เรื่องผี และสิ่งลี้ลับในจังหวัดสงขลา


เรื่องที่จะนำมาเล่าต่อจากนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนได้รับทราบจากการออกเดินทางไปทำงานวิจัยตามสถานที่ต่างๆในจังหวัดสงขลา  เเน่นอนล่ะว่าการออกเก็บข้อมูลงานทางไทยคดีศึกษาในเรื่องต่างๆ ตามสถานที่ต่างๆย่อมต้องได้รับทราบข้อมูลทั้งเชิงประจักษ์ เเละความเชื่อในเเนวทางเฉพาะถิ่น  อาทิ ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องภูติผี เเละดวงวิญญาณ(ลัทธิวิญญาณนิยม)  เพื่อนๆหลายๆคนของผู้เขียนเลยขอให้ทำการรวบรวมนำมาเล่าสู่กันฟัง(บ้าง)  เพื่อเป็นประสบการณ์เเลกเปลี่ยนกัน  

ปล.  เชื่อก็ได้.....ไม่เชื่อก็ได้..........เเล้วเเต่จะคิดนะครับ


1.หน้าโรงเรียนอุดมศึกษาพานิช......สมัยก่อนล่วงผ่านเลยมามีเรื่องเล่ากันปากต่อปากจากผู้สูงวัยว่าที่เชิงสะพานตอนเช้าตรู่(ราวตี 4-6 โมงเช้า)มักจะมีสาวสวยผมยาวผิวขาวมากๆ  ใส่ชุดขาวมายืนโบกรถอยู่  หากใครจอดรถรับ  เธอจะหายไปพร้อมกับความซวย  หรือเรื่องร้ายๆที่เข้ามาเยือนคนดวงซวยคนนั้น...บรื๋ออออ

2.บริเวณถนนศรีภูวนารถ มีซอยหลายซอยมากๆ  มีอยู่ซอยหนึ่งคือซอย 12  ซอยนี้เองมีโรงเก็บหัวหอมร้างอยู่ซอยหนึ่ง  เล่าลือกันว่าผีดุมากๆ  มีเรื่องเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีลูกจ้างโรงเก็บหัวหอมถูกบานประตูเหล็กตกใส่ ทับจนร่างกายเเหลก เละทั้งตัว  ไม่มีใครสามารถจะนอนค้างคืนในโรงเก็บหัวหอมร้างซอย 12 ได้เพราะถูกหลอกกันมานับไม่ถ้วนเเล้ว

3.สะพานรถไฟ(มีราวเหล็ก)ที่ตั้งอยู่ในบริเวณบ้านน้ำน้อย  เคยมีคนตายกว่า 400 ศพ  ที่สำคัญเป็นการตายโหง ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2  โดยเชื่อกันว่าที่นี่เฮี๊ยนมาก  คนเฒ่าคนแก่หลายคนเรียกสะพานรถไฟแห่งบ้านน้ำน้อยว่าสะพานสายมรณะ  บ้างก็ว่าเป็นสะพานผีตายโหง  เคยมีเรื่องเล่าในอดีตว่า  เคยมีกลุ่มคนมายืนโบกรถอยู่ที่แถวๆสะพานรถไฟดังกล่าว  โบกรถเพื่อจะไปสงขลา  พอรถให้ขึ้นมาปรากฏว่าระหว่างขับกลุ่มคนดังกล่าวก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย  ทำเอาคนขับรถถึงกับจับไข้ไปหลายวัน

4.ซอยๆหนึ่งข้างวัดโคกนาว กับห้างโลตัส เด็กหาดใหญ่เรียกกันว่า...." ซอยคุณยายสปีด " เชื่อกันว่าหากขับรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาในซอยคนเดียวหลังเที่ยงคืนในคืนเดือนมืดเเล้วจะเจอกับผีคุณยายสปีดหลอกเอา  ด้วยการกระโดดขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์  ใครดวงซวยอาจถึงตายได้

5.ถนนสายหาดใหญ่-สงขลา(สายใหม่)ก่อนถึงปั้นน้ำมันมีเรื่องสยองเล่าว่า  เคยมีกลุ่มรถซิ่งถูกสายสลิงที่ขึงไว้กับต้นไม้ใหญ่ 2 ข้างทาง  ตัดเอาคนนั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นผู้หญิงจนหัวขาดมาเเล้ว.........เชื่อกันว่าหากขับรถมาตอนกลางคืนเเล้วเห็นคนขับมอเตอร์ไซด์ไม่มีหัว.....อย่ามอง หรือชี้มือไปหา  เพราะท่านอาจจะซวยเอาได้

6.บริเวณเปิดท้ายกรีนเวย์(ข้างป่าช้าโคกโพธิ์).......เเต่เดิมเป็นวังน้ำขนาดใหญ่  ชาวบ้านคลองเรียนเรียกกันว่า " วังน้ำดำ "  เชื่อว่าเป็นดินเเดนอาถรรณ์ที่ผู้มีวิชาอาคมมักมาลองปล่อยของกัน

7.วัดโคกนาว......สมัยก่อนเรียก " โคกเน่า "  เพราะเคยมีการฝังศพกันเป็นจำนวนมาก  เเต่ปรากฏว่ามีน้ำท่วมขังในบริเวณดังกล่าวในปีหนึ่ง  ชาวบ้านเลยจำต้องนำศพไปผูกติดเอาไว้กับกิ่งไม้ใหญ่  บ้างก็ว่ามีนายพรานหลายคนไปยิงสัตว์ในโคกเน่า  ถูกซากศพที่เน่าเปื่อยตกใส่จนขวัญหนีตามๆกัน  ผู้เขียนเคยสัมภาษณ์ผู้เฒ่าผู้เเก่ท่านหนึ่ง  ท่านกรุณาเล่าให้ฟังว่า.....หากมืดค่ำจะไม่ยอมเดินทางผ่านโคกเน่าเป็นอันขาดเพราะผีที่นี่หลอกเก่งที่สุด

8.หน้าสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่..........เชื่อกันว่าเฮี๊ยนน่าดูชม......เพราะจะต้องมีคนถูกรถชนตาย หรือรถทับตายทุกปี  หลายคนบอกว่าเขาต้องการ  " ตัวตายตัวเเทน "

9.หน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่......บริเวณใต้สะพานลอยหน้าวิทยาลัย  เชื่อกันว่ามีผีเฝ้าอยู่ใต้สะพานลอย.....ใครดวงถึงฆาตจะถูกผีผลักให้รถชนเพื่อเป็นตัวตายตัวเเทนตน(เด็กเทคนิคหาดใหญ่เล่ากันภายใน)

10.เจ้าที่ที่ปกป้องรักษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่นอกจากจะมีพระวิษณุกรรมแล้ว  บริเวณเชิงเขา(ข้างแผนกช่างยนต์)ยังมีเจ้าที่เก่าของที่นี่ปรากฏให้ได้เห็น  ครู-อาจารย์ เรียกท่านว่า “ทวดตาเดียว”  ส่วนนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่เรียก “เจ้าพ่อตาเดียว”  ถือกันว่าท่านนั้นศักดิ์สิทธิ์มากๆ  บูชาหรือเซ่นด้วยอะไรก็ได้  ยกเว้นเนื้อสุกร(เพราะท่านเป็นมุสลิม)

11.เจ้าที่ที่มหาวิทยาลัยทักษิณเด็กที่นี่เรียกกันว่า......" ทวดเลียบ "  เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่  ปรากฏในรูปของต้นไม่ใหญ่  เชื่อกันว่าหากใครขวัญอ่อน หรือต้องการเจริญก้าวหน้าในการเรียน หรือการงานด้านต่างๆให้บูชาท่านด้วยยาคูลท์ เท่านั้น

12.หน้าตึกเรียนอาคาร 13 ภายในมหาวิทยาลัยทักษิณ  เชื่อกันว่ามีความเฮี๊ยนระดับสูงมากๆ  เเละที่หน้าตึกเรียนอาคาร 13 นี้เองที่มีฮวงซุ้ยขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าตึก(น่าจะเป็นตึกเรียนตึกเดียวในประเทศไทยที่มีฮวงซุ้ยตั้งอยู่ด้านหน้า)  เล่าลือกันว่าบางครั้งดึกๆจะมีคนเดินไปเดินมาที่หน้าฮวงซุ้ย  มองนานๆเเล้วท่านก็จะหายไป

13.ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา  เชื่อกันว่าสระน้ำหน้าอาคารตึกอำนวยการหลังเก่า.........เคยมีเด็กผู้หญิงที่มาเข้าค่ายที่นี่จมน้ำตาย  เธอมักชอบออกมาเล่นงานคนที่ดวงถึงฆาตด้วยการดึง หรือลากลงไปในน้ำ

14.ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา  อาคารหอสมุด(หลังเก่า).........เชื่อกันว่าที่ บล็อก ฮ. นกฮูก  มีดวงวิญญาณของนักศึกษาที่นี่สิงอยู่  ท่อนบนเป็นผู้ชายใส่ชุดช่างอุตสาหกรรม  ท่อนล่าง........ไม่มี !!!

15.เเถวๆท้ายวัดคลองเรียน........ในอดีตยังมีต้นยางใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง  บนต้นยางปรากฏเป็นฝูง "ชิน" จำนวนมากลอยอยู่(ชิน  หลายคนเชื่อว่าเป็นผีชนิดหนึ่ง รูปลักษณะเป็นดวงไฟสีขาวขุ่นใหญ่ประมาณเท่าลูกฟุตบอล-1 เมตร) ปัจจุบันเชื่อว่าต้นยางใหญ่ดังกล่าวไม่มีเเล้ว  เเละน่าจะเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านร่มเย็น(ตรงบริเวณไหนไม่อาจคาดเดาได้เเน่ชัด)

16.รถเมล์สายหาดใหญ่-สงขลา(เด็กหาดใหญ่เรียก รถโพธิ์ทอง)......เชื่อกันว่ามีรถโพธิ์ทองอยู่คันหนึ่งมักปรากฏหญิงสาวในชุดนักศึกษา  ผมยาว  เธอมักชอบนั่งอยู่เก้าอี้เกือบท้ายสุดในยามหัวค่ำ  พอมองไปนานๆเธอจะหายไป

17.หลังวัดคลองเเห  ตำบลคลองเเห  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา.......เชื่อกันว่ามีเนินดินสูงอยู่เนินหนึ่ง เรียก...." โคกนกคุ่ม " ภายในเนินดินว่ามีทรัพย์สมบัติฝังอยู่  เเละมีผีนานาชนิดเฝ้าดูเเล  อาทิ ผีปลาหัวกระโหลก

18.เเถววัดคูเต่า ตำบลเเม่ทอม สงขลา(วัดคูเต่าหลังเเรก....วัดสระเต่า)เคยมี ?เสือสมิง? อาศัยอยู่ใกล้บริเวณวัดได้เข้าทำร้ายสามเณรมรณภาพ 1 รูป คือสามเณรถูกกัดจนศีรษะขาดและถูกกินเป็นอาหารเป็นที่เล่าลืออย่างสยดสยองต่างๆนานา(เสือสมิง คือ เสือร้ายที่เชื่อกันว่าเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณร้ายที่แปลงร่างขึ้นมา)   

19.วัดโลการาม  บ้านสะทิ้งหม้อ  สิงหนคร สงขลา...........มีเจ้าที่ประจำวัดเป็นพญางูจงอางขนาดใหญ่  เรียก " ทวดตาหลวงรอง " เชื่อว่าใครบูชาเเล้วจะเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ.....นอกจากนี้ยังเชื่ออีกด้วยว่าหากใครจะเข้ามาขโมยทรัพย์สมบัติของทางวัดจะโดนงูทวดเล่นงานจนต้องหนีกระเจิงทุกรายไป

20.หน้าอุโบสถวัดพรุเตาะ  หาดใหญ่  สงขลา มีต้นโพธิ์อยู่ต้นหนึ่ง........เชื่อว่าต้นโพธิ์นี้เเต่เดิมคือเจ้าอาวาสวัดพรุเตาะ  ครั้งหนึ่งท่านได้ใช้น้ำมันราดเเละเผาตนเองจนมรณภาพ  เเล้วท่านก็ได้เกิดใหม่เป็นต้นโพธิ์หน้าอุโบสถ(ชาวบ้านเขาเชื่อกัน)

21.บริเวณหัวเขาแดง-สงขลา  เชื่อกันว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยป้องปกดูแลอยู่เรียกว่า ?ทวดหัวเขาแดง?  เชื่อกันว่าท่านนั้นมักปรากฏกายให้ได้เห็นในรูปของจระเข้ใหญ่มีนัยตาสีแดงเพลิง

22.น้ำตกโตนงาช้างที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสงขลาในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนงาช้าง  ปรากฏมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ป้องปกอยู่เรียกว่า “ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง”  ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกับน้ำตกเชื่อว่าท่านนั้นมีรูปกายเป็นเสือดำขนาดใหญ่ มีเรื่องเล่าว่าราวปี พ. ศ. 2549 ได้มีนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์คนหนึ่งเดินทางมาเที่ยวน้ำตกโตนงาช้าง  จนตกช่วงเย็นชายคนดังกล่าวได้ออกเดินทางปีนขึ้นไปชมทัศนียภาพบนน้ำตกโตนงาช้าง จากนั้นจึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย  เพื่อนๆที่มาด้วยกันจึงออกตามหาแต่ก็หาไม่พบจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของทางน้ำตกทราบช่วยกันตามหาจนช่วงดึกจึงต้องยกเลิกไปแล้วออกหาตอนเช้าอีกที  หาอยู่ 3 วัน 3 คืนก็ยังหานักท่องเที่ยวชายชาวสิงคโปร์คนดังกล่าวไม่พบ  จึงได้เชิญหมอไสยศาสตร์มาทำพิธีกรรม “เข้าทรง”  และพอได้รับข้อมูลมาว่านักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์ที่หลงป่ายังมีชีวิตอยู่  ประทังชีพด้วยการกินยอดไม้ และน้ำเป็นอาหาร เขาเพียงโดน “ผีบังตา” เอาไว้ท่านมิต้องเป็นห่วงแต่ประการใด  ถึงเวลาเขาก็จะกลับมาเอง  แต่หลังจากนั้นก็ขอให้ช่วยสร้างศาลให้เราอยู่ด้วย  หัวหน้าทีมค้นหาจึงสัญญาว่าหากหาเจอก็จะสร้างศาลสถิตบูชาให้  วันที่ 4 ที่ออกค้นหาจึงหานักท่องเที่ยวคนดังกล่าวจนพบแล้วสร้างศาลให้เรียกว่า “ทวดตาขุนดำ-ทวดโต๊ะปะหวัง”

23.ห้องเบอร์ 333  ณ โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่เยื้องๆกับฟาร์มจระเข้เก่า.........เชื่อกันว่ามีผีฝรั่งสิงสถิตอยู่  หากใครจิตอ่อนเวลานอนอยู่บนเตียงจะถูกลากขา  หรือบีบนวดขาให้ในเวลากลางคืน........ให้แก้เคล็ดด้วยการนำเหรียญบาท 3 เหรียญมาวางไว้ตรงมุมบานประตูทางเข้าห้อง(ด้านใน)แล้วบอกกล่าวขอเช่าห้องกับผีเจ้าของห้องก่อนจึงจะอยู่ได้อย่างปกติสุข(เจอกันหลายคนแล้วห้องเบอร์นี้)

24.ชาวอำเภอเมืองสงขลา  เชื่อกันว่า ณ เขารูปช้างมีผีฟ้า-เทวดาป้องปกรักษาอยู่เรียกกันว่า “ทวดช้าง” หรือ“พ่อทวดช้าง”  เชื่อว่าเป็นดวงวิญญาณของควาญช้างและพญาช้างใหญ่ 2 เชือก(พ่อพลายแก้ว  และแม่พังงา) 

25.แถวน้ำตกโตนงาช้าง  และย่านหูแร่ในสมัยก่อนเชื่อกันว่ายังมี ?ผีหลังกลวง? อาศัยอยู่เชื่อกันว่าผีหลังกลวงเป็นความเชื่อของชาวไทยภาคใต้มีลักษณะเป็นเหมือนกับคนธรรมดาแบบเราๆท่านๆนี่แหล่ะ แต่มันไม่ชอบใส่เสื้อผ้า(ประมาณว่าใส่แต่กางเกงที่ขาดรุ่งริ่ง)และที่สำคัญคือมันมีสันหลังที่กลวงโบ๋วมีน้ำหนองไหลออกมาอย่างน่ากลัว ผีหลังกลวงชอบอาศัยอยู่ในแถบสถานที่ๆมีอากาศเย็นโดยเฉพาะในบริเวณน้ำตกต่างๆของทางภาคใต้ เชื่อกันว่ามันชอบกินของดิบๆเป็นนิสัย ส่วนกรรมวิธีในการหลอกคนก็คือ มันจะมาทำทีพูดจา-เจรจาเป็นมิตรกับผู้ที่ผ่านถิ่นที่อยู่ของมันในยามค่ำคืน  จากนั้นมันจะแกล้งคันหลังแล้วขอให้มิตรใหม่ช่วยเกาหลังให้........หันหลังให้คนที่มันจะหลอกดู(หลายคนพอได้เห็นหลังอันกลวงโบ๋วของมันแล้วก็อาจจะกลัวจนวิ่งหนีไปเลยก็มี) แต่ผีหลังกลวงในบางพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดพัทลุงนั้นมันมีวิธีหลอกโดยการเดินมาตอนกลางคืนแล้วอาสาว่าจะช่วยตำข้าวให้ พอเจ้าของบ้านเผลอมันจะฉวยโอกาสหักคอกับครกตำข้าว(คนพัทลุงในสมัยก่อนเลยไม่ค่อยมีใครนิยมตำข้าวตอนเวลากลางคืน)

2 พ.ค. 56 เวลา 12:41 1,960
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...