจ็บท้องมากจนทำอะไรไม่ไหว

และก่อนท้องต้องไปทำฟัน เพราะถ้าท้องแล้วอดทำ

 

โอก็เลยทำที่ง่ายที่สุดก่อนคือทำฟัน

คุณหมอแนะนำให้ดัดฟัน/ ตอนเกือบจะสามสิบเนี่ยนะ

เราก็ เอาว่ะ ทั้งที่กลัวเข็มที่สุดในโลก แต่เพื่อลูก

ยอมทำฟัน ถอนฟัน จัดการความสะอาดฟันใหม่

มันเป็นจุดเริ่มของความผอมค่ะ

 

มันกินไม่ได้...เคี้ยวไม่ได้ 

วันๆ กินแต่โจ๊ก ได้กลิ่นก็แทบอ้วกแล้ว แต่หิว ต้องกิน

การกินคือความเจ็บปวด

นน. ก็เลยลดลงแบบไม่รู้ตัว  


21 พ.ค. 56 เวลา 09:36 2,393 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...